Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
“ความไขว้เขว้ในเรื่องมีสัญชาติหรือเป็นคนในสัญชาติ” ในหลักการรับฟ้องของศาลอาญาระหว่างประเทศ ติดต่อทีมงาน

ที่จริง ณ เวลานี้เป็นที่ปรากฏชัดตามข้อกฎหมายและหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งนักกฎหมายผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายสัญชาติ ได้ออกมาให้ความเห็นทางกฎหมายที่ชัดเจนแล้วว่า ลำพังการเกิดในประเทศอังกฤษ ไม่ได้ทำให้บุคคลได้มาซึ่งสัญชาติอังกฤษ ตราบเท่าที่บุคคลนั้นไม่ได้แสดงเจตนาใช้สิทธิในสัญชาตินั้น

ซึ่งสอดคล้องกับบทบัญญัติในกฎหมายสัญชาติอังกฤษปี 1948 ที่บัญญัติแต่เพียงให้บุคคลที่เกิดในอังกฤษมีสถานะเป็นพลเมืองอังกฤษไม่ได้บัญญัติว่าบุคคลที่เกิดในอังกฤษมีสัญชาติอังกฤษ แต่การจะมีสัญชาติอังกฤษได้นั้น บุคคลนั้นจึงต้องนำหลักฐานการมีสถานะพลเมืองอังกฤษไปแสดงเจตนการใช้สัญชาตินั้น จึงจะมีสัญชาติอังกฤษได้ตามบทบัญญัติและหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ( เช่นเอาใบแจ้งเกิดไปขอสัญชาติผ่านกระบวนการต่างๆ อาทิเช่น ขึ้นทะเบียนบ้าน ขอทำพาสปอร์ต )


แต่หากย้อนไปดูบทบัญญัติใน Rome statue อันเป็นข้อกำหนดหลักของศาลอาญาระหว่างประเทศ จะเห็นว่ามีการเข้าใจที่น่าจะคลาดเคลื่อนในประเด็นเรื่องสัญชาติ เพราะใน Rome statue ไม่ได้บัญญัติว่าศาลจะมีอำนาจพิจารณาคดีนั้นหากบุคคลนั้นมีสัญชาติของรัฐภาคี แต่บัญญัติว่า ศาลจะมีอำนาจพิจารณาคดีเมื่อบุคคลนั้นเป็นคนในสัญชาติของรัฐภาคี 

ดังนั้น การพยายามจะค้นว่ามาร์ค"มีสัญชาติอังกฤษ"หรือไม่ จึงอาจเป็นความพยายามที่ผิดประเด็นไป เพราะสุดท้ายหากแม้ว่ามาร์คเคยใช้สิทธิสัญชาติอังกฤษไปจริงๆและ"มีสัญชาติอังกฤษ"ในความครอบครองจริงก็ตาม หากประเทศอังกฤษ ไม่ถือว่ามาร์คเป็นคนในสัญชาติอังกฤษในเวลาที่เกิดเหตุนั้น ก็จะยังไม่เข้าเกณท์ของศาลอาญาระหว่างประเทศอยู่ดี ทำให้ม่สามารถจะฟ้องร้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศได้    ดังจะได้อธิบายต่อไปนี้คือ

Rome statue:

Article 12
Preconditions to the exercise of jurisdiction
(b) The State of which the person accused of the crime is a national.
โดยไม่ได้บัญญัติว่า
The State  of which the person accused of the crime has a nationality.

 “การมีสัญชาติ”ของรัฐหนึ่งๆ กับ “การเป็นคนในสัญชาติ”ของรัฐหนึ่งๆนั้น ไม่เหมือนกันตามกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศอังกฤษ เพราะตามกฎหมายระหว่างประเทศนั้น ได้มีการยอมรับว่าบุคคลอาจจะมีหรือถือสัญชาติได้หลายๆสัญชาติพร้อมๆกัน   แต่จะเป็น "คนในสัญชาติ" ใดๆได้เพียงประเทศเดียวหรือสัญชาติเดียวในเวลาหนึ่งๆเท่านั้น



อังกฤษใช้ Master Nationality Rule กำหนดความเป็น"คนในสัญชาติ"เพียงสัญชาติเดียวในเวลาหนึ่งๆ

แม้ทางอังกฤษจะยอมรับการที่บุคคลถือหลายสัญชาติ แต่ทางอังกฤษจะถือว่าบุคคลคนนั้น เป็นคนในสัญชาติใดๆในเวลาหนึ่งๆได้เพียงสัญชาติเดียว และในเวลาที่เป็นคนในสัญชาตินั้น ประเทศเจ้าของสัญชาติ อีกประเทศหนึ่ง ที่คนนั้นก็มีสัญชาติอยู่ จะเข้ามายุ่งเกี่ยวไม่ได้ ตามคำอธิบายของทางการอังกฤษ ดังนี้

Dual Nationality ( คลิก )

3. Dual nationals outside the UK - the Master Nationality Rule

3.2 Commonly known as the "Master Nationality Rule", the practical effect of this Article is that where a person is a national of,for example, two States (A and B), and is in the territory of State A,

then State B has no right to claim that person as its national or to intervene on that person's behalf.



จะเห็นว่าหากคนๆหนึ่งมีสองสัญชาติเช่นสัญชาติประเทศ A และประเทศ B จะเป็นคนในสัญชาติเดียวคือสัญชาติประเทศ A ตามที่ที่เขาอยู่ คือ ประเทศ A เท่านั้น ( คลิกอ่านเพิ่มในวิกิ)

นั้นคือทางการอังกฤษอธิบายว่า หากสมมุติ นาย ม มีสัญชาติไทย( A )และอังกฤษ( B) และอยู่อาศัยในประเทศไทย ( A ) แล้ว รัฐอังกฤษ (B ) ย่อมไม่สามารถจะถือได้ว่า นาย ม เป็นคนในสัญชาติอังกฤษของตนในเวลานั้นได้ (State B has no right to claim that person as its national )หากจะเทียบเคียงความเห็นของทางการอังกฤษที่มีนี้เข้ากับเหตุการณ์ปี 2553 ก็เท่ากับว่าในเวลานั้น ทางอังกฤษไม่สามารถถือว่ามาร์คเป็นคนในสัญชาติ ( State B has no right to claim that person as its national) แม้หากว่ามาร์คจะมีสัญชาติอังกฤษอยู่จริงก็ตาม เพราะมาร์คมีสัญชาติไทยและมีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย


เรื่องการใช้ภูมิลำเนากำหนดสัญชาติในกรณีที่มีปัญหาเรื่องสัญชาตินั้น หากไปดูใน สนธิสัญญานานาชาติเกี่ยวกับเรื่องการขัดกันระหว่างสัญชาติ (Convention on Certain Questions Relating to the Conflict of Nationality Law ) จะพบว่ามีข้อกำหนดให้ใช้ประเทศที่คนคนนั้นมีภูมิลำเนาอยู่ เหมือนกับกฎหมายๆไทยบัญญัติไว้ว่าให้ใช้สัญชาติของประเทศที่คนคนนั้นมีสัญชาติและกำลังมีภูมิลำเนาอยู่ ดังที่คุณ masatha นำมาลงไว้ในกระทู้ P10266320  คือให้อาศัยหลักว่าคนคนนั้นมีภูมิลำเนาที่ใดหรือเกี่ยวข้องอยู่กับสถานที่ใดเป็นส่วนใหญ่ ก็ให้ถือว่าเป็นคนสัญชาติของที่นั้น

Article 5.
Within a third State, a person having more than one nationality shall be treated as if he had only one. Without prejudice to the application of its law in matters of personal status and of any conventions in force, a third State shall, of the nationalities which any such person possesses, recognise exclusively in its territory either the nationality of the country in which he is habitually and principally resident, or the nationality of the country with which in the circumstances he appears to be in fact most closely connected.


ดังนั้น สรุปกรณีมาร์คนั้น อังกฤษไม่ถือว่าเป็นคนในสัญชาติอังกฤษ

กรณีของมาร์คนั้น จะอย่างไร ทางอังกฤษก็ไม่ถือว่าเป็นคนในสัญชาติอังกฤษในเวลานี้หรือในเวลาที่เกิดเหตุพฤษภาคม 2553 โดยต่อให้มาร์คเกิดในอังกฤษและได้มีการใช้สิทธิในสัญชาติอังกฤษไปแล้วจริงๆก็ตาม เพราะมาร์คมาอาศัยอยุ่ในประเทศไทยและมาร์คมีสัญชาติไทยอย่างแน่นอนอยู่นั้นเอง ดังนั้นหากทางศาลอาญาระหว่างประเทศถามอังกฤษว่ามาร์คเป็นคนในสัญชาติอังกฤษหรือไม่ อังกฤษก็คงตอบไปตามหลักที่เขาแจ้งไว้นั้นเองว่า.......

England has no right to claim  Mr.Abhisit as its national. ( State B has no right to claim that person as its national) หากอังกฤษไม่สามารถถือได้ว่ามาร์คเป็นคนในสัญชาติของตน ( not a British national) แล้วไซร้ ก็ย่อมจะไม่เข้าเกณท์ของศาลอาญาระหว่างประเทศที่จะรับฟ้อง เพราะเกณท์นั้นเอาความเป็นคนในสัญชาติ( is a nantional of that State)

         

ก็ขอจบข้อสังเกตเรื่องนี้ไว้เท่านี้ และ ขอให้เครดิตคุณ masatha ที่ตั้งกระทู้ P10266320 ทำให้เกิดฉุกคิดได้ว่า ตกลงแล้ว ศาลอาญาระหว่างประเทศเอากฏ “การมีสัญชาติ” หรือ “ความเป็นคนในสัญชาติ” กันแน่ และทางอังกฤษมีหลักกฎหมายหมือนกับหลักกฎหมายไทยที่คุณ masatha นำมาให้อ่านหรือไม่ ขอขอบคุณคุณ masatha อีกที่ที่นำกฎหมายนั้นมาลงครับ อนึ่ง เป็นเพียงข้อสังเกตุเพื่อให้เกิดความเข้าใจต่อหลักกฎหมาย ที่น่าจะให้ถูกต้องกว่า ตามสภาพความเป็นจริง มิได้หวังจะให้เกิดควมขุ่นเคือง หงุดหงิดแก่ผู้ใด ยกเว้นจะเป็นคนขี้โมโห แต่เพื่อความเข้าใจที่มากขึ้นหรือมุมมองที่แตกต่าง อันน่าจะเป็นประโยชน์แก่สมาชิก

 

 

 

 

 

- ปรับข้อความตามที่มีสมาชิกแนะนำ เพื่อให้กระชับอ่านได้ไม่ยากเกินไป โดยตัดส่วน effective nationality ออกไปก่อน เพราะไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นสำคัญของกระทู้ ให้เหลือเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับประเด็นสำคัญของกระทู้  หากท่านใดยังสนใจในเรื่อง effective nationality กรุณาแจ้งมาเพื่อส่งรายละเอียดไปให้ครับ .

.

แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 54 20:29:09

แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 54 17:58:58

แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 54 16:37:15

แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 54 16:35:18

จากคุณ : thyrocyte
เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 16:26:46 A:58.137.0.146 X:



ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com