เราจะยังไม่พูดถึงคณะปฎิรูปนั้นในตอนนี้ แต่เราลองมาเรียงลำดับลากเส้นความสัมพันธ์กันของแต่ละสีแต่ละม๊อปจวบจนถึงรัฐบาลและกองทัพกันก่อน

เมื่อกองทัพเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างมีเอกภาพขั้นสูงสุด โดย นายทหารฝ่ายอดีตนายก ทักษิณ ทุกๆคนที่ยังดำรงตำแหน่งในกองทัพอยู่ ยอมศิโรราบ ให้กับคณะปฎิรูปฯ ( คมช. ) หมดทั้งสิ้นแล้ว กองทัพจะทำการจัดการโยกย้ายนายทหารสายของตนเข้ามาควบคุมกองทัพต่อไปอย่างมีเอกภาพ โดย พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ที่มีอายุราชการยาวนานถึง 4 ปีกว่าจะเกษียณ เขามีเวลามากพอที่จะบริหารจัดการกองทัพให้มีเอกภาพสูงสุด และเป็นไปดั่งที่เขาต้องการให้เป็น ภายใต้กุศโลบายแห่งความจงรักภักดิ์ดี

กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บางคนกำลังประกอบการอะไรบางอย่าง โดยการเข้าไปในพื้นพิพาทนั้น จนถูกรัฐบาลกัมพูชาจับตัวและจองจำด้วยโทษที่หนักข้อหาความมั่นคง และด้วยคลิปลับที่ถูกเปิดเผยออกมาว่า มีการรู้เห็นกันก่อนล่วงหน้ากับนายกอภิสิทธิ์ ถึงตรงนี้ เราจะเห็นภาพว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยังมีความสัมพันธ์กับรัฐบาลประชาธิปัตย์อยู่ ไม่ว่าคลิปนั้นจะจงใจให้หลุดออกมา หรือหลุดออกมาโดยบังเอิญก็ตาม คนเปิดเผยคลิปลับนี้ ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือ นายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำ นชป. นี่เอง สภาวการณ์ปัจจุบัน กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เคลื่อนไหวอีกครั้งอย่างหนัก ทั้งก่อม๊อปกลางเมืองกรุง และถ่ายทอดปลุกระดมผ่านช่องโทรทัศน์ Astv อย่างหนัก ทั้งเรื่องความต้องการขับไล่รัฐบาล และเรื่องเพิ่มความรักชาติโดยจะไม่ยอมเสียดินแดนบริเวณเขาพระวิหารอย่างเด็ดขาด ทั้งๆที่แท้จริงแล้ว ความต้องการของคนกลุ่มนี้ก็ไม่มีเหตุผลอะไรเลย แต่มันก็มีน้ำหนักทุกครั้งที่เกิดการปลุกระดม และเราๆยังจำกันได้ดีถึงการอุปโลกเรื่องราวใส่ร้ายนายกทักษิณ ชินวัตร เมื่อครั้งก่อนเกิดการปฎิวัติ 19 กย. 49

หากว่าจะมองการเป็นการเมืองอย่างจริงจัง เราจะเห็นได้ว่าทุกอย่างเหมือนถูกวางแผนลงมา และเหมือนกับว่า ประเทศแต่ละประเทศที่สร้างภาพว่าคล้ายเป็นปรปักษ์ต่อกันและกัน แต่แท้จริงแล้ว การสร้างม๊อป การสร้างสงคราม การเกิดเรื่องพิพาทในเรื่องเขตแดนต่างๆ เหล่านี้ มันเป็นเพียงอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่ใช้ในการบริหารโลกใบนี้ต่างหาก

อาวุธไม่ได้มีไว้เพียงเตรียมพร้อมกับสงครามหรือปกป้องอาชญากรรมต่างๆ อย่างที่ควรจะเป็น หากแต่ผู้ที่ผลิตมันก็ต้องสร้างตลาดไว้ด้วย ตลาดของการขายอาวุธ ก็คือสงครามและความไม่สงบเรียบร้อยของสังคมในแต่ละประเทศนั่นเอง รวมถึงลัทธิความเชื่อ ที่คอยจะสร้างความไร้เสถียรภาพให้กับรัฐบาลของตนเอง เพื่อก่อความวุ่นวายให้กับบ้านเมืองในแต่ละประเทศ อย่างลับๆ ภายใต้คำว่า " การก่อม๊อปเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย " หรือภายใต้คำว่า " การก่อม๊อปภายใต้ระบอบประชาธิปไตย "

ความไม่มั่นคงของรัฐบาลและกลิ่นอายของสงครามบริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา นั้น ยังส่งผลไปสู่เรื่องของธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคด้วย เกิดการกักตุนสินค้า เกิดการปรับราคาขึ้น ตามกระแสที่อ่อนไหวของสงครามที่อาจจะบานปลายได้ ภายใต้โลกยุคทุนนิยม นี้ เรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น ล้วนถูกวางแผนลงมาจากนายทุน เพื่อสร้างกำไรสูงสุดในการลงทุนเพียงเท่านั้น ม๊อปต่างๆ ก็เป็นเครื่องมือของเกมแห่งธุรกิจนี้ด้วยอย่างไม่รู้ตัว ในยุคข้าวยากหมากแพง และไม่มีแนวโน้วว่าจะสภาพเศรษฐกิจจะดีขึ้นได้เลย มันเป็นเพียงการกระจุกตัวของนายทุน แล้ววางแผนการตลาดป้อนเข้าสู่สังคมโดยไม่แคร์ความเหลื่อมล้ำใดๆทั้งสิ้น เขาไม่ได้ไร้ความปราณีอย่างที่เข้าใจ หากแต่ว่าเขาจำเป็นต้องทำไปตามกระแสของโลกาภิวัตน์

แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ( นปช. ) ยังคงหาช่องทางก่อม๊อประดมพลอยู่ตลอดเวลาโดยไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนในข้อเรียกร้องแต่อย่างใด โดยเขาเหล่านี้ จะก่อม๊อป 1 ครั้งต่อเดือนเป็นอย่างต่ำ และทุกๆครั้งการปราศรัยของแกนนำ ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า การพูดคุยหรือการตั้งสมาคม เพื่อรวมตัวของกลุ่มคนเสื้อแดงเพียงเท่านั้น บ้างก็เรียกร้องประชาธิปไตย บ้างก็ปราศรัยโจมตีชนชั้นนำ บ้างก็ด่าทอรัฐบาลประชาธิปัตย์ไปอย่างนั้น แต่ กลุ่ม นปช. ไม่เคยพูดถึง ความเลวร้ายของรัฐบาลประชาธิปัตย์อย่างแท้จริง เช่น การสร้างอำนาจที่เข้มแข็งของรัฐบาลประชาธิปัตย์ ที่ยากที่จะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างที่รัฐบาลประชาธิปัตย์ได้ใช้เวลาที่ดำรงตำแหน่งอยู่นี้ สร้างมันขึ้นมาอย่างเข้มแข็ง และมั่นคง หากแต่กลุ่มคนเสื้อแดงไม่ได้ล่วงรู้ถึงความเป็นจริงข้อนี้ หรือจงใจมองข้ามไปกันแน่...

ไม่ว่าการปฎิวัติจะเกิดขึ้นหรือไม่ รัฐบาลประชาธิปัตย์ก็ยังทรงอิทธิพลอำนาจอยู่ตลอดทั้งสิ้น ไม่ว่า จะถูกปฎิวัติหรือเกิดการเลือกตั้งขึ้นก็ตาม ภายใต้ยุทธศาสตร์การแยกย่อยพรรคการเมือง เมื่อพรรคเพื่อไทย มีจำนวน สส. น้อยลง และไร้เงินทุนในการสร้างอำนาจเพื่อที่จะกลับมาจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ก็มั่นใจได้เลย ว่าคะแนนเสียงของประชาชนที่เลือกพรรคเพื่อไทย จะเป็นคะแนนบริสุทธิ์ของประชาชนจริงๆ ที่ยังคงความศรัทธาต่ออดีตนายกทักษิณ ชินวัตร แต่มันก็ยังไม่มากพอที่จะต่อสู้กับพรรคการเมืองที่มีนายทุนระดับโลกหนุนหลัง ระบบการหาเสียงและผลประโยชน์ที่แท้จริงหากเลือกพรรคการเมืองที่มีทุนระดับโลกสนับสนุนนั้น มันแน่นอนและชัดเจนกว่าที่จะต้องมาเฝ้ารอรัฐบาลที่คล้ายเป็นรัฐบาลนอมินีของอดีตนายกทักษิณ อย่างแน่นอน การจัดตั้งรัฐบาลโดยมีพรรคเล็กพรรคน้อยทั้งหมดรวมกัน โดยปล่อยให้พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านต่อไป จึงเป็นเรื่องที่สามารถคาดคะเนไว้ล่วงหน้าได้เลย

การออกมาของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในครั้งนี้ กลุ่มคนเสื้อแดงคงพอใจ ที่เห็นรัฐบาลประชาธิปัตย์โดนขับไล่โดยกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และคงแอบเชียร์รัฐบาลกัมพูชาให้รบกับไทยอย่างจริงจัง เพราะต้องการล้มอำนาจของรัฐบาลประชาธิปัตย์ ขณะเดียวกันกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ปลุกระดมกระแสชาตินิยม เหมือนพวกกระหายสงคราม โดยคนเสื้อแดงคงลืมไปแล้ว ว่าเขาต้องการอะไรกันแน่ ภายใต้ความหวังที่มีต่อทนายความ อันเตอร์ดัม ผู้ชี้ชัดว่านายกอภิสิทธิ์ เกิดที่ประเทศอังกฦษ ควรมีสัญชาติอังกฦษ ในคดีการสลายการชุมนุมของรัฐบาลประชาธิปัตย์ จนทำให้ต้องมีผู้เสียชีวิตถึง 91 ศพ

-----------------------------------

ผมจะตีความบทความนี้ให้ฟังครับ

ในบทนี้ เขียนไว้ประมาณว่า ทุกอย่างเป็นเกม ทุกอย่างเป็นแผน ของนายทุน นายทุนจะกำหนดทุกอย่าง และคำว่า นายทุนคำนี้ มันเดินตามโลกาภิวัตน์ คำว่า อำมาตย์เป็นเพียงเครื่องมือของนายทุนเพียงเท่านั้น ทุกอย่างเดินตามทุน ( ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่า อำมาตย์หมายถึงใครและแปลว่าอะไร ) เพราะฉนั้นสิ่งที่เสื้อแดงคิดอยู่ จึงคิดผิดทั้งสิ้น

เชิญคอมเม๊น ได้เท่าที่ต้องการครับ ผมจะไม่ลบความคิดเห็น เชิญได้ที่บลอคของผมครับ

http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=gruffgraff