[รักคนเสื้อแดง] ดูก่อน ผู้มาเยือนห้องรดน.และแอบทั้งหลาย กรณีพิพาทไทยกัมพูชา
|
 |
แทนที่จะมาตั้งกระทู้กดดันพวกที่ใช้สงครามมาเป็นเครื่องมือที่ใช้หวังผลทางการเมืองที่เป็น "ต้นตอ" จุดชนวนการปะทะหรือสงครามให้เกิดเป็นรูปธรรม ถ้าผู้มาเยือนห้องรดน.และแอบทั้งหลายไม่ทำตัวมึนและซึน-(เดเระ)ก็จะทราบกันดีว่ากลุ่มที่จุดชนวนการปะทะหรือสงครามในวันนั้นก็คือกลุ่มพันธมิตรแอนด์เดอะแก๊ง(ไอติม)ในวันนี้ โดยเหตุการณ์เริ่มต้นในสมัยรัฐบาลสมัครเมื่อปี 2551
และจากการที่ท่านผู้มาเยือนห้องรดน.และแอบทั้งหลายที่ตั้งกระทู้เสียดสี ถากถางผู้ที่แสดงความคิดเห็นแตกต่างไม่เป็นไปในแนวทางเดียวกันกับท่าน ที่เรียกร้องจะให้รัฐบาลใช้กำลังทหารเข้าจัดการว่าเป็นคนไทยหัวใจเขมร หรือเป็นเขมร นั้น นอกจากจะเป็นการแสดงออกที่ประจานวุฒิภาวะของท่านเองว่าอยู่ในระดับอนุบาลทางการเมือง ยังออกจะเป็นการแสดงความคิดที่ตื้นเขิน ไม่มีเหตุและผลมารองรับ
คนที่เรียกร้องสันติ ให้ทั้งสองประเทศใช้หลักการการเจรจา ซึ่งเป็นหลักสากลที่มนุษย์ทั่วโลกใช้เป็นเครื่องมือสุดท้ายที่สามารใช้ยุติความขัดแย้ง ยุติสงคราม ยุติความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินใดๆ ที่จะเกิดขึ้นต่อประเทศคู่กรณีนั้นๆ ผมก็ไม่อยากจะจินตนาการว่า การตั้งกระทู้ถากถาง เสียดสี ของท่านทั้งหลายที่มีต่อเพื่อนสมาชิกราชดำเนินขาประจำนั้น พวกท่านใช้อวัยวะส่วนไหนของร่างกายคิด
ก่อนจบกระทู้ผมขอเสนอแนวทางในการแก้ไขที่คิดขึ้นมาแบบฉุกละหุกเล็กๆ น้อยๆ สำหรับเพื่อนสมาชิกท่านใดจะนำไปใช้ต่อยอดช่วยกันเสนอแนวทางที่เป็นประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาโดยยึดหลักสันติภาพ ก็ช่วยๆ กันนะครับ
ทางสังคม
- สังคมต้องกดดันให้พันธมิตรเลิกใช้ใช้แนวทางข้างถนนมาทำการปากว่าตาขยิบส่งซิกให้รัฐบาลรับลูกไปดำเนินการจนเกิดเหตุบานปลาย
- สังคมต้องกดดันให้รัฐบาลปฏิเสธข้อเรียกร้องของพันธมิตรที่ให้ใช้กำลังทหารเข้าผลักดันในบริเวณพื้นที่ที่เป็นข้อพิพาท ซึ่งทำให้สถานการณ์เกิดความตึงเครียดและนำมาสู่การปะทะเป็นระยะ
- สังคมต้องปฏิเสธการใช้กำลังเต็มรูปแบบในการทำสงครามที่รัฐบาลจะนำมาใช้เป็นแนวทางแก้ไข
- สังคมอุดมปัญญา ควรใช้ปัญญามากกว่าการใช้อารมณ์ในการช่วยกันแก้ไขปัญหา และควรที่จะศึกษาเรียนรู้ว่าอะไรเป็นต้นตอของปัญหา มากกว่าการใช้อารมณ์ที่เก็บกดหาทางออกไม่ได้ มาแสดงอคติทางการเมืองแบบไร้ค่า ซึ่งนอกจากจะไม่ช่วยทำให้อะไรดีขึ้น กลับสร้างความเกลียดชังของประชาชนให้ทวีคูณยิ่งขึ้น
รัฐบาล
- รัฐบาลไม่ควรตอบสนองทำตามข้อเสนอรายวันของพันธมิตรจนทำให้สถานการณ์ในพื้นที่ตึงเครียดและพัฒนามาสู่การปะทะและอาจบานปลายกลายเป็นสงคราม โดยที่พันธมิตรและรัฐบาลจะได้ฉกฉวยการทำให้เกิดสงครามมาสร้างเป็นเงื่อนไขที่ทำให้เกิดผลประโยชน์ทางการเมืองแก่ฝ่ายตน
- รัฐบาลควรทบทวนตนเองว่า ตนเองเป็นส่วนหนึ่งของ "ต้นตอ" ที่ทำให้เกิดปัญหาในอดีต ไม่ควรผลักความรับผิดชอบไปให้แก่กลุ่มพันธมิตรฝ่ายเดียว ทางออกที่ดีที่สุด คือ รัฐบาลควรพิจารณาความผิดของตนเองที่ได้ร่วมกันก่อขึ้น ทำการขอโทษประชาชนที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ในวันนี้ ประกาศลาออก ยุบสภา เพื่อหาคนที่เหมาะสมกว่าตามครรลองประชาธิปไตยที่ไม่มีการแทรกแซงจากอำนาจพิเศษ(กองทัพและมือที่มองไม่เห็น)มาทำการแก้ไขปัญหา
- รัฐบาลถ้าปัดความรับผิดชอบในข้อ 2 และยังดื้อดึงที่จะอยู่ต่อในอำนาจ ก็ขอให้ตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชนเป็นที่ตั้ง ใช้แนวทางสันติภาพยึดเป็นหลักในการแก้ไขปัญหา คำนึงถึงศักดิ์และศรีความเป็นเพื่อนมนุษย์ร่วมโลก มากกว่าการทำตัวเป็นเด็กเกเร โกหก มดเท็จ ออกพูดโป้ปด สร้างภาพ เพื่อเอาใจม็อบและแฟนคลับ
เศรษฐกิจ 1. กลุ่มธุรกิจควรแสดงจุดยืนที่ถูกต้อง ไม่ตกอยู่ภายใต้การครอบงำทางการเมือง หรืออำนาจพิเศษ ใช้คอนเน็คชั่นของกลุ่มธุรกิจเข้าทำการกดดันและเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดโต๊ะเจรจาเพื่อรักษาสนามการค้าไม่ให้แปรเปลี่ยนกลับไปเป็นสนามรบ
การเมือง
- ไม่เพียงแต่รัฐบาล ฝ่ายการเมืองทุกฝ่าย โดยเฉพาะคู่กรณีของรัฐบาล คุณทักษิณ บิ๊กจิ๋วผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านน่าจะมีบทบาทอะไรบ้าง ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ท่านมีกับฮุนเซ็นเข้ามาช่วยทุเลา หยุดยั้ง เหตุการณ์ไม่ให้บานปลายจนเกิดกลายเป็นสงครามระหว่างสองประเทศ
- นักการเมืองโปรดช่วยกันทำหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข นำสันติภาพและสันติสุขกลับคืนสู่ทั้งสองประเทศ แข่งกันทำดีไม่มีใครว่าอะไร และไม่ควรรอคอย เมื่อท่านทำแล้ว ถึงใครจะว่าอะไร ก็ช่างหัว... ขอให้นึกถึงหัวอกชาวบ้านตาดำๆ ตาสียายสา ลูกเล็กเด็กแดง ที่วิ่งหนีลูกระเบิด ก็พอ
จากคุณ |
:
สิงห์สนามหลวง
|
เขียนเมื่อ |
:
7 ก.พ. 54 23:59:02
A:61.90.22.181 X:
|
|
|
|