[รักคนเสื้อแดง] ยังมีคนพยายามบิดให้เกิดความเข้าใจผิดว่า รดน. เปลี่ยนเป็นระบบใหม่เป็นเพราะสมาชิกและสาระ / รวมมิตรจับฉ่าย

สาเหตุหลักที่แท้จริงที่ราชดำเนินเปลี่ยนระบบ !

เพื่อป้องกันการลบกระทู้ ที่ผมเคยอธิบายความไปแล้วเมื่อสองวันก่อนแล้วกระทู้ถูกแจ้งลบ วันนี้ผมขอตอบประเด็นนี้เพียงสั้นๆ ว่า "สถานการณ์ทางการเมือง คือ สาเหตุแห่งการเปลี่ยนแปลง"

ดังนั้นเพื่อนสมาชิกที่สนับสนุนราชดำเนินแบบใหม่ ถ้าลืมนำสาเหตุข้อนี้มาบอกก็คงไม่ว่ากระไร แต่พวกที่จงใจบิดเบือนถึงสาเหตุโดยการเบี่ยงเบนประเด็นถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดรดน.ระบบใหม่นั้นเกิดจากคุณภาพในการตั้งกระทู้ของเพื่อนสมาชิกและบลาๆๆ นอกจากจะเป็นการหลอกตนเองว่าเป็น"อัจฉริแยะ"เพื่อต้มคนดูที่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล ยกเว้นสมาชิกใหม่ที่ไม่ทราบสาเหตุถึงที่ไปที่มา

การกระทำเช่นนี้เปรียบเสมือนการยกตนข่มท่าน ยกตนเองเป็นมาตรฐาน แถมยังตีขลุมทึกทักเหมาเอาเองว่ากระทู้อภิปรายที่ตนเองตั้งถือเป็นข้อสรุปเป็นที่ยุติแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เขียนเองตัดสินเอง ผมเองอ่านแล้วนอกจากขำกลิ้งแล้วยังทึ่งเลยนะฮาฟฟฟ

แต่สุดท้ายใช่ว่าข้อมูลที่ท่านนำเสนอจะไม่มีประโยชน์เลยซะทีเดียว การเสาะแสวงหาข้อมูลบางเรื่องบางประการที่มันเป็นเรื่องส่วนบุคคลบางคนมาเปิดเผยเปิดโปง ซึ่งเรื่องดังกล่าวในบางเรื่องหรืออาจจะหลายเรื่องนั้นจะส่งผลดีต่อขบวนการการต่อสู้เพื่อให้ได้มาเพื่อประชาธิปไตยที่เป็นของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง โดยที่ท่านเองก็หารู้ตัวไม่หรอกว่าการตั้งกระทู้มุ่งร้ายใครบางคนกลับส่งผลดีต่อขบวนการการต่อสู้ของประชาชน

---

ราชดำเนินระบบใหม่ vs. ระบบเก่า อย่างไหนดีกว่า?

คราวนี้มาเข้าเรื่องกระทู้แบบใหม่และแบบเก่ากัน ถ้าจะยังจำความกันได้ เพียงแค่วันแรกที่ห้องรดน.เปิดภายหลังเหตุการณ์กระชับพื้นที่จบลงสองอาทิตย์ในวันที่ 15 มิ.ย. กระแสผิดหวังกับรดน.ในรูปโฉมใหม่โหมกระหน่ำตั้งออกมาเป็นกระทู้ดังสายน้ำเชี่ยวกราด จนเป็นที่มาของคำชี้แจงของ wm ที่ลงวันที่ 16 มิ.ย. (อะไรที่สัญญาว่าจะทำให้แล้วทำได้หรือไม่ได้ ก็มีหลักฐานทิ้งไว้เป็นลายลักษณ์อักษร)

และจำนวนกระทู้ที่มากกว่าครึ่งนั้นได้แสดงเจตจำนงค์ว่าจะไม่โพสต์ ไม่ตั้งกระทู้และจะไม่ขอเข้ามาที่นี่อีกเมื่อระบบราชดำเนินแบบใหม่ได้ลิดรอนสิทธิการโพสต์แสดงความคิดเห็นและจำกัดการตั้งกระทู้ให้เพียงหนึ่งสิทธิหนึ่งกระทู้ต่อวัน ตอนนั้นอีกฝ่ายก็ได้ทีขี่แพะไล่ทำการตั้งกระทู้แนวขับไสไล่ส่ง

ผมนี่ล่ะคนหนึ่งที่ออกมาตั้งกระทู้เพื่อเรียกร้องให้เพื่อนๆ เสื้อแดงอย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจทิ้งราชดำเนินพันทิปแห่งนี้ไป เพราะถ้าจะว่ากันถึงเว็บบอร์ดทางการเมืองที่เป็นเว็บบอร์ดทางกลางเมืองกระแสหลักที่เป็นพื้นที่สาธารณะที่คนรู้จักเป็นที่นิยมและเป็นกลางจริง ก็คงจะมีเพียงแต่ห้องราชดำเนินพันทิปที่เปิดโอกาสให้สมาชิกสามารถใช้สิทธิตั้งกระทู้แสดงความคิดเห็นทางการเมืองโดยไม่มีการปิดกั้นโอกาสฝ่ายใดๆ ถ้าไม่ทำผิดกฎ ระเบียบที่ตั้งไว้

ครับแม้ผมจะตั้งกระทู้ทัดทานทำตัวเป็นกองหน้าแจกผ้าเย็น แต่กระทู้ผมก็ไม่สามารถหยุดยั้งความตั้งใจที่ร้อนแรงของเพื่อนสมาชิกได้ ภายหลังจากวันนั้นไม่นาน ราชดำเนิน พันทิป ก็อยู่ในช่วงภาวะซบเซากินเวลาเป็นระยะยาวนาน แต่ก็ยังมีเพื่อนสมาชิกอาวุโสที่เห็นกันประจำได้ทำหน้าที่ยืนหยัดอดทน เป็นหัวหอกตัวหลักคอยตั้งกระทู้ซัดเป้าเข้าใส่ฝ่ายผู้มีและสนับสนุนอำนาจรัฐ(ทหาร)

อาทิ คุณทวดเอง คุณคนอุบล โดยมีกองกลางตัวจ่ายอย่างคุณ sao..เหลือ..noi และมีกองกลางและกองหลังตัวรับ อาทิ คู่พระคู่นาง คุณตระกองขวัญ คุณ Jampoon และยังมีตัวสำรองซุปเปอร์ซับที่บางทีก็ถูกส่งลงมาล่อเป้า เฮ้ย กระทุ้งเป้าอย่างคุณ SassyKate และอื่นๆ อีกมากมายนับไม่ถ้วนที่คอยหมุนเวียบสลับสับเปลี่ยนกันเข้ามาตั้งกระทู้เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือแสดงความรู้สึกนึกคิดต่อสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงนั้นๆ

สำหรับการตัดสินว่า รดน.ระบบใหม่ vs. ระบบเก่า อย่างไหนดีกว่ากัน ผมเองก็ไม่ใช่วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้เป็นเครื่องมือวัดคุณภาพของกระทู้ และผมคงจะไม่สามารถอุปโลกตั้งตนเป็นตลับเมตรมาตัดสินชี้ขาดว่าตนเองมีความยาวเหนือกว่าไม้บรรทัด แล้วด้วยความยาวจะทำให้ตนเองวัดได้ดีกว่า เที่ยงตรงกว่า ขนาดองค์กรพะยี่ห้อว่ามีความเที่ยงตรง เที่ยงแท้ มันยังเป็นของปลอม ก็เพราะว่าคนเราแต่ละคนมันยังมีรัก โลภ โกรธ หลง มีกิเลส ตัณหา ไม่ใช่พวกเทวดาเดินดินกินข้าวแกงจอมปลอมที่ตั้งตนเป็นศูนย์กลางจักรวาลถูกอกถูกใจพวกจริตนิยมที่มีศูนย์การค้าเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางใจ

แต่ถ้าจะถามผมเพื่อคาดคั้นให้ผมต้องตอบว่า ระหว่างรดน.ระบบใหม่ vs. ระบบเก่า ผมชอบระบบไหนมากกว่า ผมก็คงต้องสารภาพ บอกความจริงโดยยึดตามจริตที่บ่งบองถึงความเป็นผมว่า ผมชอบระบบใหม่ สาเหตุที่ผมชอบไม่ใช่มาจากคุณภาพหรือสาระเป็นตัวตั้ง แต่มาจากจริตของผมเป็นตัวตั้ง ถ้าใครเคยสังเกตพฤติกรรมการตั้งกระทู้ของผมในอดีตในรูปแบบรดน.ระบบเก่า เพื่อนสมาชิกจะเห็นข้อสังเกตหนึ่งในกระทู้ที่ผมตั้งอย่างเห็นได้ชัดว่า

นอกเหนือไปจากการถกเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประเด็นในกระทู้แล้ว ผมจะไม่นิยมสนทนาพาที ทำการพูดคุยเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนสมาชิกเท่าที่ควร เพราะว่ามันเป็นอุปนิสัยส่วนตัวของผมเอง บางคนอาจจะนึกว่าผมหยิ่งหรือถือตัวเสียด้วยซ้ำ ข้อดีข้อเสียอื่นของแต่ละระบบที่เพื่อนสมาชิกหลายท่านเขียนไว้ สำหรับผมคงขอละไว้ เพราะถ้าจะอ้างถึงคนที่ทำดีและทำแย่ มันก็มีกันทั้งสองฝ่าย อยู่ที่ตนเองจะเลือกหยิบเฉพาะการกระทำผิดของฝ่ายตรงข้ามมาเป็นตัวอย่างประกอบ จะเข้าข่ายเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่นไป

ดังนั้นจะเห็นได้เลยว่าผมไม่ได้บอกว่าระบบใหม่ดีกว่าเพราะระบบเก่าไม่ดี และบิดเบือนเอาความคิดเห็นส่วนตัวมาใช้เป็นมาตรฐานในการวัดคุณภาพกระทู้ว่ามีสาระหรือไม่ หรือนำมาเป็นเบี่ยงเบนสาเหตุแท้จริงของการเปลี่ยนแปลงระบบในห้องรดน.แต่อย่างใดไม่ ครั้นจะอาศัยเครื่องมือที่จะใช้วัดและพอพิสูจน์ได้เป็นกระบวนการวิทยาศาสตร์หน่อยก็ต้องใช้แบบสอบถาม ต้องใช้การสุ่มตัวอย่างจากผู้ใช้รดน.พันทิปทั้งขาประจำและขาจรเป็นจำนวนหนึ่งซึ่งต้องมากพอ ไม่ใช่เอาความคิดของคนเพียงคนเดียว หรือกลุ่มที่มีเพียงหยิบมือเมื่อเทียบกับปริมาณความคิดเห็นทั้งหมดของสมาชิกมาเป็นตัววัด

สรุป ถ้าวัดตามความพึงพอใจส่วนตัวผมชอบแบบใหม่ แต่ถ้าว่ากันตามคำพูดที่ว่า "หลายคนดีกว่าหัวเดียว" คนเดียวมีแค่หนึ่งมุมมอง การจะได้มุมมองที่ครบถ้วนรอบด้าน ต้องอาศัยมุมมองจากหลายๆ คนมาเป็นส่วนเติมเต็ม และอาศัยผู้ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นในกระทู้เป็นผู้ชี้วัดโดยทางอ้อม ไม่ใช่ตั้งเอง อวยเองหลอกตนเองไปวันๆ ผมอยากให้ส่วนรวมได้ใช้ราชดำเนินระบบเก่า

---

จากม็อบสีลม ขึ้นต้นเป็นพวกหลากสี ลงท้ายเป็นพันธมิตรฯ
สู่ม็อบราชประสงค์ ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ ลงท้ายจะเป็นอะไร

ผมคงไม่ขอวิเคาะวิแคะถึงที่ไปและที่มาในสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างผู้ค้าราชประสงค์พ่วงโรงแรมดังหัวถนนสีลม vs. แกนนำนปช.ที่สวมหัวโขนทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการเจรจา ซึ่งทั้งกลุ่มผู้ค้าและแกนนำนปช.เอง ต่างเป็นคู่กรณีที่มาทีหลังการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงภายหลังการสลายการชุมนุมภายใต้วาทกรรมการกระชับวงล้อมที่ถูกใจจริตชนนำมาอ้างอิงว่ามาตรการทางทหารดังกล่าวเป็นไปตามขั้นตอนการสลายการชุมนุมตามมาตรฐานสากลจากเบาไปหาหนัก จากรถหุ้มเกราะไปจนการยืนบนรางรถไฟฟ้าไล่ยิงคนที่เข้าไปหลบอยู่ในวัดที่เป็นเขตอภัยทาน

ผมจำได้แม่นว่า ภายหลังการสลายการชุมนุมเพียงไม่กีวัน  ผมได้ตั้งกระทู้ที่เว็บบอร์ดประชาไทตามกระทู้ที่สามารถค้นหาได้จาก google คือวันที่ 27 พ.ค. (ตอนนั้นราชดำเนินปิดตัวเองอยู่) โดยมีเนื้อหาตามตารางดังต่อไปนี้

การฟื้นตัวที่รวดเร็วของเสื้อแดงจะทำให้อำมาตยาเสียขวัญ การเอาชนะไม่ใช่การยกทัพจับศึก จับอาวุธทำศึกพุ่งรบ ทั้งๆ ที่รู้ว่าศึกที่ผ่านมาเสื้อแดงพร้อมเสียสละเลือดเนื้อและชีวิต แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆ ก็ยากที่จะหักห้ามทำใจให้ยอมรับกับการสูญเสียได้ เมษา-พฤษภา บทเรียนที่ผ่านมา น่าจะทำให้ชาวประชา เสื้อแดงสายฮาร์ดคอร์ รู้ว่าอำมาตยาใจดำอำมหิตแค่ไหน ถ้าเขาคิดใช้กำลังกันเมื่อไหร่ ก็มีแต่การสูญเสียและเจ็บปวดเมื่อนั้น ใครคิดอยากจะเล่นใต้ดินก็ปล่อยเขาไป ใจเขาใจเราบังคับกันไม่ได้ สำหรับพวกเรา เสื้อแดงตาดำๆ ก็ขอแนะเล่นกันบนดินนี่ล่ะ ติดอาวุธทางปัญญาให้ชาวบ้าน ทำตัวเป็นอาจารย์สอนลูกสอนหลาน สอนน้องสอนนุ่ง สอนมิตรชิดใกล้ สอนวงศาคณาญาติ ใช้เทคนิคทางวิชาการ จัดอบรม ทำสัมนา ออกงานนิทรรศการ เพื่อนำเสนอ แลกเปลี่ยนข้อมูล รำลึกวีรชน ตอกย้ำพฤติกรรมฆาตกร ขยายเครือข่าย พัฒนาองค์กร ปลูกฝังเยาวชน เสริมสร้างผู้นำรุ่นใหม่ๆ เลือกตั้งนำสส.เข้าไปแก้ไขกฎหมายเพื่อทวงคืนอำนาจอธิปไตย ให้เป็นของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน และเมื่อถึงเวลานั้นก็จะได้เวลาชำระประวัติศาสตร์ที่ถูกบิดเบือนกันเสียที เอาคนผิดมาลงโทษ เอาคนให้ท้าย คนออกคำสั่งมาลงทัณฑ์ หนทางยังอีกยาวไกล การวางแผนต้องมีทั้งระยะสั้นและระยะยาว ระยะสั้นจงรวมตัวแสดงพลัง อวดความมุ่งมั่น โชว์ความยืนหยัด ให้อำมาตยาได้เห็นว่า เสื้อแดงไม่มีท้อ เสื้อแดงไม่มีถอย เสื้อแดงล้มแล้วลุก แล้วก็พร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้า เพื่อล้มอำมาตยาให้หมดสิ้นไปจากผืนแผ่นดินไทย ในเชิงสัญลักษณ์ ถ้าเสื้อแดงสามารถเปลี่ยนแปลงขนบธรรมเนียมประเพณีบางประการ ที่เสื้อแดงกำลังทำอยู่ในระยะสั้น ก็สมควรกระทำการถาวรเพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว อาทิการใส่เสื้อแดงไปงานศพ เริ่มจากภูมิภาคท้องถิ่น จากหมู่บ้านลามไปทั้งตำบล สู่อำเภอ ทุกจังหวัด ทั่วภูมิภาค การบัญญัติศัพท์ ยังมีการเอาใจพวกอำมาตย์พวกสลิ่ม แล้วทำไมเสื้อแดงจะเริ่มทำตามใจตัวเองมั่งไม่ได้ แต่เมื่อคิดจะทำให้แล้ว ขอให้ทำการใหญ่ที่ทำแล้วต้องสั่นสะเทือนลือลั่น ทำให้สั่นสะเทือนไปทั้งแผ่นดิน ปล.ที่สำคัญงานนี้ไม่ต้องรอแกนนำ เสื้อแดงทุกคนสามารถเป็นเจ้าภาพจัดงานได้ทันที

จากกระทู้เก่าในประชาไทตามตารางข้างบน ก็จะทำให้สรุปสถานการณ์ราชประสงค์ในตอนนี้ได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว จากการเริ่มต้นของหยดน้ำหนึ่งหยดที่ไปผูกผ้าแดงภายใต้พรก.ฉุกเฉินฯภายหลังการสลายการชุมนุม เพื่อแสดงสัญลักษณ์ให้โลกทั้งใบรับรู้ว่า "ที่นี่มีคนตาย" จากหนึ่งเป็นสิบในอาทิตย์ถัดมา จากสิบเป็นร้อยจนกลายเป็นนับหมื่นนับพัน จากสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าที่นี่มีคนตาย กลายเป็นเหมือนงานเฟสติวัลหรือคาร์นิวัลย่อมๆ จัดเป็นงานประเพณีประจำเดือน หนึ่งหยดน้ำแปรเปลี่ยนเป็นทะเลแดงเพื่อแสดงความเป็นแดง

สิ่งหนึ่งที่ผมรับรู้จากใจว่า คนเสื้อแดงที่ไปร่วมชุมนุมที่ไปร่วมชุมนุมที่ราชประสงค์ในวันนี้ นอกจากเหตุผลที่ให้ไว้ข้างบน คนเสื้อแดงทุกคนที่ไปแสดงตนที่นั่น คนเสื้อแดงทุกคนต่างไปเพื่อประกาศแสดงตนว่า ตนเองเป็นเจ้าของประเทศ เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ไม่ใช่ใช่ของกองทัพและรัฐบาลที่มาจากการบิดเบือนอำนาจอธิปไตยที่เป็นของประชาชนชาวไทย

แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 54 15:30:49

แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 54 15:19:15

จากคุณ	: สิงห์สนามหลวง
เขียนเมื่อ	: 15 ม.ค. 54 14:55:15 A:58.8.204.23 X: