Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เด็ก เทพประทานกับนโยบายต่างประเทศที่”ห่วยบรม” ติดต่อทีมงาน

     จากผลงานการทำงานด้านต่างประเทศอันยอดเยี่ยมของรัฐบาลเทพประทาน ทำให้ขณะนี้ประเทศไทยกลายเป็นชาติที่ต้องจับตามองบนเวทีนานาชาติแล้ว ไม่ว่าจะขยับไปทางไหนล้วนแต่สร้างเสียงหัวเราะขบขันให้กับต่างชาติ วันนี้จึงขอจะลองไล่นับดู ว่าเกียรติประวัติที่รัฐบาลนี้ทำไว้มีเรื่องอะไรบ้าง

     แต่งตั้งนายตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีเพชรซาอุ จนเป็นเหตุให้สถาทูตซาอุดิอาระเบียในไทยต้องออกแถลงการณ์หลายฉบับ เอ...หรือว่า มาร์คเห็นว่าประเทศไทยนำเข้าน้ำมันส่วนใหญ่จากสิงคโปร์เลยไม่สนใจประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก

     กรณีพ่อค้าอาวุธชาวรัสเซีย นายวิคเตอร์ บูท ก็ทำให้ประเทศรัสเซียเดือดปุดๆซึ่งจากตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวต่างชายแล้ว นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเดินมาเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยทำรายได้ให้กับประเทศเราปีล่ะประมาณ 13800 ล้านบาท (ตัวเลขจาก ททท.) ซึ่งถือว่าสูงติด 1 ใน 5 ชาติที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศไทยมากที่สุดด้วย ยังไม่นับมูลค่าการทำธุรกิจระหว่างไทยกับรัสเซียอีก 3,818.62 ล้านเหรียญสหรัฐนะ (ตัวเลขจาก http://www.depthai.go.th/DEP/DOC/52/52000548.doc) ไม่รู้รายได้จากส่วนนี้จะหายไปเท่าไรในปีหน้า  เฮ้อ........แค่อยากจะเอาใจสหรัฐ ประเทศตัวเองจะเป็นยังไงก็ไม่สนน้อ....คนเรา

     กับประเทศกัมพูชาไม่รู้จะพูดถึงเรื่องไหนก่อนดี เพราะเยอะแยะมากมายจนจำแทบไม่หมด ทั้งเรื่อง การฝึกกองกำลังจู่โจมของกลุ่มเสื้อแดง ที่อยู่ดีๆก็ไปหาว่าประเทศเขาให้พื้นที่การฝึกกองกำลังที่ไม่มีตัวตนนี้ ทั้งเรื่องการโจรกรรมข้อมูลการบินของวิศกรชายไทย ที่มีนายกษิต รมต.ต่างประเทศเกี่ยวข้องด้วย และล่าสุดกรณี 7 ประจัญบาน ที่บัดนี้บานปลายจนอาจเป็นเหตุให้ไทยเสียดินแดนในพื้นที่ทับซ้อน

     เมื่อเทียบชั้นเชิงระหว่างนายอภิสิทธิ์กับนายกฮุนเซน คงทำให้คนไทยหลายคนสลดใจไม่น้อย เพราะนายอภิสิทธิ์อ่อนด้อยจนแทบเปรียบได้ว่าเป็นลูกขนุนที่กลิ้งหลุนๆ ไปเข้าทางเข้าเท้า ฮุนเซน ที่กระหน่ำเตะไปเตะมาอย่างเมามันส์ อดีตที่เคยภาคภูมิใจว่าประเทศไทยเจริญก้าวหน้าที่สุดในแหลมทอง วันนี้โดนเด็กชายมาร์คขยี้เล่นจนไม่เห็นเค้าเดิม

     ยูเออี ไม่เคยยอมส่งตัวเป้าหมายอันดับหึ่งของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ให้ บุคคลท่านนั้นก็คือ พ.ต.ท ดร.ทักษิณ ชินวัตร แม้ว่าทางการไทยจะใช้วิธรสารพัด ทั้งอ้อนวอน ทั้งขอความร่วมมือ ทั้งยกข้อตกลงร่วมการส่งผู้ร้ายข้ามแดนมาขู่ แต่รัฐบาลยูเออีก็ทำแค่เพียงเรียกตัว นายกทักษิณ ให้มาลงนามไม่ใช้ยูเออีเป็นฐานทางการเมืองเท่านั้น 555 แล้วเรื่องก็เงียบหายไป 
 
     ชื่อ มอนเตเนโกร แต่ก่อนหลายๆคนอาจจะไม่รู้จัก แต่รัฐบาลอภิสิทธิ์ก็ทำให้คนไทยได้รู้จักประเทศนี้ จากการตามล่าล้างโคตรที่ทรหดกว่าคดีการเมืองของประเทศใดๆในโลก มอนเตเนโกรเป็นประเทศหนึ่งซึ่ง นายกทักษิณเดินทางไปพำนักอยู่ และก็เหมือนเคย คณะรัฐมนตรีทั้งชุด ซึ่งคาดว่าวันๆไม่ทำอะไรกันเลย นอกจากเอาแต่ตามล่าทักษิณ ได้ออกมาแถลง กดดัน ขู่เข็ญให้ประเทศมอนเตรเนโกรส่งตัวเป้าหมายสำคัญคนนี้ให้ แต่ก็ต้องหน้าหงายตามระเบียบ เพราะนอกจากมอนเตเนโกรจะไม่ส่งตัวนายกทักษิณให้แล้ว ยังตอกหน้ารัฐบาลไทยด้วยการให้สัญชาติมอนเตรเนโกรกับอดีตนายกด้วย ซึ่งนั้นทำให้นายกทักษิณได้วีซ่ามอนเตเนโกร ไว้สำหรับเดินทางไปที่ไหนก็ได้ในโลกนี้ ยกเว้นประเทศที่ประกาศแล้วว่าไม่ต้องการให้ท่านทักษิณเดินทางเข้าประเทศอย่าง อังกฤษและเยอรมัน ซึ่งเท่าที่ผมรู้ก็มีแค่ 2 ประเทศนี้เท่านั้น แต่ถ้ามีประเทศอื่นด้วยก็ต้องขออภัยจริงๆ เพราะไม่ค่อยได้ตามข่าวเรื่องนี้

     อเมริกา ก็ใช่ว่าจะเป็นมหามิตรกับรัฐบาลชุดนี้ เพราะจากท่าทีหลายๆครั้งที่แสดงออกมา ก็แสดงให้เห็นว่า ประเทศลุงแซมก็เป็นพวกที่กลิ้งกลอกเอาแน่เอานอนไม่ได้ คล้ายๆว่าจะเลือกอยู่กับข้างที่ให้ผลประโยชน์กับตัวได้มากที่สุด อย่ากรณีคณะกรรมาธิการด้านสิทธิมนุษยชน CSCE จะเชิญตัวอดีตนายกไปสอบถามเรื่องความรุนแรงในประเทศไทย จนคนในฝ่ายรัฐบาลนี้เต้นผ่างกันใหญ่ และเชื่อว่าคงใช้วิธีทั้งบนดินและใต้ดินคุยกับสหรัฐ เพื่อกีดกันการเดินทางไปของอดีตนายก ตอนนี้เรื่องนี้ก็ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด

     ประเด็นร้อนกว่าตอนนี้ก็เข้ามา เมื่อนาย Kurt Campbell ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ได้ขอประสานให้ทางการไทย จัดให้ได้พบปะกับนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการณ์หัวหน้าพรรคไทยรักไทย นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรัฐมนตรียุติธรรม นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ ซึ่งใครๆก็รู้ว่า คนเหล่านี้อยู่ฝ่ายอดีตนายกทักษิณ ซ้ำร้ายในกำหนดการเดินทางมาของนาย Campbell ยังไม่มีกำหนดการณ์พบปะกับบุคคลสำคัญใดๆเลยในฝ่ายรัฐบาล เอาล่ะสิ พี่เบิ้มหันหางเสือไปอีกด้านแล้ว งานเข้าแล้วไหมล่ะ เด็กชายมาร์ค

     อิตาลีกับญี่ปุ่น ก็ไล่บี้ ถามยิกๆเกี่ยวกับเรื่องการตายของช่างภาพและนักข่าวของเขา รัฐบาลนี้ก็ได้แต่อ้อมแอ้มบ่ายเบี่ยงไปเรื่อย แต่นั้นก็ไม่เท่าไร เพราะเป็นการพูดคุยกันระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาล แต่ที่ทำให้คนไทยรู้สึกแย่ก็คือ การที่ญาติของช่างภาพชาวอิตาลีออกมาโวยวายว่า รัฐบาลไทยพยายามใช้เงินฟาดหัว เพื่อให้หยุดสงสัยเกี่ยวกับคดีนั้นได้แล้ว โอ้ว........มีที่ไหนเขาทำกันบ้าง รึมีแต่ Thailand only

     นโยบายต่างประเทศห่วยอย่างเดียวไม่พอ เพราะคนในอำนาจยุคนี้ก็ยังทำให้คนไทยได้อับอายกันทั่วหน้าในหลายเรื่อง เช่น กองเรือปราบโจรสลัดของไทยหันหลังกลับบ้าน ปล่อย 27 ตัวประกันชาวไทยให้ตกอยู่ในกำมือของโจรสลัดโซมาเลียต่อไป ทิ้งให้เป็นหน้าที่ของบริษัทเจ้าของเรือและญาติๆตัวประกันจัดการกันเอง ในขณะที่ กองทัพเรือเกาหลีใต้ ช่วยเหลือลูกเรือสัญชาติเกาหลีไว้ได้อย่างปลอดภัยจากเหตุการ์ณปล้นจากโจรสลัดเหมือนกัน ขณะที่กองทัพเรือมาเลเซียก็ช่วยเหลือลุกเรือชาวมาเลเซียไว้ได้ด้วย แถมยังจับ ตัวโจรสลัดกลับมาดำเนินคดีในประเทศตนเองอีก เฮ้อ......หรือเกิดอะไรขึ้นเนี๊ยะ รึต้องให้เข้าใจว่า ในทะเลทหารไทยรบไม่ถนัด แต่ถ้าเป็นพื้นที่ราชประสงค์แล้วล่ะก็ ทหารไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก

     แค่นี้ยังไม่พอ สดๆร้อน เมื่อนายสาคร เกี่ยวข้อง สส.พรรค ปชป. ถูกจับในข้อหาลักทรัพย์ที่ฮ่องกง โอ้...แม่เจ้า ไม่รู้คิดอะไรกันอยู่ รึเห็นว่า จา พนม บุกตลาดหนังฮ่องกงไม่สำเร็จ สส.ปชป.เลยขออาสาทำหน้าที่นี้เอง ข่าวนี้ที่ฮ่องกงกระแสจะแรงรึเปล่าไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ ที่เมืองไทยพอรู้ข่าวนี้ หน้าชากันเป็นแทบๆ

     ผมไม่รู้ว่ารัฐบาลนี้ จะดำเนินนโยบายต่างประเทศในลักษณะประจานประเทศตัวเองไปถึงเมื่อไร นั่นไม่ใช่เรื่องที่ผมต้องคิด เพราะผมไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่ผมมีความห่วงใยพี่น้องชาวไทยที่ต้องทำงานกับชาวต่างชาติ เช่นตัวผมเองที่มีผู้จัดการเป็นชาวญี่ปุ่น หรือ คนที่ทำงานในธุรกิจท่องเที่ยวต่างๆ และคนที่จะเดินทางไปต่างประเทศในช่วงนี้ 

     ด้วยความสามารถอันยอดเยี่ยมกระเทียมดองของรัฐบาลชุดนี้ ทำให้คนกลุ่มที่ผมได้กล่าวมา รู้สึกเขินอายนิดๆ หากต้องสนทนากับชาวต่างชาติ เพราะไม่รู้ว่า พวกนั้นมันคิดกับประเทศเรายังไง มันจะขบขันในสิ่งที่ถือว่าเป็นผลงานของรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ ถึงผมจะไม่สนับสนุนรัฐบาลเด็กชายมาร์ค แต่บอกตรงๆครับ ว่าอายเหมือนกันที่รัฐบาลตัวแทนประเทศเป็นแบบนี้ โปรดจงหยุดสร้างความอับอายให้กับพวกเราเถอะครับ ผมขอร้อง ลาออกไปเถอะ

     และหากการขอร้องของผมไม่สำริดผล ช่วงนี้ผมก็คงต้องใช้ “The ปิ๊บ” คลุม “The Head” ไปพลางๆก่อน หากต้องพบเจอชาวต่างชาติ และผมไม่สงวนสิทธิ์หากว่าท่านใดจะนำไปใช้นะครับ เราคนไทย อะไรแบ่งปันกันได้ก็แบ่งกันไป แต่ถ้าท่านใดไม่อยากใช้วิธีนี้ ผมก็เสนอให้อีกวิธีหนึ่งครับ คือไปสืบให้รู้ว่า เด็กชายมาร์คใช้ครีมทาหน้ายี้ห้ออะไร แล้วไปซื้อมาใช้บ้าง เราจะได้มีผิวหนังใบหน้าที่ทนทานได้กับทุกสถานการณ์เหมือนอย่างเขา

จากคุณ : พระรองตลอดกาล
เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 01:02:35 A:183.89.213.63 X:



ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com