1 เมื่อพนิช ในสถานะ ส.ส.ของไทยและเป็นคนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีไทย และเป็นอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศ ที่สำคัญ เข้าไปในพื้นที่ของเขมรโดยการรับรู้ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของราชอาณาจัีกรไทย ที่มีคนบารมีมากมายในประเทศให้การสนับสนุน
2 พนิช ได้ให้การยอมรับสารภาพแล้วว่าได้เข้ามาในพื้นที่ของเขมร (ไม่ว่าจะเจตนา หรือไม่เจตนา) ซึ่งนั้นเป็นการยอมรับโดย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทย ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรคและเป็นนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรไทย ดังนั้นจึงเป็นการยอมรับว่า พื้นที่ที่พนิช ถูกจับกุม นั้นเป็นของเขมรแล้ว
3 นายกษิต ภิรมณ์ รัฐบมนตรี่ต่างประเทศของราชอาณาจักรไทย แถลงข่าวยอมรับว่า พนิช และคนไทยอีก 6 คน เข้าไปในพื้นที่ของเขมร กว่า 50 เมตร จึงเป็นการรับรอง 2 ข้อแรกเพิ่มมากขึ้น
4 รัฐบาลไทยให้การยอมรับการดำเนินคดีของศาลเขมร โดยการแต่งตั้งทนายความ เข้าไปสู้คดี นั่นคือการยอมรับว่าศาลเขมรมีอำนาจในการตัดสินคดีในพื้นที่เขมร จึงยิ่งเป็นการตอกย้ำอีกว่า พื้นที่นั้นเป็นของเขมรจริง
5 เมื่อในดดีตที่ไทยต้องเสียปราสาทพระวิหารให้กับเขมรนั้น เขมรใช้หลักฐานหนึ่งคือ ภาพถ่ายของผู้มีอำนาจและข้าราชการไทยที่ขึ้นไปบนปราสาทฯ แล้วมีธงชาติเขมรในสมัยนั้นอยู่ในภาพ ทำให้ศาลโลกตัดสินให้ปราสาทพระวิหารตกเป็นของเขมรทัีนที เพราะไทยไม่เคยปฏิเสธเลย
6 ครั้งนี้เขมรมีทั้งภาพเคลื่่อนไหวที่ถ่ายโดยคนไทย และมีพนิช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทย อยู่ในภาพ มีเสียง มีการให้การในศาลด้วยการยอมรับสารภาพ มีนายกฯไทยและรัฐมนตรีต่างประเทศไทย และมีรองนายกฯสุเทพ ที่ดูแลด้านความมั่นคงของประเทศ ยอมรับว่าคนไทย 7 คน เข้าไปในเขตเขมร
วันนี้ประชาชนคนไทยต้องจารึกว่า หากประเทศไทยต้องเสียดินแดนในครั้งนี้ ก็เพราะ นายพนิช วิกฤติชาติ (เศรษฐ) กับคนไทยสีเหลือง 6 คน ร่วมกับนายกรัฐมนตรีไทยชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายกษิต ภิรมณ์ และพลเอกประวิตร ตลอดจนคนในพรรคประชาธิปัตย์ทั้งหมด เป็นกุลุ่มคนที่ทำให้ไทยอาจ หรือต้องเสียดินแดนอีกครั้ง หลังจากที่ม.ร.ว.เสีนีย์ ปราโมช อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้ไทยเสียปราสาทพระวิหาร และยังมีปัญหาพื้นที่รอบปราสาท มาจนถึงวันนี้
สวัสดีครับพี่น้องชาวไทยผู้รักชาติ