"พลังเงียบ" ตื่นนานแล้ว....มั้งครับ

เห็นม็อบเสื้อแดงวันนี้....ก็ทำให้นึกถึงวีรกรรมของม็อบเสื้อเหลืองทุกที
ยังเป็นของคู่กัน...เป็นเหมือนกระจกเงา...ที่สะท้อนความเป็นมาเป็นไปของความวุ่นวายในบ้านเมือง

"ม็อบเหลือง" ใช้วิธีและรูปแบบเดียวกับการก่อการร้าย
ทั้งการใช้ข่าวลือข่าวเท็จ, ใช้การยั่วยุปลุกระดมให้ฝ่ายรัฐบาลทำร้าย ฯลฯ
เข้ามาบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของสถาบันต่างๆ....รวมถึงความมั่นคงของรัฐบาล

ใช้วิธีการทุกอย่าง...บนพื้นฐานของ "ความเกลียดชัง"
ไม่สนว่าคนอื่นจะเดือดร้อนยังไง...ประเทศชาติจะยับเยินแค่ไหน...ผลที่ตามมาจะเป็นยังไง

ถึงม็อบเหลือง...จะมีเจตนาดี(มั้ง?) (-- พยายามมองม็อบเหลืองในแง่บวกสุดๆแล้ว--)
ที่เห็นการไม่ชอบมาพากลในการบริหารงานของรัฐบาลทักษิณ
แต่ "วิธีการ" ที่ใช้....มันไม่ถูกต้องและสร้างความเสียหายตามมาอย่างสุดจะคาดเดา(ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อใด)

แถม "สื่อ" และ "ผู้มีหน้ามีตาทั้งหลาย" ที่มีบทบาทชี้นำแนวคิดของสังคม
ที่ดาหน้าออกสื่อถล่มรัฐบาล แต่เพิกเฉย(ไม่ตำหนิ)ต่อการกระทำของม็อบเหลือง
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการสนับสนุนทั้งทางตรงและทางอ้อมอีกต่างหาก

นี่นะหรือ.... ผู้ที่อ้างว่ามีการศึกษาสูง??

ถ้ามีการศึกษาสูงแล้ว "มีสมอง" จริงๆล่ะก็
พวกท่านทั้งหลาย ต้องออกมาตำหนิการกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯอย่างรุนแรงไปแล้ว

อยากตำหนิรัฐบาลก็ทำไปเถิด แต่ต้องตำหนิม็อบเหลืองด้วย
....ไม่ใช่เงียบเป็นเป่าสาก แถมยังทยอยขึ้นเวทีและมอบกระเช้าดอกไม้ให้อีก

เพราะอย่างนี้...มันทำให้สังคมทั่วไปมองว่า
ท่านทั้งหลายยอมรับว่า "วิธีการม็อบเหลือง" นั้นถูกต้อง

วิธีการของม็อบเหลือง...คือวิธีการของการก่อการร้าย

เคยคิดบ้างไหมว่า ขั้วทางการเมือง มันมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
วันหน้า พรรคไหนขึ้นมาเป็นรัฐบาล แล้วมีคนเกลียด
...เขาก็จะใช้วิธีการแบบม็อบเหลือง ที่ท่านทั้งหลายยอมรับ ณ วันนั้นนั่นแหล่ะ

ม็อบแดง...มันถึงได้เลียนแบบวิธีการของม็อบเหลืองอย่างหน้าชื่นตาบาน

ทั้งหมดนี้...เป็นเพราะการกระทำของพวกท่านในวันนั้นนั่นแหล่ะ


และในการตัดสินของกระบวนการยุติธรรม...
เป็นเรื่องธรรมดา ที่ต้องมีทั้งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับคำตัดสิน

แต่เดิมนั้น..ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ก็ก้มหน้าก้มตายอมรับ
เพราะถือว่า... ผู้ทำหน้าที่ตัดสินเป็นผู้มีวิจารณญานดี ทำหน้าที่ด้วยความรู้ความสามารถ ทำด้วยความสุจริต

แต่เมื่อมีปรากฏการม็อบเหลือง ที่ใช้วิธีก่อม็อบข้างถนนเพื่อตัดสินความผิดของรัฐบาลทักษิณ
ปฏิเสธใช้กระบวนการยุติธรรม โดยให้เหตุผลว่า "ถูกแทรกแซง" โดยรัฐบาลทักษิณ
และก็มีคนเฮโล "ยอมรับ" กันว่าเป็นเรื่องจริงกันอย่างกว้างขวาง....
วินาทีนั้น....ระบบยุติธรรมบ้านเราก็เป็นอันถูกทำลายย่อยยับไปแล้วล่ะครับ

องค์กรที่ถูกแทรกแซงได้... มันหมดความน่าเชื่อถือ
และไม่ว่าพรรคไหนจะมาเป็นรัฐบาล...องค์กรที่เคยถูกแทรกแซงก็ย่อมแทรกแซงได้เสมอ

ดังนั้นทุกวันนี้... คนที่ไม่ยอมรับคำตัดสินของกระบวนการยุติธรรม
เขาก็ใช้แนวคิดแบบเดียวกับที่ม็อบเหลืองเคยใช้นั่นแหล่ะครับ

ฝ่ายโน้น....เชื่ออย่างนั้น ทำอย่างนี้ได้   ฝ่ายนี้...ก็เชื่อและทำอย่างเดียวกันได้เช่นกัน

ปกติ เมื่อเกิดปัญหาขัดแย้ง เราจะใช้กระบวนการยุติธรรมเข้ามา "ยุติ"
แต่ในเมื่อกระบวนการยุติธรรมถูกทำลายย่อยยับไปแล้ว...จะเอาอะไรมายุติล่ะครับ


ผมเชื่อว่า (เกือบ)ทุกคนรู้ว่า "วิธีการ"ของม็อบเหลือง เป็นสิ่งไม่ดี..และม็อบแดงก็รู้ว่าไม่ดี
เพราะตอนที่ม็อบเหลืองออกมา ม็อบแดงในตอนนั้น(ยังเป็นประชาชนธรรมดา) ก็น่าจะรู้ซึ้งถึงความเดือดร้อนที่ได้จากม็อบเหลืองดี
แต่ทำไมม็อบแดงถึงเลือกวิธีของม็อบเหลือง??

ถ้าท่านถูกต่อย ท่านจะต่อยคืนไหมครับ? (หรือว่าจะยอมถูกต่อยข้างเดียว เพราะรู้ว่าการต่อยทำร้ายผู้อื่นเป็นสิ่งไม่ดี)
ถ้าท่านถูกด่า ท่านจะด่าคืนไหมครับ? (หรือว่าจะยอมถูกด่าฝ่ายเดียว เพราะรู้ว่าการด่าทอเป็นสิ่งไม่ดี)

ม็อบแดงก็คงเช่นกัน...
ในเมื่อโดนม็อบเหลืองทำ เขาก็ทำตอบ โดยใช้วิธีการเดียวกัน
(ซ้ำร้ายตรงที่ว่า วิธีการที่ม็อบเหลืองใช้ ได้ถูกยอมรับแล้วว่าทำได้ ทำได้ไม่ถูกสังคมติเตียน)
(ซ้ำร้ายหนัก...ที่ระบบยุติธรรม ไม่สามารถทำให้ทุกฝ่ายก้อมหน้ายอมรับผลการตัดสินได้ เพราะเป็นที่ยอมรับกันแล้วว่า "แทรกแซงได้")


อ้อ...พรรคประชาธิปัตย์(ฝ่ายค้านขณะนั้น)
...ที่เข้าให้การสนับสนุนม็อบเหลืองอย่างออกหน้าออกตาในการล้มรัฐบาลทักษิณ...
ก็ไม่มีความเหมาะสมที่จะเป็นรัฐบาลหรอกครับ

เพราะปชป. ก็คือกลุ่มหนึ่งที่เข้ามาสร้างปัญหาร่วมกับม็อบเหลือง(ทั้งตรงและอ้อม)
ปัญหาที่เกิดจากม็อบเหลือง จึงเสมือนกับปัญหาของ ปชป.เอง
ดังนั้น ปชป. ไม่มีทางแก้ปัญหาม็อบแดงได้หรอก

ตอนที่มีกระแสว่า จะโดนยุบทั้ง ปชป.และทรท.
.. ก็แอบดีใจลึกๆว่าอย่างน้อยก็ขจัดตัวแปรในปัญหาออกไปหนึ่งอย่าง
แต่ที่ไหนได้ ทรท. ยุบ แต่ ปชป. รอด...แถมยังถูกอุ้มชูจนเป็นรัฐบาล
เฮ้อ....ก็ได้แต่ทำใจ ว่าปัญหาม็อบการเมืองคงไม่จบง่ายๆ
(ม็อบเหลืองที่ ปชป. สนับสนุน...ล้มรัฐบาลที่ม็อบแดงหนุนได้
แต่ม็อบแดงยังล้มรัฐบาลที่ม็อบเหลืองหนุนไม่ได้
....แสดงว่ายังไม่ได้แลกกันคนละหมัด...และคงไม่ยุติจนกว่ารัฐบาลปชป.จะคว่ำ)



ฟังอภิสิทธิ์พูดถึงเรื่องปรองดองทีไร... ได้แต่ถอนหายใจ
เพราะมันจะทำได้ยังไง ในเมื่อพรรคเขาเองนั่นแหล่ะที่ร่วมก่อวีรกรรมกับม็อบเหลือง จนได้เป็นรัฐบาลในที่สุด

พอพูดถึงปรองดอง-สมานฉันท์ ก็เลยถึงว่าเขาทำกันยังไงบ้างหนอ???

จุดมุ่งหมายของการสมานฉันท์ที่พูดๆกัน จุดมุ่งหมายที่แท้จริงคือทำให้ความขัดแย้งหมดไป

การทำให้ความขัดแย้งหมดไป ทำได้ 2 วิธีหลักๆ คือ
1. ทำให้แต่สองกลุ่มที่ขัดแย้งกัน กลายเป็นกลุ่มเดียวกันที่ไม่มีความขัดแย้ง เขียนเป็นสมการง่ายๆว่า 1+1 = 1
2. มีสองกลุ่มขัดแย้งกัน กำจัดหนึ่งกลุ่ม ก็จะเหลือหนึ่งกลุ่มที่ไม่มีความขัดแย้ง เขียนเป็นสมการง่ายๆว่า 1-1 = 1

วิธีที่ 1 คือวิธีการในฝัน....สวยหรูดูดี แต่ทำยาก
วิธีที่ 2 คือวิธีการออกป่าเถื่อน ...แต่ทำง่ายกว่า และให้ผลรวดเร็ว

รัฐบาลอภิสิทธิ...ก็เลือกใช้วิธีที่สองในการขจัดความขัดแย้ง....ใช่ไหมล่ะครับ

การเจราจากับม็อบแดงของอภิสิทธิ์...ผมไม่เห็นด้วยแต่แรก
เพราะไม่เห็นความจำเป็นที่รัฐบาลต้องไปเจรจาออกทีวีอย่างนั้นเลย
ผมเชื่อว่า ทุกรัฐบาลมีการเจรจาลับๆกับแกนนำม็อบทุกม็อบอยู่แล้ว
(ถ้าจำไม่ผิด แกนนำม็อบแดงก็ออกมายอมรับว่า มีการเจรจาลับๆกับคนของรัฐบาลจริง แต่ก็ตกลงกันไม่ได้)

การที่อภิสิทธิ ลงไปเจรจาเองออกทีวีแบบนั้น
ผมมองว่าเป็นละครฉากหนึ่ง ที่ถูกสร้างเพื่อหาความชอบธรรมในการสลายการชุมนุมโดยใช้ความรุนแรง
เพราะทั้งม็อบแดงและรัฐบาลอภิสิทธิ ไม่มีใครยอมใครหรอก
ยิ่งออกหน้าทีวี รัฐบาลยิ่งไม่มีทางยอมรับข้อเสนอของม็อบแดงเด็ดขาด (ก็ขอให้ยุบสภา(เกือบ)ทันทีนี่นา)
แค่รัฐบาลเสนอเงื่อนไขพ่วงออกมา ม็อบแดงก็ยิ่งไม่มีทางยอมอยู่แล้ว (เพราะรู้ดีว่า ปชป. พลิ้วเก่งขนาดไหน)
สรุปก็คือการเจรจาครั้งนั้น...มันก็แค่ละครฉากหนึ่งที่รัฐบาลสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่

ส่วนเรื่องปิดกล้อง CCTV ของม็อบ (ไม่ว่าเหลืองหรือแดง)
ฝ่ายม็อบก็คงกลัวถูกสอดแนมความเคลื่อนไหวจึงได้ปิดกล้อง
แต่ความเคลื่อนไหวที่ว่านี้ จะถูก/ผิด หรือไม่อย่างไร ก็แล้วแต่จะเดากันไป (แต่คิดว่า มีทั้งถูกและผิดปนกัน)

แต่ที่น่าสนใจคือ ในเมื่อฝ่ายม็อบปิดกล้อง CCTV...ถ้าคุณเป็นฝ่ายรัฐบาลคุณจะใช้ประโยชน์จากจุดนี้อย่างไรได้บ้าง?

แน่นอนว่า ในเมื่อปิดกล้อง..ไม่มีภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน.... ทั้งสองฝ่ายต่างก็ใช้ประโยชน์จากจุดนี้ได้

ฝ่ายม็อบทำผิด...ก็ไม่มีหลักฐานเก็บไว้
ฝ่ายรัฐทำผิด...ก็ไม่มีหลักฐานเก็บไว้เช่นกัน

ดังนั้น....คงจะเอาจุดนี้มาโจมตีฝ่ายม็อบเพียงฝ่ายเดียวก็คงไม่เป็นธรรมนัก


ผมไม่ใช่คนดีอะไรหรอก
มีโลภ มีโกรธ มีหลง อยากได้ อยากเอาเปรียบคนอื่น

แต่สิ่งหนึ่งที่ผมยึดเสมอก็คือ

"ถ้าผมไม่ชอบสิ่งใด ผมจะไม่ทำสิ่งนั้นกับคนอื่น
เพราะถ้าผมทำ คนอื่นก็ต้องทำกับผม แล้วผมก็จะทนไม่ได้
ดังนั้นผมจึงไม่ทำในสิ่งที่ผมไม่อยากให้คนอื่นทำกับผม

และถ้าผมเผลอทำสิ่งที่ไม่ดีออกไป
ผมจะยอมให้ผู้ที่รับผลจากการกระทำนั้น ทำผมคืนได้เช่นกัน"

ผมเรียกสิ่งนี้ว่า "เอาใจเรา มาใส่ใจเขา" แล้วหวังว่าเขาจะ "เอาใจเขา มาใส่ใจเรา" บ้าง
(เพราะผมเน้นที่ "ใจเรา" เป็นที่ตั้ง....มิใช่ "ใจเขา")

ดังนั้น เมื่อตอนที่ม็อบเหลืองครองเมือง
ผมได้ถามผู้ที่ให้การสนับสนุนการกระทำของกลุ่มพธม. ในขณะนั้นว่า
"ถ้ากลับกัน คุณยอมรับการกระทำของกลุ่มพธม. ได้รึไม่?"
คำตอบที่ผมได้คือ "ยอมรับได้"
(ไม่ใช่กระทู้ที่ผมตั้ง--เพราะผมไม่ชอบตั้งกระทู้--  แต่เป็นคำถามเล็กในกระทู้ของผู้สนับสนุนพธม. ที่ผมถือว่ามีความรู้ดีคนหนึ่ง)

ตั้งแต่นั้น...ผมก็ได้เตรียมใจรับผลกระทบที่จะตามมาอยู่แล้ว


เฮ้อ... ผมก็เขียนไปเรื่อยเปื่อย...ไม่รู้จะจบยังไง ก็ขอจบดื้อๆอย่างนี้แหล่ะครับ

จากคุณ	: King Hades
เขียนเมื่อ	: 18 มี.ค. 54 12:28:21 A:118.174.115.114 X: