Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ไพร่เฒ่าขอแสดงความคิดเห็นบ้าง ติดต่อทีมงาน

เห็นยังมีคนเข้าใจผิดอยู่มากเกี่ยวกับอำมาตย์กับไพร่ ซึ่งกลายเป็นวาทกรรมไปโน่น วันนี้ไพร่เฒ่าคนนี้ขอแสดงความคิดเห็นบ้าง หวังว่าคนจะมีคนรับฟังไพร่เฒ่าผู้ต่ำต้อยคนนี้บ้างนะครับ

อำมาตย์ คำนี้ ไพร่เฒ่าจะไม่ไปเปิดพจนานุกรมให้เสียเวลา เพราะไม่ได้หวังจะถอดถอนใครออกจากตำแหน่ง ด้วยอาศัยกฎหมายเป็นเครื่องมือ แต่ไพร่เฒ่าคนนี้อยากบอกถึงความคิดของตัวเองว่า ไพร่อย่างผมเขาคิดยังไง

อำมาตย์ในความคิดของไพร่เฒ่า ก็คือ เป็นเพียงนามสมมติเช่นเดียวกับนามสมมติอื่นๆ ดังนั้นอำมาตย์ในที่นี้จึงหมายถึง กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่มีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่น ความเป็นอยู่ที่ดีกว่า เราจะไม่ขอกล่าวถึง เพราะคนเราเลือกเกิดเองไม่ได้ แต่ความเป็นชนชั้นที่มีอะไรที่เหนือคนอื่นนิสิที่เราพึงสำนึกว่า มันมีอยู่จริง คนที่อาศัยแผ่นดินเดียวกัน เสียภาษีตามกฎหมายเหมือนกัน แต่คนกลุ่มนี้กลับมี “ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์”เหนือคนอื่นๆ ซึ่งคงจะตรงกับความหมายของคำว่า “กลุ่มอิลิต” ก็ได้ อันนี้ไพร่เฒ่าเดาเอา

แน่นอนครับ เมื่อมีคำว่า “อำมาตย์” ย่อมมีคำว่า “ไพร่”ตามมา ความหมายของคำว่า “ไพร่” จึงเป็นคำที่ตรงข้ามกับคำว่า “อำมาตย์” นั่นย่อมหมายถึงคนกลุ่มนี้เหมือนพลเมืองชั้นสองที่เสียงของพวกเขาดังน้อยกว่าคนกลุ่มแรก มีสิทธิและเสรีภาพน้อยกว่า และ “ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์”ก็น้อยกว่าด้วยประการฉะนี้แล

แต่บางท่านยังไปโยงเรื่องของ “ไพร่” กับเรื่องของ “ทาส” เหมือนกัน ยกไปถึงเรื่องการเลิกทาสไปโน่น ซึ่งในความคิดเห็นของไพร่เฒ่าว่า คำสองคำที่เหมือนจะคล้ายกัน แต่ไม่เหมือนกันครับ ตอนนี้แม้เราจะไม่มี “ทาสในเรือนเบี้ย” เหมือนสมัยก่อน แต่เราก็ยังมีสันดานทาสคงอยู่ สันดานทาสที่ยอมตกอยู่ใต้อำนาจของผู้มีอำนาจเหนือกว่า ยอมเป็นสัตว์เลี้ยงในระบบ เพราะไม่มีความมั่นใจว่า เมื่อออกจากระบบแล้ว จะสามารถดำรงอยู่ได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นไพร่จึงไม่ใช่ทาส ตราบที่ไพร่คนนั้นไม่มีสันดานทาส เข้าใจหรือยังครับ

หลายสิบปีก่อน ไพร่เฒ่าก็คิดแบบนั้น จนกระทั่งมีนายกฯคนหนึ่งที่ร่ำรวยมหาศาล แต่ยอมสละความสุขส่วนตัว มาเสนอตัวทำงานด้วยความเหนื่อยยาก เพียงเพื่อให้คนรากหญ้า พวกไพร่ที่ไม่มีใครเหลียวแล ได้มีโอกาสที่จะลืมตาอ้าปาก สร้างหนทางสว่าง จนมองเห็นอนาคตที่ดีกว่าเดิมรออยู่ข้างหน้า และเพราะนายกฯคนนี้แหละที่ทำให้ไพร่มากมายเกิดตาสว่าง ทำให้สมองแจ่มใสขึ้น ที่แท้ไม่ใช่เพราะเราด้อยโอกาส ไม่ใช่เพราะเราขาดโอกาส แต่เป็นเพราะโอกาสของเราถูกกดทับไว้ต่างหาก เป็นเพราะโอกาสของเราถูกปิดกั้นต่างหาก เราจึงต้องอยู่กับความจน อยู่กับความต่ำต้อย อยู่กับความไม่เท่าเทียมจนถึงเดี๋ยวนี้ เราจึงต้องสู้เพื่อให้มีคนมายกโอกาสที่ถูกกดทับ มาเปิดโอกาสที่ถูกปิดกั้นออกมา อย่างนี้เป็นความผิดด้วยหรือ?

ทุกๆท่านจะปฏิเสธ จะยกเหตุผลอย่างไรมาอ้างก็แล้วแต่พวกท่าน แต่ความจริงของสังคมไทย ทุกท่านก็ยอมรับอย่างแน่นอน ยังจำได้หรือไม่ ครั้งที่เกิดคดีรถชนจนเป็นเหตุให้มีเหล่าอาจารย์และผู้ทรงความรู้หลายท่านต้องเสียชีวิตไป แค่นามสกุลเท่านั้น ทุกคนก็เชื่อทันทีว่า ผู้ต้องหาต้องได้รับการปฏิบัติแตกต่างจากชาวบ้านธรรมดา เห็นมีการเรียกร้องความเป็นธรรมการอื้ออึง เพราะกลัวว่าผู้ตายจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และก็น่าจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะตอนนี้เรื่องก็เงียบไป ปล่อยให้กาลเวลาลืมเลือนมันไปเองเหมือนทุกๆเรื่องที่ผ่านมา

แต่พอคนเสื้อแดงออกมาเรียกร้องเพื่อล้างระบบเก่า สร้างความเท่าเทียมให้กับสังคม ไม่ต้องการให้มีสังคมอุปถัมภ์ค้ำชูเหมือนที่ผ่านมา ต้องการให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกหมู่เหล่า พวกท่านนอกจากนิ่งดูดายแล้วยังไม่พอ ยังแสดงความเหยียดหยัน ด่าทอ แม้กระทั่งยุยงส่งเสริมให้รัฐฐะใช้ความรุนแรงในการปราบปรามเสียอีก แล้วค่อยออกมาแสดงความเห็นเมื่อเห็นถึงความอยุติธรรมเป็นรายๆไป ถ้าเกิดเป็นข่าวอีก เป็นอย่างนี้วนเวียนกันไปเรื่อยๆ บอกตามตรง ไพร่เฒ่าเห็นแล้ว ได้แต่ส่ายหน้าแล้วรำพึงรำพันกับตัวเองว่า “มันน่าสมเพชว่ะ”

ดังนั้นคำว่า “อำมาตย์”และคำว่า “ไพร่” จึงไม่ใช่วาทกรรมอีกต่อไป เพียงแต่เปรียบเทียบเพื่อให้ง่ายต่อกันจดจำ ง่ายต่อกันเห็นความแตกต่าง ซึ่งไพร่เฒ่าก็ยังมองไม่เห็นว่าทำไมจึงมีคนเดือดเนื้อร้อนใจกันนักหนา ในขณะเดียวกัน “ผู้ก่อการร้าย” หรือ “คอมมิวนิสต์” กลับไม่มีใครให้ความใส่ใจ ทั้งที่เป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรง โทษหนักถึงขั้นประหารชีวิต นี่ไงครับ คือความแตกต่างของคนที่เป็นอำมาตย์กับคนที่เป็นไพร่ พวกท่านยังคิดไม่ได้อีกหรือครับ ยังแยกไม่ออกระหว่างความเป็นจริงกับวาทกรรม อย่างนี้จึงต้องถูกเขาหลอกอยู่ร่ำไป

พอมาถึงตรงนี้ ก็เลยคิดได้ว่า พวกไพร่ก็ได้แต่ตะโกนว่าถูกกดขี่ ถูกรีดรอนสิทธิ์ ไม่สามารถเลือกผู้นำของตัวเองได้ พอมีคนเลือกผู้นำดีๆมาให้กลับไม่ชอบอีก แล้วก็มีการนำตัวเลขต่างๆมาแสดงให้ดูว่า มันดีกว่าที่ผ่านมาแค่ไหน มีให้ดูกันเป็นปีๆ เป็นตารางมาให้เข้าใจง่ายๆ แต่บอกตรงๆ ไพร่เฒ่าที่แสนจะต่ำต้อยดูยังไงก็ไม่เข้าใจ เศรษฐกิจดีแค่ไหน ทำไมไพร่เฒ่ายังลำเค็ญกว่าเก่า จีดีพงจีดีพีดีขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์ แต่ท้องของไพร่เฒ่าก็ยังหิวโหยอยู่ การส่งออกดีขึ้นเพียงใด ทำไมหนอ ไพร่เฒ่ายังไม่เคยรับรู้ว่า มันจะช่วยความเป็นอยู่ของพวกไพร่ๆอย่างพวกเราได้อย่างไร

บางท่านอาจบอกว่า คนเสื้อแดงไม่ค่อยยอมรับกับตัวเลขอะไรเหล่านี้หรอก เพราะคนเสื้อแดงต้องไปถามพวกแม่ค้ากล้วยทอดหรืออะไรปานนั้น แต่พวกท่านกลับไม่เคยยอมรับตัวเลขอีกชุดหนึ่ง ตัวเลขที่ออกมาในระยะ 2 ปี นั่นคือ ผลสำรวจไงครับ ถ้ารัฐบาลดีอย่างที่คิด เก่งอย่างที่พูด และสามารถอย่างที่ตัวเลขออกมาโชว์นั้น แต่ทำไมทุกครั้งที่สำรวจ รัฐบาลชุดนี้มีแต่เกือบตก และส่วนใหญ่จะตกเสียด้วย ทำไมจึงสวนกับตัวเลขของรัฐบาลน้า ใครรู้ช่วยบอกด้วย เพราะผลสำรวจนี้ไม่ได้มาสำรวจเพียงแค่คนเสื้อแดง แต่เป็นการสำรวจจากหลายกลุ่มอาชีพ บางครั้งตัวเลขที่น่าเกลียดขนาดได้ไม่ถึง 4 จาก 10 คะแนนด้วยซ้ำไป แต่ถ้าพวกท่านอาจจะมีมุมมองเฉพาะตัวว่า ตัวเลขที่ได้เกือบครึ่ง เป็นตัวเลขที่แสดงว่าเห็นด้วยครึ่งไม่เห็นด้วยครึ่งนั้น ไพร่อย่างผมคงพูดอะไรได้มากกว่านี้ไม่ได้ นอกจากเวทนาแค่นั้นเอง

จากคุณ : ทวดเอง
เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 54 09:41:39 A:14.207.241.67 X:



ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com