เสียงส่วนน้อยชิงจัดตั้งรัฐบาล ก็ไม่น่าเกลียด จัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร ก็ไม่น่าชัง คะแนนเสียงไม่พอจัดตั้งรัฐบาล ต้องอาศัยกลุ่มงูเห่าของพรรคอันดับหนึ่ง ก็ไม่น่าแปลก แถลงนโยบายรัฐบาลที่กระทรวงการต่างประเทศ ก็ไม่น่าผิด ประชุมไม่ครบองค์ประชุมบ่อยๆ ก็เป็นเรื่องปกติ รัฐมนตรีไม่สามารถแจงข้อกล่าวหา ไม่ถูกปรับออก ก็เป็นเรื่องธรรมดา ส่วนพรรคร่วมที่ไม่วางใจกลับถูกปรับออก ก็เป็นเรื่องสามัญ ซื้อตัว ส.ส.กันอย่างเอิกเกริก ก็เป็นเรื่องชอบธรรม ผู้ถูกอภิปรายชี้แจงข้อกล่าวหาด้วยการอภิปรายผู้อภิปรายเสียเอง ก็เป็นเรื่องถูกต้อง การใช้สำนวนโวหารยังสำคัญกว่าการเสนอข้อเท็จจริง ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี รัฐมนตรีชี้แจงได้ไม่เคลียร์ กลับได้คะแนนไว้วางใจสูงสุด ก็เป็นเรื่องของโชค ล็อคคะแนนโหวตไว้วางใจก่อนอภิปรายกันอย่างโจ๋งครึ่ม ก็ไม่น่าอาย ผู้อภิปรายถามอย่าง ผู้ถูกอภิปรายตอบไปอีกอย่าง ก็เป็นเรื่องยอมรับได้
นี่คือรัฐสภาไทย ที่หลายๆฝ่ายบอกว่าจะแก้ปัญหาของประเทศชาติได้ ต้องใช้เวทีรัฐสภาเท่านั้น แต่สำหรับผมกลับมองว่า ตราบใดที่นักการเมืองยังขาดจิตสำนึกทางการเมือง ขาดคุณธรรมทางการปกครอง ขาดหิริโอตตัปปะ แล้วอาศัยพวกมากลากไปแบบนี้ล่ะก็ ปัญหาทุกปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมไทยจะไม่มีทางแก้ไขได้หรอกครับ ทางออกจึงมีอยู่แค่ การแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นไปประชาธิปไตยจริงๆ ประชาธิปไตยฉบับของประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชนเท่านั้นครับ เราจึงจะสามารถใช้เวทีรัฐสภาในการแก้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในประเทศเวลานี้ได้ครับ อยู่ที่ว่าทุกฝ่ายจะยอมรับหรือไม่เท่านั้นเอง
จากคุณ |
:
ทวดเอง
|
เขียนเมื่อ |
:
22 มี.ค. 54 10:39:39
A:183.89.111.34 X:
|
|
|
|