Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เรื่องเกี่ยวกับหมู่เรือปราบโจรสลัดของไทย ที่ไปโซมาเลีย มุมมองที่ต่างไป และตอบคุณทวดเอง ติดต่อทีมงาน

ผมตั้งใจจะอภิปรายเรื่องหมู่เรือปราบโจรสลัดของไทยที่ไปปฏิบัติการณ์ที่โซมาเลียมาหลายวันแล้ว เพราะเห็นมีกระทู้ในห้องนี้พูดพาดพิงถึงเรื่องนี้ แต่ติดเหตุบางอย่าง มาวันนี้ไปตรงพ้องกันกับกระทู้ที่คุณพระรองฯที่ตั้งพอดี แต่กระทู้นี้ไม่ได้ตั้งเพื่อโต้แย้งผู้ใดนะครับ ตั้งขึ้นเพราะคิเห็นตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่าจะขออภิปรายเรื่องนี้สักนิดเท่านั้น และคงจะมองในอีกมุม เพราะผมเองก็มีความสงสัยว่าด้วยเหตุใดและทำไมหมู่เรือปราบโจรสลัดของไทยจึงไม่บุกเข้าช่วยตัวประกัน ในขณะที่มาเลเซียและเกาหลีใต้ทำเช่นนั้นได้ จึงใช้เวลาตั้งแต่เมือวานเย็นหลังเลิกงาน ทยอยอ่านเรื่องนี้ และผมว่าอาจได้ขอสรุปที่เพิ่มเติมหรือแตกต่างไปจากคุณพระรองฯ หรือสมาชิกท่านอื่นบ้างตามนี้

เรื่องแรก เกี่ยวกับหมู่เรือปราบโจรสลัดของไทย ที่ไปโซมาเลีย มุมมองที่ต่างไป

(1.) ทำไมกองเรือมาเลเซียจึงช่วยเรือ Bunga Laurel ที่ถูกโจรยึดได้


คำตอบ- ในข้อเท็จจริงนั้น กองเรือมาเลเซียทำการคุ้มกันเรือ Bunga Laurel มาตลอดเส้นทาง เพิ่งส่งเรือ Bunga Laurel เข้าสู่บริเวณพื้นที่ที่คิดว่าปลอดภัย แต่หลังจากกองเรือมาเลเซียปล่อยเรือ Bunga Laurel ได้สองชั่วโมงก็ได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือจากเรือ ทำให้กองเรืออยู่ในระยะที่สามารถทำการเข้าช่วยได้ทันที เมื่อเกิดเหตุ เหตุที่เกิดจึงเกิดในระยะไม่ห่างจากกองเรือของมาเลเซียนั้นคือแค่ราว 22 กิโลเมตร (ตามข่าวแจ้งหน่วยระยะทางแบบนี้ ไม่แจ้งเป็น nautical mile) และหลังเกิดเหตุลูกเรือบน Bunga Laurel ปฏิบัติตามขั้นตอนที่ใช้เมื่อโจรสลัดเข้ายึดเรือ นั้นคือขังตัวเองในห้องนิรภัยและทำการส่งสัญญาญขอความช่วยเหลือ ที่เรียกกันว่า activate a distress call แต่ที่สำคัญคือฝ่ายลูกเรือได้ทำการล็อกตัวเองในห้องนิรภัยตามขั้นตอนแล้ว ดังนั้นกองเรือมาเลเซียจึงไม่ต้องกังวลใจ หากจะส่งคอมมานโดเข้ายึดเรือคืน เพราะโอกาสที่ลูกเรือจะได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการปะทะระหว่างคอมมานโดกับโจรสลัดลงลงไปมากแล้ว อ่าน Gulf news ที่ลงรายละเอียดปฏิบัติการณ์ครั้งนี้ได้จากข่าวนี้ คลิกรายละเอียดข่าว


(2.) ทำไมกองเรือเกาหลีใต้จึงช่วยเรือ Samho Jewelry ที่ถูกโจรยึดได้


คำตอบ- กรณีเรือ Samho Jewelry นี้จะแตกต่างไปจากกรณีเรือ Bunga Laurel ตรงที่ กองเหลือเกาหลีใต้ไม่ได้ตามประกบมาแต่แรก และการเข้ายึดเรือคืนนั้น กระทำราว 7 วันหลังจากเกิดเหตุ ตามข่าวที่แจ้งไว้เช่นนั้น..... Friday's operation came a week after the Somali attackers seized the Samho Jewelry, a 11,500-ton chemical carrier คลิกรายละเอียดข่าว

ทำไมกองเรือเกาหลีใต้ จึงกล้าเสี่ยงส่งคอมมานโดเข้ายึดเรือคืนในขณะที่ลูกเรือไม่ได้อยู่ในจุดปลอดภัย ไม่ได้ขังตัวเองไว้ในห้องนิรภัยอย่างกรณี Bunga Laurel  คำตอบคือ เกาหลีใต้เองได้รับแรงกดดันจากภายในประเทศ ในเวลานั้นมีทั้งเรื่องเกาหลีเหนือพยายามข่มขู่มีการยิงปืนใหญ่เข้าใส่หมู่บ้านในฝั่งเกาหลีใต้ และที่สำคัญมีเรือเกาหลีใต้และทางเกาหลีใต้ต้องจ่ายค่าไถ่ไปแล้ว 6 ลำ โดยเรือลำที่ 7 ก็ยังอยู่ใต้การยึดของโจรสลัด จนผู้คนรู้สึกขุ่นเคืองกับการที่เรือเกาหลีใต้ถูกโจรสลัดยึดและต้องจ่ายค่าไถ่กันซ้ำแล้วซ้ำเล่า   เนื่องจากผมไม่เก่งภาษาอังกฤษมากพอ เกรงว่าจะแปลตรงนี้ผิดพลาด จึงขอนำความท่อนนั้นมาลงดังนี้คือ

South Korea has also come in for criticism after paying ransoms to secure the release of crew members from six vessels hijacked by Somali pirates, the Chosun Ilbo said. A seventh ship and its crew are still in pirates' hands."The (South Korean) people have been irritated at this vicious circle of hostage takings and ransom... The special forces deserve great awards from the government," Chosun said. คลิกอ่านรายละเอียดที่นี้

 

ดังนั้น ทางการเกาหลีใต้จึงต้องเสี่ยงเข้าทำการนี้ แต่จะเห็นว่าไม่ได้ทำการเข้ายึดเรือคืนในทันทีแบบมาเลเซีย แต่รอไปถึงหนึ่งสัปดาห์ น่าจะเพื่อเตรียมการ ด้านการข่าว เตรียมกำลัง เตรียมความพร้อมด้านต่างๆก่อน และมีความเป็นไปได้สูงว่า ในการเตรียมการด้านการข่าว เพื่อยึดเรือคืน ในครั้งนี้ สหรัฐอาจจะมีส่วนอยู่มากเพราะเป็นพันธมิตรใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นการติดตามถ่ายรูปรายละเอียดบนเรือจากดาวเทียมเพื่อดูการจัดกำลังของโจรบนเรือ หรือแม้แต่การซุ่มเฝ้าดักฟังสัญญาณวิทยุหรือสัญญาณโทรศัพท์ผ่านดาวเทียมที่ออกจากเรือ

 

(3.) ทำไมกองเรือไทย ไม่ช่วยเรือ MV THOR NEXUS  ที่ถูกโจรยึด

ตอบ- กรณีของไทยนั้นต่างไปจากมาเลเซีย เพราะเรือ MV THOR NEXUS ที่ถูกยึดไม่ได้เดินทางมากับกองเรือของไทย และเมือกองเรือทราบข่าวนั้น โจรเข้ายึดเรือ MV THOR NEXUS โดยสมบูรณ์แล้วและลูกเรือถูกโจรสลัดควบคุมตัวไว้ได้แล้ว โดยที่ลูกเรือไม่สามารถเข้าไปในห้องนิรภัยได้ทัน และไม่ได้ส่งสัญญาณเข้ามาขอความช่วยเหลือ ออกมาได้อย่างกรณีของมาเลเซีย กรณีนี้จึงไปคล้ายกับกรณีเกาหลีใต้

ในข้อเท็จจริงนั้น เรือถูกยึดไปเกือบ 1 วันก่อน โดยบริษัทเจ้าของเรือไม่ได้แจ้งให้ทางกองเรือทราบ แต่กองเรือของไทยไปพบเข้าในขณะลาดตระเวน คือวันที่ 25 ธ.ค.53 เวลา 04.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่เรือหลวงสิมิลันลาดตระเวนบริเวณใกล้กับพื้นที่ POA 3 (Pirate Operation Area 3)หรือพื้นที่ปฏิบัติการของโจรสลัดพื้นที่ ๓ ทางด้านตะวันออกของประเทศโอมาน  ตรวจพบเรือสินค้าลำหนึ่งลอยอยู่นอกพื้นที่ POA3 ทางด้านตะวันออกประมาณ 20 ไมล์ทะเลหรือ 37 กิโลเมตร ไม่เดินระบบ AIS (Automatic Identification System ) ซึ่งปกติเรือเดินทะเลจะต้องเดินระบบนี้เพื่อแสดงตนเอง จึงได้ทำการติดต่อสื่อสารให้เรือลำดังกล่าวเดินระบบ AIS ทำให้ทราบว่าเป็นเรือ MV THOR NEXUS ซึ่งเป็นเรือสินค้าไทย เรือหลวงสิมิลันพยายามติดต่อสื่อสารกับเรือ  MV THOR NEXUS ด้วยภาษาไทย แต่มีการตอบรับผิดปกติ

หมู่เรือปราบปรามโจรสลัด กองทัพเรือ จึงทำการตรวจสอบข้อมูลกับทางบริษัทเจ้าของเรือ ทราบว่า เรือ MV THOR NEXUS ออกเดินทางจากท่าเรือฟูเจล่าร์ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อเดินทางไปส่งสินค้าที่เมืองจิตกอง ประเทศบังคลาเทศ แต่จากการตรวจสอบจากระบบติดตามอัตโนมัติ GPS ของบริษัทพบว่า ตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา เวลา 10.36 น.ตามเวลาท้องถิ่น เรือ MV THOR NEXUS มีการเปลี่ยนเส้นทางการเดินเรือออกนอกเส้นทางหลัก ดังนั้น เป็นที่ยืนยันแน่ชัดแล้วว่า เรือลำดังกล่าวถูกโจรสลัดขึ้นยึดเรืออย่างแน่นอน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.๕๓ เวลา 10.36 น.ตามเวลาท้องถิ่น

ในเวลานั้น หมู่เรือปราบปรามโจร ใช้เฮลิคอปเตอร์แบบ Bell 212 พร้อมด้วยหน่วยปฏิบัติการพิเศษ เข้าตรวจสอบเรือดังกล่าว พบเห็นบุคคลที่คาดว่าเป็นโจรสลัดตามสถานที่ต่างๆบริเวณสะพานเดินเรือและพบเห็นเรือเร็วเครื่องติดท้ายอยู่บนเรือ MV THOR NEXUS  คลิกอ่านรายละเอียด

เมื่อทราบเช่นนั้นแล้ว ทำไมจึงไม่ส่งคอมมานโดเข้ายึดคือ คำอธิบายนี้ มีอยู่ในคำสัมภาษณ์ของพล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในภายหลังดังนี้ว่า“...ปฏิบัติการอะไรที่เสี่ยง หรือทำให้เกิดความสูญเสียเราจะพยายามไม่ทำ ถ้าหาก 27 คนไทยกลับบ้านได้โดยปลอดภัยนั่นคือจุดประสงค์สุดยอดของเรา หรือว่าบรรลุภารกิจของกองทัพเรือไทยที่ออกไปปฏิบัติภารกิจน่านน้ำอ่าวเอเดน อีกทั้งการถอนสมอในครั้งนี้เนื่องจาก บริษัทของลูกเรือคนไทยทั้ง 27 คน บอกให้หมู่เรือปราบปรามโจรสลัดหยุดปฏิบัติการทางด้านทหาร เพราะไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสีย เมื่อบริษัทดังกล่าวบอกให้เรา ยุติ แล้วเราไปดำเนินการหากเกิดสูญเสียคงไม่คุ้ม ทั้งนี้เหตุการณ์ที่คนไทยทั้ง 27 คนถูกจับ บริษัทเรือไม่ได้แจ้งให้เราได้รับทราบ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราอยู่ห่างราว 350 ไมล์ทะเล หรือ ประมาณ 600 กิโลเมตร กลุ่มโจรสลัดจับกุมคนไทยไปตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม ที่ผ่านมา ขณะที่หมู่เรือปราบปรามโจรสลัดมารู้เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม โดยที่เขาก็ไม่ได้แจ้งให้เราทราบ เพียงแต่มันผิดสังเกตและเข้าไปตรวจสอบจึงรู้ว่ามีคนไทยถูกจับกุมไป หากเกิดเหตุซึ่งหน้าเราก็คงไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น...

...แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสุดวิสัย กลุ่มโจรสลัดใช้ปืนจี้หัวตัวประกันที่เป็นลูกเรือคนไทยทั้ง 27 คนซึ่งไม่มีโอกาสได้เข้าไปอยู่ในเซฟรูม เพื่อปกป้องตัวเอง ตามปกติเรือทุกลำจะมีอยู่แล้ว และปล่อยให้เรือเดินไปตามอัตโนมัติ ทั้งนี้เรามีขั้นตอนหลายอย่าง หากลูกเรือได้เข้าไปในเซฟรูมแล้ว เรือเดินไปอีกสักพักกดปุ่มเพื่อตัดน้ำมัน เขาก็ทำอะไรไม่ได้ มันมีหลายวิธีนอกเหนือจากกำลังทางทหาร..”

คำสัมภาษณ์จะถือเป็นการแก้ตัวหรือไม่ก็แล้วแต่มุมมอง แต่จะเห็นว่าทางกองเรือคำนึงถึงความปลอดภัยของคนไทยเป็นสำคัญ และสถานการณ์ต่างไปจากเรือมาเลเซียถูกยึด ที่ลูกเรืออยู่ในจุดปลอดภัยมากพอที่คอมมานโดจะเขายึดคืนได้ และจะเห็นว่า บริษัทเจ้าของเรือเอง เขาเป็นฝ่ายขอให้ยุติปฏิบัติการณ์ซึ่งจะเกิดเพราะไม่ไว้ใจความเสียหายที่จะเกิดจากการเขายึดเรือคืน หรือเกิดจากการที่เขาเชื่อว่าเขาจะตกลงกับโจรได้ในราคาที่เขาเห็นว่ารับได้ ก็คงเป็นเรื่องของเขา แต่ทางการไทยก็ไม่ต้องการจะเอาชีวิตลูกเรือมาเสี่ยงในปฏิบัติการณ์เข้ายึดเรือคืน 

ซึ่งจะต่างไปจากกรณีเกาหลีใต้ที่ มีเหตุเกิดกับเขาซ้ำซากจนเขารู้สึกขุ่นเคืองมาก เพราะเกาหลีใต้เองก็ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ต่อเรือ และมีการเดินเรือมากที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง และเข้าใจว่าคงเป็นเจ้าของบริษัทที่เป็นคนเกาหลีใต้หรือรัฐบาลเกาหลีใต้เอง ต้องจ่ายเงินค่าไถ่จำนวนมากมายเหล่านั้น  (ผมเข้าใจว่าคนเกาหลีใต้เป็นเจ้าของเรือสัญชาติเกาหลีใต้ที่ถูกยึดไปทั้งนั้น อาจจะต่างจากกรณีของเรา ที่บริษัทต่างชาติน่าจะเป็นเจ้าของเรือสัญชาติไทยที่ถูกยึด เพราะไม่เห็นมีคนไทนคนไหนรับภาระจ่ายเงินจำนวนมากมายมาก่อน มีแต่บริษัทเจ้าของเรือที่เป็นบริษัทต่างชาติ ) จนเกาหลีใต้ต้องตัดสินใจเสี่ยงเข้ายึดเรือคืนเพื่อลดความไม่พอใจภายในประเทศ และเพื่อรักษาภาพของประเทศที่มีความยิ่งใหญ่ทางการเดินเรือทะเล  ซึ่งเกาหลีใต้ก็ไม่ได้ทำกันบุ่มบ่าม แต่ใช้เวลาเตรียมการด้านการข่าวหรือด้านอื่นๆก่อนรวม 7 วัน แต่ของไทยในเมื่อเจ้าของบริษัทเขาแจ้งให้ยุติแล้ว ทางกองเรือไทยจึงไม่สามารถจะวางแผนเข้ายึดเรือคืนได้ หากบริษัทตกลงใจจะกองกำลังเข้ายึดเรือคืน ยอมต้องใช้เวลาเหมือนเกาหลีใต้ เพราะต้องมีการข่าวที่ดี มีข้อมูลภาพถ่ายจากดาวเทียมที่เป็นปัจจุบัน มีการติดตามเรือ ฯลฯ

ผมเองก็เป็นคนไทย ที่อยากเห็นปฏิบัติการณ์ยึดเรือไทยคืนเช่นเดียวกับท่านอื่นๆ เพราะอยากให้ประเทศของเรามีชื่อเสียงและเป็นที่โจษจรรย์ในสังคมโลกถึงความเก่งกาจของทหารเรือไทย แต่ด้วยข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ด้วยการคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกเรือ และด้วยเหตุที่บริษัทเจ้าของเรือเขาไม่ให้ใช้วิธีนั้น ก็คงต้องยอมรับความจริงว่า เราไม่สมควรจะทำเช่นนั้นด้วยการเอาชีวิตของคนไทยมาเสี่ยง

เรื่องที่สอง ตอบ คุณทวดเอง (P10167824)


คุณทวดเองครับ คุณพนิช ก็เหมือนกับคนไทยคนอื่น ไม่ว่าจะเป็น ลุงแป้ง น่าคำ ตามี หรือยายมา คือเป็นคนไทยธรรมดาที่ไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเส้นเขตแดน ไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะตอบกับบุคคลภายนอกได้อย่างถูกต้องหรือตอบแทนประเทศไทยไปได้ว่า เส้นเขตแดนที่แท้จริงของไทยนั้นอยุ่ที่ใด เพราะไม่มีความรู้ที่ถูกต้อง

ดังนั้น เมื่อพนิช ลุงแป้ง น่าคำ ตามี หรือยายมา ถูกจับในบริเวณดังกล่าว แล้ว หากไปให้การยอมรับว่าบริเวณดังกล่าวเป็นเขตกัมพูชาจริงๆ ก็เป็นเพียงความเข้าใจของประชาชน คนพื้นบ้านทั่วไปที่สามารถผิดพลาดคลาดเคลื่อนได้ ไม่สามารถจะนำมาอ้างได้ว่าเป็นความเข้าใจที่ถูกต้อง ดังนั้นหากพนิชไปให้การยอมรับว่า ที่ตรงนั้นเป็นของกัมพูชาจริง ก็เป็นเพียงความเข้าใจของพนิช ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงตามสนธิสัญญาไทย-ฝรั่งเศส คศ 1913 หรือตามที่กรมแผนที่ทหารยึดถือ แต่ในความเป็นจริง ดูเหมือนพนิชจะไม่ได้ยอมรับแบบนั้น แต่ยอมรับว่าได้เข้าไปในบริเวณนั้นเพราะสำคัญผิดว่าบริเวณนั้นเป็นพื้นที่ของไทย !  จึงไม่มีเจตนจะลุกล้ำหรือละเมิดกฎหมานเขมร การกระทำที่ขาดเจตนาหรือความจงใจนี้ มีส่วนที่ทำให้ศาลกัมพูชาปราณี

ส่วนคำพูดของพนิชหรือของใครๆ ในคลิป หรือในที่ใดๆ ก็ไม่มีอำนาจกำหนดเขตแดนได้เช่นกัน เพราหากเป็นเช่นนั้นจริง วันดีคืนดี จำลอง ก็แอบข้ามไปกัมพูชาตรงบริเวณที่เป็นของกัมพูชาแท้ๆ เอาตรงหลักกิโลเมตรของกัมพุชานั้นแหละ แต่เลือกตรงที่ไม่มีทหารเขมรเฝ้าอยู่ แล้วยืนถ่ายรูป ถ่ายคลิปวิดิโอ พร้อมพูดและชี้ว่า หลักกิโลเมตรนี้ อยู่ในเขตแดนไทย แล้วกลับออกมา เช่นนี้ หลักฐานในคลิปแบบนี้ก็ไม่สามารถใช้อ้างได้ว่าที่ตรงนั้นก็เป็นดินแดนของไทยแล้ว ฉันใดก็ฉันนั้น  คำพูดของพนิชหรือของใครในคลิปไม่ว่าที่ใดก็ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงเพื่อการกำหนดเขตแดนได้ อนึ่ง คำพูดของพนิชในคลิปเอง หากคุณลุงฟังให้ครบๆถ้วนๆแล้ว คณลุงจะทราบว่า เขาถือว่าที่เขาเดินอยู่นั้นคือดินแดนไทย แต่เป็นดินแดนไทยที่เขมรเข้ามารุกล้ำยึดครอง เขาไม่ได้ว่าตรงนั้นคือแดนเขมรโดนชอบธรรม ดังจะเห็นว่าเขาบอกหลังจากที่แจ้งเลขาส่วนตัวให้บอกนายกฯว่า กำลังเดินไปที่หมุด 46 ของไทย หรือตอนฝ่าแนวลวดหนามเก่าเข้าไปก็มีการพูดว่า พ้นแนวนี้ก็ยังเป้นเขตแดนไทย เป็นต้นครับ ดังนั้นหากฟังให้ครบ ไม่ตัดตอนเอามาฟัง จะรู้ว่าพนิชหมายถึงยังอยู่ในแดนไทยแต่เป็นเขตที่กัมูชารุกล้ำเข้ามายึดครองโดยมิชอบครับ

โดยสรุปแล้ว คดีที่คนไทยธรรมดาคนหนึ่งโดนศาลเขมรพิพากษาว่าเข้าเมืองโดยผิดกฎมาย ไม่ว่าจะมีคำสารภาพเป็นอย่างไร ไม่ว่าจะมีหลักฐานในคลิปว่าอย่างไร ก็ไม่อาจจะนำมาอ้างได้ว่า นั้นคือการยอมรับของราชอาณาจักรไทยต่อเขตแดนที่อัยการกัมพูชาอ้าง เพราะเป็นแค่ความเข้าใจหรือความคิดของคนไทยคนหนึ่งซึ่งจะผิดจะถูกอย่างไรก็ได้ ไม่ใช่ความเห็นของกรมแผนที่ทหารไทยหรือกรมสนธิสัญญา หรือของรัฐสภาไทย หรือขององค์กใดๆตามกฎหมายไทยที่มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเขตแดน และสามารถจะให้ความเห็นแทนราชอาณาจักรไทยได้  จึงไม่มีผลต่อเขตแดนไทย แต่อย่างที่ผมว่า หากองค์กรตามรัฐธรรมนูญไทย ไปให้การยอมรับคำพิพากษาศาลกัมพูชา แบบนี้แหละจึงจะอาจถูกตีความว่าไทยยอมรับเขตแดนเขมรไปโดยปริยาย จึงต้องเตือนให้ระวังในกระทู้ที่แล้วครับ

ขอจบการอภิปรายวันนี้แค่นี้นะครับ

 

 

 

 

-เข้ามาแก้คำผิด และลดสีสันลงบ้าง เพื่อให้อ่านได้ง่ายขึ้น

- ตอบคุณ kenmhoy ในกระทู้ข้างบน คุณพนิชแม้ว่าจะมีชาติกำเนิดหรือการศึกษา หรือหน้าที่การงานต่างไปจากลุงแป้ง ตามี หรือยายามา หรือเคยทำงานในรัฐบาลมาก่อนหรือเป็นแม้กระทั่งสส. แต่ทั้งหมดเหมือนกันในทางกฏหมายคือเป็นคนไทยที่มิได้มีหน้าที่หรืออำนาจในการกำหนดว่าเขตแดนแห่งราชอาณาจักรไทยอยุ่ที่ใด ดังนั้นความเห็นของคุณพนิช จึงไม่สามารถจะนำมาอ้างได้ว่า แนวนั้น แนวนี้คือแนวเขตแดนไทยครับ

อีกอย่างหากใครก็ตามที่ดูคลิปทั้งหมดแล้วย่อมสรุปได้ว่าคุณพนิชไม่รู้เรื่องแนวเขตแดนเลย เพราะในคลิปนั้น แกต้องถามวีระไปเป็นระยะๆตลอดว่า ตรงนี้เป็นแดนใคร ซึ่งวีระก็ตอบเป็นระยะว่าเป็นเขตแดนไทย แต่เขมรยึดครอง ดังนั้น คลิปนั้นเป็นหลักฐานชัดแจ้งว่า พนิชเป็นคนที่ไม่มีความรู้เรื่องแนวเขตแดนเลยแม้แต่น้อยครับ

ส่วนเรื่องกองเรือไทยที่ไปโซมาเลีย ก็แล้วแต่จะคิดกันครับ แต่ผมเป็นคนไทยคนหนึ่งที่ให้กำลังใจกองเรือในการปฏิบัติหน้าที่ จนสามารถคุ้มกันเรือสินค้าจำวนมากให้ผ่านบริเวณนั้นโดยปลอดภัย เรื่องการไม่เข้ายึดเรือนั้น น่าจะทำถูกต้องแล้ว เพราะเจ้าของเรือไม่แจ้งมา ย่อมแสดงว่าฝ่ายไทยเราเองไม่มีรายละเอียดแผนผังในเรือแน่ว่าอะไรอยู่ที่ใด ขืนบุ่มบ่ามทำเก่วเข้าไปมีหวังได้มีลูกเรือตายหมู่ อาจคล้ายกับกรณีตัวประกันในฟิลิปินส์ที่ตายหมู่บนรถบัส เพราะความบุ่มบ่ามของตำรวจมนิลาก็เป็นได้ แต่ของเราไม่เกิดเหตุน่าสลดใจ เพราะกองเรือเรารอบคอบ ในเมือไม่มีรายละเอียดแผนผังเรือ เจ้าของเรือพอใจจะหใ้ปล่อยผ่าน ขืนฝืนบุกเข้าไปก็คงมีเรื่องร้ายเป็นแน่ วิญญูชนที่มีสิตปัญญาย่อมสำนึกได้ในข้อนี้ดีครับ


แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 54 16:26:46

แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 54 15:09:30

แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 54 14:49:50

แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 54 14:37:33

จากคุณ : thyrocyte
เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 14:33:42 A:58.136.4.210 X:



ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com