เมื่อการปฎิวัติโดยประชนในหลายประเทศเกิดความสำเร็จ จะด้วยขับไล่ผู้นำที่ไม่พึงประสงค์สำเร็จ หรือด้วยต้องแบ่งแยกประเทศ ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ทั่วโลก ก็ล้วนแล้วแต่เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยประชาชนทั้งสิ้น เป็นตัวอย่างที่จะกระทำการสืบต่อกันไป คล้ายลูกโซ่ จากซูดาน ไปตูนีเซีย จนถึงเยเมน และยังไม่รวมการแตกระแหงของอีกหลายๆประเทศในทวีปยุโรป การแข็งขืนเหล่านี้ กลายเป็นตัวอย่าง ที่คนไทยจะลอกเลียนแบบพฦติกรรม อย่างแน่นอน เหมือนกับที่คนไทยส่วนหนึ่งในสมัยก่อนพยายามเลียนแบบพรรคคอมมิวนิสต์ของ เหมา เจ๋อตุง มาแล้ว
ภายใต้การเมืองและระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ ที่มีความวุ่นวายถึงขีดสุดแล้ว ด้วยการแบ่งแยกสี แบ่งแยกกลุ่ม ไม่มีสิ่งใดมีเหตุผลที่ถูกต้องอย่างแท้จริง ไม่มีสิ่งใดเป็นรูปธรรมทั้งสิ้น แกนนำใช้มวลชนให้เป็นประโยชน์สูงสุดจากการวาดหวังต่อประชาชนผู้ฝักใฝ่ให้หลงเชื่อไปในทิศทางเดียวกัน ด้วยกุศโลบายว่าต้องได้มาซึ่งประชาธิปไตยที่แท้จริง ทั้งๆที่แท้จริงแล้ว นายทุน ผู้ประกอบการธุรกิจอันทรงอิทธิพลระดับโลกที่กุมทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในมือแล้ว ความวุ่นวายเหล่านี้ เป็นเพียงความปั่นป่วนของอุดมคติของประชาชนที่จะสอดคล้องกันกับนักการเมืองที่อ้างตัวเองว่าอยู่ฝ่ายประชาชน ไม่มีใครสู้กับใครทั้งสิ้น หากแต่มันคือความวุ่นวายของบ้านเมืองที่จะนำทุกอย่างเข้าสู่ธรรมเนียมประเภณีเดิมๆ นั่นคือ " ปฎิวัติ "
ก่อนเราจะเข้าใจความไม่เท่าเทียมของสังคม หรือความเป็นเผด็จการของรัฐบาล เราต้องเข้าใจเสียก่อนว่า รัฐบาลเผด็จการนั้นมีเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ใดบ้างในการควบคุมและบงการทุกอย่างให้อยู่ในอาณัติอย่างวางใจได้ คนเสื้อแดงคงได้คิดไว้ แต่คงไม่ได้กระทำการอันใดที่จะส่งผลกระทบกระเทือนต่ออุปกรณ์เหล่านั้น เพราะเขาเหล่านี้ ต่างก็มิได้ล่วงรู้ถึงความซับซ้อนของการเมือง หากแต่เขาเหล่านี้ ทำได้เพียงเชื่อ แกนนำจากหลายๆ กลุ่ม หลายๆกระแส ที่อ้างตัวเองว่า เป็นสีแดง เช่นกัน กว่าเกมการเมืองที่แท้จริงจะปรากฎ กว่าความจริงจะปรากฎ กว่าคนเสื้อแดงจะเข้าใจการเมือง มันคงสายไปแล้ว ถึงวันนั้น อย่าว่าแต่ประชาธิปไตยเลย แม้แต่เผด็จการอันแข็งขืน ก็อาจไม่มีอีกต่อไป เพราะวันนั้น สังคมจะไม่มีแม้แต่ชนชั้น มีเพียงการแก่งแย่งดิ้นรนเอาชีวิตรอดกันไปวันๆ เพราะสงครามกำลังจะมาในไม่ช้า...
หลักการพิชัยสงคราม ซุนวู ยังเป็นสากลอยู่เสมอ แม้แต่ประเทศมหาอำนาจอย่างอเมริกาก็ใช้หลักการของพิชัยยุทธ ซุนวู
กฎข้อหนึ่งของพิชัยสงคราม ซุนวู กล่าวไว้ชัดเจนว่า " สงครามไม่ควรยืดเยื้อ หากยืดเยื้อไพร่พลจะเหนื่อยล้า ขาดความหึกเหิม อ่อนล้าจะต่อสู้ จึงควรเผด็จศึกโดยเร็ว "
กลุ่มคนเสื้อแดงได้เพียงปราศรัยและอ้างถึงหลักการทางประวัติศาสตร์ไปเรื่อยเปื่อย แต่ไม่ได้เป็นยุทธการณ์แต่อย่างใด การชุมนุมบ่อยครั้งของกลุ่มคนเสื้อแดงและการเรียกร้องประชาธิปไตยของกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นไปอย่างไร้ทิศทาง และไร้เหตุผล ไร้น้ำหนักการโจมตี และสำคัญที่สุดไร้มวลชน กลุ่มคนเสื้อแดงมีการตีกรอบความคิดกันเองอยู่ตลอดเวลา ใครคิดต่างจะถูกโจมตีอย่างเสียหาย หรือเหตุผลสุดท้ายที่คนเสื้อแดงจะอ้างได้กับคนคิดต่าง คือ " การคิดต่างอาจทำให้เสียขบวน " จนมวลชนในกลุ่มคนเสื้อแดงน้อยลงทุกวัน จนมั่นใจได้เลยว่า กลุ่มคนเสื้อแดงไม่มีทางชนะอะไรได้เลย บวกเข้ากับสภาพของกลุ่มที่เป็นเหมือนลัทธิ คนกลุ่มนี้คงทำได้เพียง ขยับกระดานหุ้นในบางครั้งเพียงเท่านั้น และเขาเหล่านี้เมื่อมารวมตัวกันตามเวปบอร์ดในอินเตอร์เนต จะเป็นเพียง " ลัทธิล่าแม่มด " เพียงเท่านั้น...
ทุกอย่างคือธุรกิจ นักการเมืองจะไม่บอกใครว่าเขาคิดอะไรและต้องการอะไร สภาวการณ์สร้างโอกาส การเก็บเกี่ยวผลประโยชน์อย่างลับๆ กลายเป็นส่วนแบ่งตลาดจากอำนาจเผด็จการโดยอัตโนมัติ เมื่อรู้ทิศทางธุรกิจ เราไม่จำเป็นต้องแคร์ประชาชนผู้ใฝ่หาความสบายใจ สร้างความเชื่อเพื่อความหวัง ตัดคำว่า เวลา ออกไป วันที่ดีกว่าต้องมาถึงอย่างแน่นอน ไม่ต่างจากธุรกิจขายตรง ขอเพียงเสียเงินสมัครสมาชิก เข้าประชุมกับเราทุกอาทิตย์ ความสำเร็จจะมาถึง แต่ความเป็นจริง กลุ่มเสื้อสีเหลืองคงไม่ได้คิดแบบเดียวกัน.