เรื่องศาลกัมพูชา ศาลโลก ศาลอาชญกรระหว่างประเทศ และภาษา
|
 |
เมื่อวานแจ้งไว้ในกระทู้ว่าจะงดตั้งกระทู้สัก1-2วันตามที่ตั้งใจไว้ แล้วจะกลับมาตั้งวันจันทร์ แต่ก็ต้องเลื่อนความตั้งใจไปอีก เพราะเมื่อคืนทำผิดพลาดไป ไปบอกคุณhuttytanny ว่าจะตั้งกระทู้ชี้แจงกรณีพาดพิง หากคุณhuttytannyไม่ช่วยแก้ไขข้อความในกระทู้ให้ตามที่ขอร้อง ซึ่งก็เป็นสิทธิและความถูกต้องของคุณhuttytanny แล้วที่ยังคงข้อความเดิมในกระทู้ไว้ แต่ในเมื่อผมบอกคุณ huttytannyไว้เช่นนั้น หากไม่ทำตามก็จะกลายเป็นผิดคำไป เลยต้องตั้งกระทู้ชี้แจง แต่ไม่ใช่ตั้งเพื่อให้ขัดแย้งกับกระทู้คุณ นะครับ เพราะมาคิดดูแล้วที่คุณhuttytanny ทักผมไว้ทักสองครั้งก็น่าจะถูกอยู่ แต่ก่อนเข้าเรื่องนี้ ขอเข้าเรื่องการบ้านการเมืองก่อน เรื่องที่ 1 ศาลกัมพูชาตัดสินลงโทษ 5 คนไทยแต่รอลงอาญา สืบเนื่องจากกระทู้เมื่อวานของผมเช่นกัน ที่ได้ลงข่าวนี้ไว้ว่าคาดว่าน่าจะมีการพิพากษาคดี เมื่อมีการพิพากษาคดีแล้วจึงขอมาอภิปรายต่ออีกสักนิดว่า อันดับแรก ผมรู้สึกดีใจกับคนไทยทั้ง 5 ที่จะได้กลับมาตุภูมิ ก็คาดว่าทั้ง 5 คงเข็ดหลาบไม่กล้าไปกระทำการที่ล่อแหลมในลักษณะแบบนั้นที่ชายแดนอีกเป็นแน่ ใครขืนไปทำซ้ำและเกิดโดนจับอีกคงได้ติดคุกเขมรเป็นปีแน่นอน อันดับต่อมา ความกังวลว่าคำพิพากษานี้จะมีผลต่อการโต้แย้งสิทธิเหนือพื้นที่ทับซ้อนหรือไม่ นี้ เป็นเรื่องที่มีอยู่จริง เพราะเชื่อได้เลยว่าหากเรื่องเกิดไปเข้าศาลโลก(International court of Justice) อีกครั้ง จะอย่างไรกัมพูชาต้องเอาคดีนี้ไปประกอบเพื่อความได้เปรียบฝ่ายตนอย่างแน่นอน ผมได้อ่านคำสัมภาษณ์ของคุณอภิสิทธิ์แล้วที่บอกว่าคำพิพากษานั้นผูกพันเฉพาะบุคคล ไม่เกี่ยวกับระดับประเทศ ซึ่งก็จริงอยู่ แต่ในความเห็นของผมซึ่งเป็นเพียงประชาชนคนเดินดินธรรมดานั้น ผมยังเห็นเหมือนเดิมในกระทู้หลายสัปดาห์ก่อนว่า ไทยควรรอคำพิพากษาให้ออกมาก่อนซึ่งในวันนี้จะหมายถึงรอคำตัดสินของอีก 2 คนไทยที่ยังค้างอยู่ก่อน เมื่อมีคำตัดสินออกมาครบหมดแล้ว กระทรวงการต่างประเทศไทยควรแถลงการณ์อย่างเป็นทางการว่าเราให้เกียรติเคารพต่อคำพิพากษาของศาลเขมร แต่จำเป็นต้องแย้งในข้อเท็จจริงว่าเขตแดนในคดีทั้งหมดนั้น เป็นเขตทับซ้อนที่ยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการของคณะกรรมการชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างน้อยเพื่อให้เป็นหลักฐานว่าไทยไม่ได้ยอมรับเขตแดนที่เกี่ยวพันกับคำพิพากษาอย่างเป็นทางการ มิเช่นนั้นอาจถูกนำไปตีความแบบเดี๋ยวกับที่กรมพระยาดำรงเสด็จไปเยี่ยมชมเขาพระวิหารและมีธงชาติฝรั่งเศสแสดงอยู่ มีเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสต้อนรับอยู่ แล้วไม่ปรากฏว่ามีการทักท้วงอย่างเป็นทางการจากฝ่ายไทย ก็เป็นแค่ความเห็นหนึ่งของคนประชาชน แต่ผมก็คิดว่าจะแสดงความเห็นนี้ส่งไปยังกระทรงการต่างประเทศด้วยเช่นกัน ทางช่องรับเรื่องของเขาที่ http://www.mfa.go.th/web/2650.php เรื่องที่ 2 ความเห็นต่อกระทู้คุณ huttytanny คุณตั้งกระทู้สอบถามผมคิดกัน 2 กระทู้ ได้ตอบไปแล้วทั้ง 2 กระทู้ในกระทู้เมื่อวาน แต่คิดว่าจะขอแสดงความเห็นเพิ่มสักนิดตามที่ส่งข่าวไว้น้นนะครับ เพื่อสรุปเรื่องทั้งหมดว่า ผมว่าคุณน่าจะเป็นฝ่ายถูก ที่จะเรียกศาลอาชญากรระหว่างประเทศว่าศาลโลก หากยังไม่มีฝ่ายใดออกมากำหนดให้แน่ชัดว่า ศาลโลก ควรจะหมายถึง International court of Justice หรือหมายถึง International criminal court กันแน่ ที่คิดเห็นเช่นนี้ไม่ใช่การประชดนะครับ แต่ผมมาคิดดูแล้ว ชื่อศาลมันก็เป็นการใช้ภาษาอย่างหนึ่ง ซึ่งเราไม่ควรไปยึดติดตายตัว ภาษานั้นเอาไว้ใช้สื่อเพื่อให้เกิดความเข้าใจ จะถูกหรือผิดไวยากรณ์ก็ยังไม่สำคัญเท่ากับว่าสื่อให้ผู้อื่นรู้เรื่องหรือไม่ ดังนั้น หากในเวลานี้ หากคนทั่วไปเปลี่ยนกลับมาเรียก International criminal court ว่าหมายถึงศาลโลก คำว่าศาลโลกก็ต้องหมายถึง International criminal court ไม่ใช่ International court of Justice ที่เคยตัดสินคดีเขาพระวิหารอีกต่อไป ส่วนที่คุณสอบถามว่าแล้ว International criminal court หากจะเรียกเป็นภาษาไทยอีกแบบโดยใช้คำว่าอาญาหรืออาชญากรเข้ามาในคำว่าศาลด้วย ควรจะเรียก ศาลอาชญากรระหว่างประเทศ หรือ ศาลอาญาระหว่างประเทศ ผมแจ้งแล้วว่าผมก็ตอบไม่ได้เพราะค้นไม่เจอ รู้แต่ว่าศาลอาญาไทยนั้นเขาเรียกว่า Criminal court ที่นี้ประเด็นที่เกี่ยวกับกระทู้เมื่อคืนที่ผมได้ชี้แจงไปแล้ว ก็อยากจะมาเทียบเคียงสักนิดว่า ในครั้งแรกที่ผมท้วงเรื่อง ศาลโลกว่าไม่ใช่ ศาลอาชญากรระหว่างประเทศ เพราะในเวลานั้นผมคิดว่า คำคำนั้นจะสื่อให้เข้าใจผิดไปหมายถึงคนละศาลกันเลย ผมจึงท้วงไว้ในกระทู้ก่อน(แต่เวลานี้ ไม่คิดจะท้วงแล้ว เอาเป็นว่าปัจจุบันจะเรียกศาลโลกว่าหมายถึงศาลใดก็หมายถึงศาลนั้น ตามสมัยนิยมของภาษา) ส่วนกรณีที่คุณกรุณาท้วงเรื่อง she need ตกคำว่า s นั้นเป็นการท้วงที่ถูกต้องแล้ว ผมขอยอมรับว่าตกไปจริงๆเพราะคงจะรีบ ขนาดว่าเขียนภาษาไทยยังตกโน้นตกนี้ พิมพ์ภาษาอังกฤษยิ่งไม่เก่งไวยากรณ์ด้วยยิ่งผิดง่ายเข้าไปอีก(บางทีแทนที่จะตกมีเคาะคำเกินไปก็มี อาทิเช่นหลังกิริยาช่วย อย่าง will shall must แบบนี้ กิริยาที่ตามมาจะต้องเป็นกิริยาช่องที่หนึ่ง แต่ด้วยความที่ไม่ใช่ภาษากำเนิด บางทีมีเคาะแป้นแถม s ไปให้ก็มีอะ พอเคาะ Enter ส่งข้อความไป ทวยดู อ้าวไหงมี s อยู่ตรงนี้ เฮ้อ แก้ไม่ได้ ก็ปล่อยผ่านไป แบบนี้มีเป็นระยะๆ ) เพียงแต่ผมเห็นว่าshe need ตกคำว่า s ก็ยังสามารถจะสื่อความหายให้ผู้คนเข้าใจได้เช่นเดิม และแม้ตามหลักภาษานั้น หากเขียนการบ้านส่งอาจารย์ภาษาอังกฤษ she need จะตก s ไม่ได้จะโดนอาจารย์หักคะแนนแน่เพราะผิดหลักภาษา แต่ในการใช้งานในชีวิตจริงนั้น ตก s ไปกันมีตัวอย่างให้เห็นมากมาย ดังตัวอย่างที่ฝรั่งที่เขียน she need ตกคำว่า s มีให้เห็นเกลื่อนกลาดทั่วไป ที่ผมยกมาไว้ในกระทู้ก่อน (คลิกตรงนี้เพื่อดู P10155389) 19.09 น. เรียนคุณ huttytanny เนื่องจากผมเพิ่มตัวอย่างการใช้ภาอังกฤษของฝรั่งพร้อมลิงค์ไป ปรากฏว่ากระทู้เมื่อวานที่ตอบคุณหายไป เข้าใจน่าจะติดลิงค์บางอันที่มีปัญหาที่ใส่พร้อมกับตัวอย่างการใช้ภาษา แต่ผมมีสำเนากระทู้ไว้บางส่วนเเข้ใจว่าจะเก็บไว้ที่ออฟฟิศ หากคุณต้องการให้ผมลงกระทู้เดิมทั้งหมดใหม่ น่าจะพอทำได้ แต่คงต้องไปเอาที่ออฟฟิศในวันพรุ่งนี้ หรือรอคิดต่อผู้ดูแล ขอคืนกระทู้ในวันจันทร์โดยจะขอลบลิงค์ที่มีปัญหาออกหากเขายอม
 ก่อนจะจบกระทู้ ผมขอใช้พื้นที่ตรงท้ายนี้ซ้ำความเห็นเดิมของผมอีกครั้งว่า ผมไม่เคยอวดอ้างว่าตนเองเก่งภาษาอังกฤษขนาดจะไม่พลาดไวยากรณ์ เพราะภาษาอังกฤษที่ผมใช้ เป็นแบบสื่อสารให้เข้าใจในชีวิตประจำวันผิดไวยากรณ์ไปบ้างก็ยังเข้าใจสื่อสารกันได้ แต่กรณีที่เกิดขึ้นคือการตีความเรื่องพันทิพนิ่งเงียบในกระทู้ The Sounnd of Silence ของคุณเลอฯ นั้น จะเห็นได้ว่า ผมไม่ได้อวดอ้างเลยว่า จะต้องตีความ Talking without Speaking ว่าจะต้องแปลว่าแบบนี้นะ ห้ามตีความไปแบบอื่น เพราะฉันเองเก่งภาษาอังกฤษที่สุด ที่ฉันตีความมันต้องเป็นแบบนี้ ใครตีความแบบอื่นผิด ซึ่งผมไม่ได้เป็นแบบนั้นนะครับ ผมรู้ดีว่าผมไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษขนาดจะใช้ตัวเองเป็นประกันความถูกต้องในการแปลความท่อนนั้นเลย ในการแปลความท่อน Talking without Speaking ในกระทู้เดิมที่ให้ไว้นั้น สิ่งที่ผมรู้คือจากประสบการณ์การใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันของผมนั้น มันบอกว่าสิ่งที่คุณเลอฯแปลไว้นั้น น่าจะถูกต้องเท่านั้น แต่ผมไม่กล้าเอาความรู้ผมมายืนยันความท่อนนี้เพราะย่อมไม่ถูกที่ผมจะทำเช่นนั้น ผมจึงเอาผู้ที่เขาเป็นเจ้าของภาษามาให้ดู ซึ่งขอนำมาลงอีกทีดังนี้ (1). ในเวบ http://www.inverness-courier.co.uk/news/fullstory.php/aid/11884/Talking_without_speaking__96_the_art_of_reading_body_language.html จะเล่าว่า Talking without Speaking เป็นสิ่งที่ผู้มีอำนาจผู้มีชื่อเสียงเขาใช้กัน นักการเมืองอย่างกอร์ดอน บารวน์ หรือนักการเมืองอื่นก็ได้รับการฝึก ถือเป็น body language และสื่อสารมวลชนต่างประเทศต้องจ้างมืออาชีพมาเพื่ออ่านภาษากายเหล่านี้จากคนดังๆเช่นไทเกอร์ วูดส์ หรือโอเจ ซิมส์สัน ในบทความลงรายละเอียดไปอีกมากและนอกประเด็นกระทู้ จะไม่ขอนำมาลงไว้ตรงนี้ (2). ในอีกบทความหนึ่ง ชื่อ How To Talk Without Speaking: the Art of Nonverbal Communication ที่แปลเป็นไทยได้ว่า จะคุยอย่างไรโดยไม่ต้องพูดออกมา : ศิลปะแห่งการสื่อสารโดยไม่ใช้เสียงพูด มีรายละเอียดมากเช่นกัน แต่ก็พูดไว้ว่า The Body Speaks Its Own Language แปลกันเอาเองนะครับว่าหมายถึงอย่างไร http://www.googobits.com/articles/256-how-to-talk-without-speaking-the-art-of-nonverbal-communication.html (3). เวบของ Australian Broadcasting Company ผู้ดำเนินกิจการ ABC news ก็มีพูดเรื่อง Talk it out โดยใช้ Body Language ไว้ที่ http://www.abc.net.au/talkitup/talkitout/bodylanguage.htm (4). คำว่า Talk นั้น มีความหมายกว้างขว้างกว่า speak โดยคำว่า Talk นั้น ยังหมายถึงการสื่อสารใดๆก็ได้ที่ไม่ต้องใช้เสียง ดังที่พจนานุกรมของอังกฤษ บรรยายไว้ตอนนหึ่งมีความว่าดังนี้ http://www.thefreedictionary.com/talk - To convey one's thoughts in a way other than by spoken words: talk with one's hands นั้นคือใช้มือสือสารพูด - To express one's thoughts in writing : Voltaire talks about London in this book นั้นคือวอลแตร์ใช้ภาษาหนังสือในการพูด http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P10140536/P10140536.html จึงขอสรุปว่า ในการแสดงความเห็นเรื่องนี้ ผมใช้เจ้าของภาษามายืนยันให้ ผมไม่ได้ใช้ความคิดตนเองหรืออวดอ้างหรือเอาความรู้ภาษาอังกฤษของตนเองมาอ้างครับ เพราะรู้ดีว่าภาษาอังกฤษตนเองนั้นแค่ระดับสื่อสารทั่วไปทางเมลล์หรือคุยกับฝรั่งที่ต้องติดต่อ ไม่ใช่ระดับเขียน essay ส่งอาจารย์แล้วไม่มีผิดกลับมา อีกทั้งภาษาอังกฤษที่ผมใช้นั้น ไม่ใช่ทั้ง US English หรือ British English อย่างที่สมาชิกบางท่านมีความสามารถในระดับเช่นนั้นเลย แต่ของผมเป็นแค่ระดับ Thai English พื้นๆ ก็เท่านั้นแหละครับ พอดีมีโอกาสมาต่อกระทู้ ขอเพิ่มนิดหนึ่งว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่มีโอกาสใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน ทำให้ไม่คล่อง หากเราไปเน้นไวยากรณ์มากไป ยิ่งทำให้ไม่กล้าใช้ภาษา จะมีเฉพาะแต่คนไทยที่ได้ไปเรียนนอกนานๆ อาจเป็นคุณจำปูนหรือเปล่า ที่เก่งระดับ US English หรือ British English แบบไม่พลาด แต่จะมาคาดหวังให้คนไทยที่เหลือเก่งระดับนั้น โดยไม่พลาดคงลำบาก คนไทยที่ติดต่อกับฝรั่งมีตั้งแต่พ่อค้าแม่ขายของที่ระลึก แท็กซี่ ไกด์ เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยาน พนักงานบริษัท ผู้จัดการ แม้กระทั่งระดับอธิบดี ปลัดกระทรวง พวกนี้ล้วนแต่ใช้ Thai English กันทั้งนั้น คนพวกนี้เขาไม่เน้นไวยากรณ์หรอกครับ และหากคุณฟังสัมภาษณ์คนพวกนี้ทางช่องวิทยุภาษาอังกฤษตอนเช้า คุณจะเห็นการใช้ผิดไวยากรณืเสมอ แต่เราก็ฟังเขาเข้าใจครับ คงจบกระทู้ และภาวนาให้ไม่ต้องมีเหตุเข้ามาตั้งกระทู้ต่อ  พอดีมีกระทู้ข้างบนโพสต์เหมือนจะพาดพิงแต่บิดเบือนหรือเปล่า เอาเป็นว่ามาดูกันดีกว่าว่าใครให้เหตุผลไว้อย่างไรเมื่อวันนั้น ขออนุญาตเอ่ยนามตามข้อเท็จจริง คุณตระกองขวัญให้ความเห็นไว้แบบนี้ ผมอ่านดูแล้วมีลักษณะข่มขู่ มิหนำซ้ำไม่มีที่อ้างอิง อ้างเอาแต่ว่ามันต้องแปลแบบนั้น คือเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ อ่านดูเองครับเขาว่าไว้แบบนี้ครับท่าน http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P10135845/P10135845.html 2. talking without speaking คุณก็มั่ว มั่วโยงไปถึงพันทิปที่เงียบเฉยกับการเรียกร้องให้บอร์ดกลับไปเหมือนเดิม มั่วว่าการเงียบนั้นคือการ talking without speaking ของพันทิป พิโธ่ คุณเรียนมาจากไหนครับที่แปลว่า talking withou speaking คือการพูดโดยไม่มีเสียง คือการพูดด้วยภาษากาย มั่วว่าที่พันทิปเงียบเฉยนั้นคือ talking without speaking มั่วไม่พอ ยังกล้ามาย้อนถามผมอย่าง "ทนทาน" Talking without Speaking แปลยังไงมันก็แปลว่าพูดแบบไม่ได้คุย คือเอาแต่พูดไม่ได้มีการสื่อสารกันในลักษณะพูดคุย ไม่ได้ฟังว่าคนอื่นพูดอะไร มีแต่ตัวเองอยากพูดอะไรก็พูด ๆ ไป มันก็เหมือนกับคำที่ว่า "ฟัง แต่ไม่ได้ยิน" (hearing without listening) นั่นแหละ แต่คุณน่ะมั่วมาแปลว่าคือการพูดโดยไม่ใช้เสียง พูดด้วยภาษากาย พูดด้วยความเงียบ มั่วได้เกินคน
 ผมอ่่านแล้วก็รู้สึกว่าคนอะไร เห็นต่างแค่นี้ก็ไปเที่ยวว่าเขามั่วแล้ว ไม่มองตนเองเลยว่าแค่ไหนอย่าางไร จะอ้างอิงอะไรให้น่าเชื่อก็ไม่มี เอาความเห็นตัวเองเป็นใหญ่เที่ยวมาข่มผู้อื่นเขา จึงจำต้องแย้งไปแบบนี้แหละครับ http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P10140536/P10140536.html แต่เนื่องจากผมเป็นคนหนึ่งที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการทำงานมาอย่างยาวนานพอสมควร และต้องสื่อสารกับชาวต่างชาติที่ต้องติดต่อด้วยเป็นระยะไม่ว่าจะพูด หรือจดหมาย หรือเคยให้ความเห็นทางการเมืองในเวบบอร์ดภาษาอังกฤษอยู่บ้าง และโดยส่วนตัวก็ชอบและสนใจการใช้ภาษานี้อยู่เป็นทุนเดิม เมื่ออ่านเรื่องภาษานี้ที่ถกกันในกระทู้ของคุณ เลอคูเดอลาแมร์ รู้สึกมีการพยายามบิดเบือนการตีความภาษาอังกฤษที่คุณ เลอคูเดอลาแมร์ นำมาใช้ไว้ตอนเริ่มแรกออกไปอย่างผิดๆ จึงขอให้ความเห็นว่า เมื่ออ่านทั้งหมดแล้ว ต้องบอกว่าที่คุณ เลอคูเดอลาแมร์ ให้ความเห็นนั้นถูกต้องแล้วครับ ที่ว่าถูกต้องนั้นคือ ที่คุณ เลอคูเดอลาแมร์ โพสต์ในกระทู้ P10125644 ว่าพันทิพย์เขากำลัง"Talking without speaking" การเงียบเฉยของเขานั้น เป็นการพูดดังๆให้ได้ยินชัดๆ!! หรือที่เรียกว่า ประหนึ่งภาษากายนั้น ถูกต้องแล้ว ส่วนที่มีสมาชิกอีกท่านไปแย้งว่า Talking without speaking ไม่ใช่การพูดโดยไม่มีเสียง ไม่ใช่การพูดด้วยภาษากาย และไม่เชื่อว่าพันทิปเงียบเฉยนั้นคือ Talking without speaking กลับไปกล่าวหาว่าคุณ เลอคูเดอลาแมร์ มั่วอะไรแบบนั้น อันนี้ผมมองว่าสมาชิกท่านนั้นแหละครับที่คิดผิด เป็นความคิดที่คิดเอาเองทั้งนั้น น่าจะมาจากการที่สมาชิกท่านนี้ซึ่งปกติก็ไม่ชำนาญภาษาอังกฤษแต่ยังฝืนจะมาให้ความเห็นในเรื่องที่ตนไม่ชำนาญ Talking without Speaking เป็นการสื่อสารให้ผู้อื่นทราบโดยไม่ต้องพูดออกมาตรงๆตามที่คุณเลอคูเดอลาแมร์ ให้ความเห็นไว้จริงๆ ดังที่คุณเลอคูเดอลาแมร์ เทียบว่าเป็นการที่บอร์ดพันทิพกำลังบอกสมาชิกให้ทราบโดยการนิ่งเฉยนั้นแหละ ในเรื่อง Talking without Speaking นี้ ขอยกตัวอย่างที่มีการพูดถึงเรื่องนี้ในเวบต่างประเทศไว้เป็นหลักฐานให้ตรวจอ่านได้ว่ามีนัยยะความหมายตามที่คุณ เลอคูเดอลาแมร์ ใช้จริงๆ คือ  คำพูดของผมนั้นผมไม่เห็นว่าจะเป็นการโอ้อวดตรงไหน หรือข่มขู่ใครเขาอย่างอีกคน ที่ผมเล่าว่าติดต่อกับชาวต่างขาติ ก็มันเป็นความจริง มไม่ได้บอกสักคำว่าผมเก่งมาก ไวยากรณ์ชัวร์ แค่บอกว่าพอจะติดต่อกับเขารู้เรื่องเท่านั้น ในส่วนความเห็น ผมก็ไม่ได้อ้างเอาของตัวเองมาข่มชาวบ้านเขาลอยๆแบบคุณตระกอง แต่ผมยกข้อเท็จจริงจากฝรั่งที่เขาว่าไว้ก็เท่านั้น ดูกันเอาเองก็แล้วกันครับว่าใครแสดงตัวเป็นนักเลง เที่ยวข่มสมาชิกคนอื่นเขาโดยตัวเองก็ไม่มีอะไรจะมายืนยัน นอกจาก ฉันคิดเอาเองฉันต้องถูกอะไรแบบนั้น 
แก้ไขเมื่อ 22 ม.ค. 54 19:08:05
แก้ไขเมื่อ 22 ม.ค. 54 17:50:19
แก้ไขเมื่อ 22 ม.ค. 54 17:21:31
แก้ไขเมื่อ 22 ม.ค. 54 14:22:32
แก้ไขเมื่อ 22 ม.ค. 54 13:21:56
จากคุณ |
:
thyrocyte
|
เขียนเมื่อ |
:
22 ม.ค. 54 13:18:26
A:124.122.194.214 X:
|
|
|
|