Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
สำหรับคนที่ยังเกลียดทักษิณอยู่ แต่ยังไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด 2 ติดต่อทีมงาน

ผมรู้สึกมีกำลังใจอย่างท่วมท้น ที่มีคนนำกระทู้แรก “สำหรับคนที่เกลียดทักษิณ” ไปโพสท์ที่ เอ็มไทย แล้วได้รับผลตอบรับมาดีพอสมควร ทำให้เป็นแรงกระตุ้นให้ผมต้องเขียนกระทู้ต่อเป็นภาคสองนี้ขึ้นมา เพียงแต่วันนี้ผมจะเขียนเรื่องความยุติธรรมหลังเกิดรัฐประหารนะครับ

ก่อนอื่นต้องขอออกตัวว่า ข้อเขียนของผมชิ้นนี้ (ผมจะไม่ขอเรียกว่าบทความนะครับ) อาศัยจากความทรงจำ ดังนั้นตัวเลขต่างๆอาจจะคลาดเคลื่อนไปบ้าง ก็ขอให้อภัยด้วยนะครับ แต่เรื่องราวต่างๆล้วนแต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ไม่ใช่การคิดไปเอง ไม่ใช่มีใครเล่าให้ฟัง ไม่ต้องอาศัยข้อมูลเชิงตื้นหรือเชิงลึกอะไร แล้วให้ทุกๆท่านพิจารณาเอาเองก็แล้วกันนะครับว่า ที่พวกคุณเกลียดคุณทักษิณนั้นสมเหตุสมผลหรือไม่

เรามาเริ่มต้นก่อนเลยนะครับ ก็คงไม่หนีเรื่องการประมูลที่รัชดา ทั้งที่มีการสอบถามไปยังกฤษฏีกาแล้วว่าซื้อได้หรือไม่ ทั้งๆที่หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็บอกว่าซื้อได้ คนขายก็ยอมขาย เงินที่จ่ายก็เป็นเงินบริสุทธิ์ การซื้อก็ผ่านการประมูลอย่างยุติธรรม และก็เป็นการซื้อที่เปิดเผย แต่สุดท้ายการซื้อก็กลายเป็นโมฆะ นั่นหมายความว่าไม่มีการซื้อขาย แต่สุดท้ายคุณทักษิณกลับต้องติดคุก 2 ปีโดยไม่รอลงอาญา ทั้งที่ไม่มีผู้เสียหายในกรณีดังกล่าว

แต่กรณีบุกรุกที่ป่าสงวน ทั้งที่ทำความเสียหายกับป่าสงวน และเป็นการยึดครองหลายปี แต่อัยการกลับสั่งไม่ฟ้อง เพราะขาดเจตนา นั่นเป็นเพราะอะไรกันหรือครับ การทำผิดกฎหมายทั้งที่ไม่รู้หรือขาดเจตนา ก็ไม่ผิดจนไม่สั่งฟ้องก็ได้อย่างนั้นหรือครับ แค่คืนของกลางก็เป็นการจบเรื่องอย่างนั้นหรือครับ

การคืนที่ สปก.ที่ภูเก็ตก็เช่นกัน เป็นการทุจริตโดยมิชอบ นำที่หลวงที่ควรจะให้กับเกษตรกรผู้ยากไร้มาให้กับนักการเมืองที่มีฐานะ อย่างน้อยก็ต้องทำเอกสารเท็จแน่นอน เรื่องอย่างนี้ก็แค่คืนที่ก็จบอย่างนั้นหรือครับ แล้วผลประโยชน์ที่ได้รับระหว่างคดียังไม่สิ้นสุดล่ะครับ ทำไมจึงไม่ต้องติดคุกบ้าง พวกคุณไม่แปลกใจกันบ้างหรือครับ แล้วทั้ง 3 เรื่องดัวกล่าวล้วนเกี่ยวกับที่ดินของหลวงทั้งสิ้น แต่ทำไมมีคนติดคุกเพียงคนเดียว แถมเป็นคนเดียวที่ไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้นกับการซื้อขายในครั้งนั้น แถมไม่มีอะไรที่บ่งบอกถึงการฉ้อฉลเสียด้วย นอกจากอาจจะทำให้ผู้ประมูลรายอื่นไม่กล้าประมูลแข่ง แค่ “อาจจะ”ก็ทำให้คนต้องติดคุกแล้วหรือนี่?

ประเด็นต่อมาก็มาถึงการยึดทรัพย์เกี่ยวกับการแก้กฎหมายเพื่อเอื้อธุรกิจของตัวเอง เรื่องนี้ผมคงจะไม่คุยกันในประเด็นของข้อกฎหมายนะครับ เพราะมีหลายฝ่ายออกมาแสดงความคิดเห็นมากมายในช่วงนั้น มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เพียงแต่มีข้อคิดอยู่ว่า ช่วงหลังของการตัดสินคดีเกี่ยวกับการเมือง มักจะมีข้อถกเถียงของเหล่านักกฎหมายอยู่ร่ำไป นั่นเพราะอะไรหรือครับ ใช่เพราะความศรัทธาของกระบวนการยุติธรรมบ้านเราเสื่อมถอยจริงหรือเปล่าครับ ส่วนประเด็นที่ผมสงสัยก็คือ การแก้กฎหมายของคุณทักษิณ ทำให้รัฐเสียประโยชน์จริงหรือไม่ ในช่วงนั้น รัฐเก็บภาษีได้น้อยเพราะกฎหมายฉบับนั้นหรือเปล่า แล้วธุรกิจแบบเดียวกันไม่ว่าจะเป็น ดีแทก ทรูมูฟ ก็ได้ผลประโยชน์จากกฎหมายฉบับนี้ กลับไม่ต้องเสียอะไรเลยอย่างนั้นหรือครับ แล้วตอนนี้มีการแก้กฎหมายให้กลับไปเป็นอย่างเดิมแล้วหรือไม่?

ส่วนการเอื้อประโยชน์ในปัจจุบัน กับเป็นการได้ประโยชน์จากการจัดซื้อจัดจ้างของบริษัทในเครือนักการเมืองกลับไม่ผิดอย่างนั้นหรือครับ การยกฟ้องบริษัทต่างชาติในกรณีภาษีบุหรี่ 68000 ล้าน ภายหลังจากมีการเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกับการฟ้องร้องไปประชุมกัน แบบนี้เป็นเรื่องปกติธรรมดาทั่วๆไปหรือครับ อีกทั้งเรื่องปลากระป๋องเน่า นมบูด เรื่องเหล่านี้เป็นที่ประจักษ์ว่าทุจริตจริง ขนาดใช้กรรมการพวกเดียวกันตรวจสอบกันเอง และแม้จะได้คนผิดที่เป็นพวกตัวเล็กๆก็ตาม การไล่ออกจากสมาชิกพรรคหรือการย้ายตำแหน่งหน้าที่ผู้ที่กระทำความผิด โดยไม่ต้องยึดทรัพย์หรือเรียกร้องค่าเสียหายคืน นี่คือความยุติธรรมอย่างนั้นหรือครับ

แล้วก็มาถึงเรื่องการยุบพรรค แค่เชื่อได้ว่า พรรคหนึ่งมีการจ้างคนมาลงเลือกตั้งก็ถึงขึ้นยุบพรรค
ส่วนอีกพรรคหนึ่งจ้างคนไม่ลงเลือกตั้ง กลับไม่ยอมเชื่อซะงั้น เลยไม่ต้องยุบพรรค
เพียงแต่มีข้อสงสัยว่า เมื่อรัฐธรรมนูญปี 40 ถูกฉีกไป แล้วร่างรัฐธรรมนูญใหม่ขึ้นมา จากนั้นอาศัยรัฐธรรมนูญใหม่มาตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคนั้น มีความชอบธรรมหรือไม่ เราจะถือเป็นบรรทัดฐานต่อไปในอนาคตหรือไม่ ต่อไปถ้าเราไม่ชอบการกระทำใดๆ ที่ไม่มีในกฎหมาย แล้วเราค่อยแก้กฎหมาย เพื่อจะเอาผิดย้อนหลังก็ได้อย่างนั้นหรือครับ
และที่น่าเจ็บปวดกว่านั้นก็คือ ภายหลังมีคนออกมายอมรับว่ามีการรับจ้างให้ลงเลือกตั้งจริง แต่เป็นพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม ไม่ต้องนำกลับมาพิจารณาใหม่ ยอมให้การลงโทษยุบพรรคที่มีประชาชนเลือกมาถึง 14 กว่าล้านเสียง เพราะการใส่ร้ายของพรรคตรงข้าม ยอมให้กรรมการพรรคที่เป็นตัวแทนของคน 14 กว่าล้านเสียง ต้องเว้นวรรคการเมืองโดยอาจจะไม่ผิดกฎหมายการเมืองก็เป็นได้ และเรายังไม่ต้องการทราบความจริงหรือครับว่า ตกลงการยุบพรรคไปนั้นถูกต้องหรือไม่ ปล่อยเลยตาเลยอย่างนั้นหรือครับ ถึงแม้ ท่าน กกต.จะออกมาบอกว่าแก้ไขอะไรไม่ได้ แล้วเราก็ไม่สืบเสาะหาความจริงในเรื่องนี้ อย่างน้อยควรจะหาคนผิดมาลงโทษ ไม่ว่าจะเป็นการพูดจริงหรือกล่าวให้ร้ายก็ตาม แต่ถ้าเป็นการพูดจริง ถึงแม้จะแก้ไขพรรคที่ถูกยุบไปไม่ได้ แต่พรรคที่ใช้วิธีแบบนี้ ทำให้พรรคการเมืองพรรคใหญ่ถูกยุบไม่ต้องรับผิดชอบอย่างนั้นหรือครับ นี่คือความยุติธรรมแบบไหนกันครับ

ต่อมายุบพรรคพลังประชาชน ทั้งที่ยังขาดการให้คำของพยานอีกเป็น 100 ปาก ทำไมจึงรีบยุบพรรคกันอย่างรวดเร็ว
ส่วนอีกพรรค ใช้เวลากันเป็นปี สุดท้ายกลับยกฟ้อง เพราะหมดอายุความบ้างละ นายทะเบียนพรรคการเมืองไม่ได้ออกความคิดเห็นบ้างล่ะ แค่นี้ก็รอดจากการยุบพรรค โดยปล่อยให้สังคมคลางแคลงใจกับความผิดของพรรคนั้นๆต่อไป

กกต.ชุดก่อน แค่หันหลังให้กับคูหา ก็ทำให้การเลือกตั้งนั้นเป็นโมฆะ กกต.ติดคุก ทั้งๆที่ไม่มีผลอะไรกับการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะหันหน้าหันหลังหันตะแคง และถ้าการเลือกตั้งเป็นโมฆะ นั่นย่อมแสดงให้เห็นว่าไม่มีการเลือกตั้ง แล้วเหตุใดจึงยังมีการยุบพรรคเพราะทำผิดกฎหมายเลือกตั้งอีก นี่ผมก็ยังงงๆอยู่

ส่วน กกต.ปัจจุบัน เยื้อคดีพรรคการเมืองพรรคหนึ่งที่ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งถึง 2 ข้อหา จนหมดอายุความ เป็นเหตุให้ถูกยกฟ้อง กลับไม่ต้องรับผิดชอบอะไร แล้วล่าสุดยังออกมาพูดถึงเรื่อง การใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า อันเป็นเหตุให้มีการขนคนไปเลือกตั้ง นั่นแสดงว่า กกต.ก็รู้อยู่เต็มอกว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมามีการกระทำที่ทุจริตผิดกฎหมายการเมือง ซึ่งควรเป็นหน้าที่ของ กกต.ที่จะจับผู้กระทำความผิด แต่ก็ปล่อยให้ผ่านไป แล้วค่อยจะมาคิดแก้ไขในการเลือกตั้งครั้งใหม่นี้ ไม่รู้ว่าพวกท่านฟังดูแล้ว จะตลกเหมือนผมหรือไม่ครับ เพราะการทำผิดแบบนี้ มันมีผลความได้เปรียบอย่างชัดเจนที่สุด กกต.กลับไม่ต้องรับผิดชอบอะไร นี่ก็อีกหนึ่งความแตกต่างของสังคมยุคนี้ ที่อีกฝ่ายทำอะไรก็ผิดตลอด ส่วนอีกฝ่ายทำอะไรก็ไม่ผิด

แล้วยังมีเรื่องราวที่แปลกประหลาด มหัศจรรย์มากมายที่เกิดขึ้น อย่างเช่น กกต.ชุดก่อน ไม่ยอมลาออก เพราะเห็นแก่ประเทศชาติ ก็ถูกประณามว่าอย่างหนา ยังจำได้ไหมครับ สุดท้ายก็ต้องพึ่งกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้คนเหล่านี้ต้องออกจากการเป็น กกต.

แต่ กกต.ชุดนี้ ทนความกดดันจากฝ่ายใดก็ไม่รู้ คิดจะลาออก กลับกลายเป็นว่า จะหนีเอาตัวรอด โดยไม่ห่วงประเทศชาติ อย่างนี้มันแปลกไหมล่ะ พี่น้องงงงงงงงงง

แล้วที่มี กกต.คนหนึ่งออกมาระบุว่า ถึงแม้พรรคหนึ่งได้รับเสียงข้างมากเป็นรัฐบาลพรรคเดียว ก็ต้องถูกยุบพรรคอีก นี่เป็นการตั้งธงล่วงหน้ากันขนาดนี้แล้วหรือครับ เป็นอันว่า ถ้าพรรคนี้เป็นฝ่ายค้าน ก็อยู่ต่อไป แต่ถ้าได้เป็นรัฐาล ฮึ่ม......ยุบมันซะเลย อย่างนี้หรือครับ คือ ความยุติธรรม

ยังมีอีกมากมายนะครับเกี่ยวกับข้อกล่าวหาคุณทักษิณ แต่ที่น่าแปลก มีอีกหลายข้อหา ที่แม้จะมีคุณทักษิณเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่คนอื่นๆที่ถูกฟ้องในคดีเดียวกัน พอกลับข้างเท่านั้นเอง ทุกคดีต้องยกฟ้องกันหมด นอกจากยกฟ้องไปแล้วนั้น กลับไปร่วมเป็นรัฐบาล สิ่งดีๆก็ตามมาตลอด แม้แต่ปัญหาการทุจริจหนักยิ่งกว่าสมัยอยู่กับคุณทักษิณเสียอีก อย่างนี้กลับไม่เป็นไร ทุกท่านเห็นหรือยังครับ ตกลงว่าใช่คุณทักษิณโกงจริงหรือเปล่ากันแน่

จากข้อเขียนนี้ ผมคงไม่หวังให้ทุกท่านที่เกลียดคุณทักษิณให้หันกลับมารักคุณทักษิณได้ แต่ผมหวังว่า สำหรับผู้รักความเป็นธรรมทุกท่าน เมื่อได้มองเห็นภาพรวมของความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับคุณทักษิณและครอบครัวแล้ว ให้มองเห็นถึงความอยุติธรรม ถ้าไม่มีความยุติธรรมแล้ว ประเทศไทยจะมีประชาธิปไตยได้อย่างไร

มีบางคนถามผมว่า ไหนบอกก้าวข้ามทักษิณแล้วไง สุดท้ายก็เห็นพูดแต่ทักษิณ ผมก็อยากบอกว่า มันคนละเรื่องเดียวกันครับ การที่ยกคุณทักษิณมาพูดถึง เพราะใครๆก็รู้จัก และก็มีหลายเรื่องที่สังคมรับรู้กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เป็นตัวอย่างของคนไทยคนหนึ่งที่ถูกความอยุติธรรมโถมใส่ทุกวิถีทาง แล้วไม่ให้ผมยกคุณทักษิณมาเป็นกรณีศึกา แล้วจะให้ผมนำตาสี ตาสา ยายมีและยายมา (สำหรับยายมีต้องมีและด้วย ไม่งั้นจะไปพาดพิง login ยายมียายมาเข้า) ซึ่งไม่มีใครรู้จัก เดี๋ยวก็จะหาว่าผมนั่งเทียนยกเมฆมาอีก ซึ่งคงลำบากสำหรับผมที่จะมานั่งอธิบาย ทุกท่านเข้าใจแล้วหรือยังครับ

ส่วนบางท่านพูดถึงการทำรัฐประหารที่คุณทักษิณแล้วมีคนให้ดอกไม้แสดงความยินดี ซึ่งผมก็อยากบอกว่า ประเทศไทยเป็นอะไรที่ง่ายมากนะครับ แค่หาคนนำดอกไม้มาให้ เป็นความชอบธรรมแล้วอย่างนั้นหรือครับ อย่าลืมนะครับ คนไทยไม่ใช่แบบมาฆบูชาสักหน่อย ที่พระสงฆ์มารวมกันโดยไม่ได้นัดหมาย แต่สำหรับเรามีการนัดหมายแน่ๆเลยครับ เพียงแต่ว่านั่นเป็นการแสดงความยินดีกับพวกรัฐประหารหรือว่าแสดงความยินดีกับตัวเองที่ได้อำนาจกลับคืนมาหรือเปล่า

แล้วยังมีบางท่านภูมิอกภูมิใจกับต่างประเทศที่บอกว่ารัฐประหารในไทย เป็นรัฐประหารที่สุดแสนคลาสสิกนั้น ผมกลับมองว่า นั่นเป็นการดูถูกดูแคลนคนไทยต่างหาก ดูถูกว่าคนไทยยังด้อยพัฒนาถึงระบอบประชาธิปไตย เพราะถ้าเขาชื่นชมเราด้วยใจจริง เขาคงต้องเคารพความต้องการของคนไทยสิครับ เขาคงไม่กดดันให้คณะรัฐประหารรีบคืนประชาธิปไตยเร็วๆหรอกครับ และยิ่งน่าอายที่เขาถึงกับบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนประชาธิปไตยของเรา นั่นใช่แสดงให้เห็นว่า ประเทศของเรายังต้องมีการเรียนรู้กับประชาธิปไตยหรือเปล่า?

สุดท้ายเสียที ผมก็อยากฝากข้อคิดให้กับพวกท่านที่ยังคงเกลียดคุณทักษิณว่า ตัวเองเคยคิดหรือเปล่า ทำไมจึงเกลียดคุณทักษิณ นายกฯที่ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศไทยมากมายคนนี้ จะเป็นเพราะการทุจริตก็คงไม่ใช่ เพราะตอนนี้ทุจริตยิ่งเสียกว่า จะเป็นเพราะการขายชาติ ก็ไม่น่าใช่อีก เพราะชาติเราก็ยังคงเป็นชาติของเรา จะว่าเป็นต้นเหตุของความแตกแยกเพราะทักษิณคนเดียวก็ไม่น่าใช่อีก เพราะทุกขบวนการทุกองค์กรในประเทศไทยต่รวมหัวกันสร้างปัญหาให้กับคุณทักษิณเพียงคนเดียวต่างหากครับ ดังนั้นอยากให้พวกท่านลองคิดดู ความเกลียดของทุกท่านเกิดขึ้นจากอะไรกันแน่ ใช่เพราะ

การสร้างภาพเป็นมารร้ายความเป็นมารร้าย ทำแต่เรื่องแย่ๆเพียงอย่างเดียว จนคุณเกลียดอย่างนั้นหรือเปล่า?
ซึ่งผิดกับอีกคน ที่ทำอะไรก็ไม่เคยผิด เพราะภาพของความเป็นเทวดาที่พวกเขาพยายามสร้างให้เห็นหรือเปล่า?

ดังนั้นผมจึงคิดว่าตราบใดที่เรายังหลงใหลกับภาพที่เขาสร้างไว้ล่ะก็ ต่อให้ตั้งคณะกรรมการอีกกี่ร้อยชุด ก็คงไม่สามารถที่จะสร้างความปรองดอง สมานฉันท์ได้หรอกครับ เพราะปัญหาของประเทศมีเพียงข้อเดียว นั่นคือ “ความยุติธรรม”เท่านั้นที่จะแก้ได้ ถ้าเรายังไม่มีความเท่าเทียมกัน ถ้าเรายังบังคับใช้กฎหมายไม่เท่ากัน และเรายังเลือกใช้ความยุติธรรมกับคนเพียงบางกลุ่มแล้วไซร้ ชาติหน้าเรายังไม่มีความปรองดองอย่างแน่นอน เชื่อผมเถอะครับ

จากคุณ : ทวดเอง
เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 13:42:55 A:27.130.63.248 X:



ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com