[รักคนเสื้อแดง] ผมเจ็บปวดมากกับคำว่า "ล้มสถาบัน" เพราะทหารที่ยิงคนเสื้อแดงถูกล้างสมองมาว่าคนเสื้อแดง "ล้มสถาบัน"

เกือบจะพลาดกระทู้คุณสิงห์สนามหลวงเสียแล้วค่ะ  โชคยังดีที่ refresh มาทันได้อ่านรอบดึก...เรื่องประกาศของคุณวันฉัตร   ความ จริงแล้วดิฉันออกจะยินดีที่เห็นการแสดงจุดยืนของพันทิพชัดเจนในเรื่องนี้ และเรา...ซึ่งหมายถึงชาวพันทิบทุกคน น่าจะถือว่าเป็นเรื่องที่ดีนะคะ ที่จะปลีกตัวออกมาจากคนที่มีแนวคิดแบบนั้นเสียที ดิฉันเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่าเสื้อแดงที่เจ็บปวดกับข้อกล่าวหาว่า “ล้มสถาบัน” เช่นคุณก็มีอยู่เยอะ   จริงค่ะ ที่พันธมิตรและกลุ่มไอติมที่คุณว่าชูประเด็นล้มเจ้ามาโจมตีเสื้อแดง และช่วงเวลาที่ผ่านมาก็พิสูจน์แล้วว่ามันมีอยู่จริงอย่างที่คุณสิงห์สนามหลวงก็ไม่ปฏิเสธใช่ไหมล่ะคะ  ก็คนเสื้อแดงเองนั่นแหละที่รับเอากลุ่มนอกรีดทั้งหลายมาเพื่อเพิ่มพลังในการต่อสู้ ระยะแรกอาจไม่ชัดเจนนัก ทุกวันนี้ข่าวลือบ้าง จริงบ้างปล่อยกันออกมากันให้ว่อน แล้วก็มีแนวโน้มว่าจะเชื่อกันแบบไม่ลืมหูลืมตา เมื่อก่อนยังได้เห็นคนที่ประกาศตัวว่า “ตาสว่าง” ตามเว็บอื่น แต่ระยะหลังเริ่มมีประกาศที่นี่...แล้ว แต่หากจะตีความคำว่า “หมิ่นสถาบัน” กับ “ล้มสถาบัน” ความจริงมันก็แตกต่างกันมากอย่างที่คุณว่า...แต่ไม่ว่าจะหมิ่นหรือล้ม มันก็เป็นสิ่งต้องห้ามทั้งคู่    คุณสิงห์ฯ จะยินดีดีเป็นคน “หมิ่นสถาบัน”  มากกว่า “ล้มสถาบัน” หรืออย่างไร แต่สำหรับดิฉัน...ไม่เอาทั้งสองอย่างค่ะ แต่ถึงตอนนี้อย่างที่คุณก็บอกเองว่าเสื้อแดงเพิ่มขึ้นทุกวันๆ ดังนั้นไม่เห็นความจำเป็นต้องการพลังร้ายที่มาแอบอิงเสื้อแดงเลยนี่คะ  มาเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยให้อยู่ในร่องในรอย ในวิถีของประชาธิปไตยจริงๆ แบบที่ประชาชนคนอื่นเขา “รับได้” น่าจะทำให้พลังของประชาชนเข้มแข็งขึ้น เพราะการต่อสู้ระหว่างประชาชนกับรัฐ  ดิฉันยังเชื่อว่าคนที่เรียกตัวเองว่า “ประชาชน” ยังไงก็พร้อมที่จะเห็นใจประชาชนด้วยกันมากว่าอยู่แล้ว เชื่อว่าคนแบบ จขกท.นี้ http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P10407283/P10407283.html มีอยู่เยอะค่ะ   หรืออย่างน้อย มันก็คงทำให้แรงต้านเสื้อแดงลดลงบ้างล่ะ ปล.รักคนเสื้อแดง(บางคน)เช่นกันค่ะ . . . จากคุณ : ++ตันหยง++ เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 54 05:24:37 A:1.47.137.235 X: จากกระทู้ P10408009

ผมเจ็บปวดมากกับคำว่า "ล้มสถาบัน" เพราะทหารที่ยิงคนเสื้อแดงถูกล้างสมองมาว่าคนเสื้อแดง "ล้มสถาบัน" และผมก็เจ็บปวดมากเหลือคณานับที่ผมได้เห็นภาพนายวสันต์ ภู่ทอง คนเสื้อแดงที่ถือธงถูกยิงกะโหลกเปิดเสียชีวิตที่ถนนดินสอใส่เสื้อ "รักในหลวง" น้ำตาไหลผมต้องไหลทุกครั้ง เมื่อผมได้เห็นภาพคนเสื้อแดงหลายเกือบหลักร้อยที่ถูกยิงเสียชีวิตคนแล้วคนเล่าถูกเผยแพร่ ยังไม่นับรวมคนที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงอีกจำนวนมากนับพัน

ที่ถนนดินสอในช่วงเย็นผมได้เห็นภาพกลุ่มคนเสื้อแดงที่ยืนประจันหน้ากับทหาร ได้ชูภาพพระบรมฉายาลักษ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในขณะที่เฮลิคอปเตอร์ยิงแก๊สน้ำตาลงมาท่ามกลางเสียงเพลงพระราชนิพนธ์ที่ทหารได้นำมาเปิดขับกล่อมผู้ชุมนุม และการชูภาพพระบรมฉายาลักษณ์ก็ไม่สามารถหยุดยั้งผู้มีอำนาจที่นั่งประชุมกันในช่วงตะวันชิงพลบออกคำสั่งให้ทหารปฏิบัติการสลายการชุมนุมทั้งๆ ที่เวลาได้ผ่านพ้นเลย 6 โมงเย็นมาแล้ว

ทหารยิงเพราะได้รับคำสั่ง ทหารฆ่าเพราะได้รับการล้างสมองมาว่าคนเสื้อแดงต้องการล้มสถาบัน ความเกลียดชังคนเสื้อแดงถูกปลูกและถูกฝังไม่ใช่จำกัดอยู่เฉพาะในหมู่ทหาร แต่มันได้ถูกนำมาใช้ล้างสมองประชาชนคนไทยด้วยกันเองด้วย เราๆ ท่านๆ จึงได้เห็นคนไทยกลุ่มหนึ่งที่ออกมาแสดงความยินดีและสะใจในความตายของคนเสื้อแดง สะใจในความตายของประชาชนด้วยกันเองอย่างไร้มนุษยธรรม

คำว่า "แดงล้มเจ้า" หรือ "ล้มสถาบัน" มันเป็นแค่ข้อกล่าวหาลอยๆ ที่ผู้กุมอำนาจรัฐนำมาใช้และไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันพิสูจน์ได้ ขนาดนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาศอฉ. ยังให้สัมภาษณ์ออกมายอมรับว่า "แผนผังล้มเจ้า" เป็นความผิดพลาดและเป็นตราบาปของศอฉ. มันหมายความว่าอย่างไรครับ

กลุ่มคนเสื้อแดงนั้นมีความหลากหลายทั้งทางแนวคิดและแนวทาง ความแตกต่างทางแนวคิดและแนวทางจึงทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงมีการแบ่งกลุ่มแยกออกจากกันเป็น 2 กลุ่มหลัก อย่างที่เห็นได้ชัดแจ้งและชัดเจนคือ กลุ่มนปช.แดงทั้งแผ่นดิน และกลุ่มแดงสยาม ถึงขนาดทั้งแกนนำและแกนนอนที่ให้การสนับสนุนแต่กลุ่มยังออกมาโจมตีกันเองมีให้เห็นกันออกบ่อยครั้ง

ด้วยแนวคิดและแนวทางที่แตกต่างกัน มวลชนกลุ่มคนเสื้อแดงที่มีความเป็นเสรีชน จึงมีความเป็นอิสระในการเลือกที่จะให้การสนับสนุนกลุ่มใด จะเลือกสนับสนุนกลุ่มเดียวหรือสองกลุ่ม ก็ล้วนเป็นสิทธิในการกำหนดชีวิตของตนเองที่เป็นของประชาชน ไม่ใช่สิทธิของผู้มีอำนาจรัฐ สิทธิของประชาชนนี้ไม่มีใครสามารถมาบังคับได้ เช่นกันการรณรงค์แก้ไขหรือยกเลิกกฎหมายต่างๆ ผมมองว่าเป็นสิทธิที่ประชาชนสามารถกระทำได้ เป็นสิทธิที่พึงกระทำได้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ส่วนประชาชนส่วนใหญ่จะเห็นด้วยหรือไม่ นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

คำว่า "นอกรีต" ผมจะไม่ใช้เรียกกับกลุ่มคนที่มีแค่ความคิดเห็นต่าง แต่ผมจะขอใช้คำว่า "นอกรีต" กับบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ไม่มีจรรยาบรรณในวิชาชีพ อาทิ เป็นนักวิชาการสอนรัฐศาสตร์แต่กลับไปสนับสนุนการล้มล้างการปกครองยึดอำนาจด้วยการทำรัฐประหาร และยอมเป็นเครื่องมืออาสาตัวเข้าไปรับตำแหน่งทำตัวเป็นผู้รับใช้คณะยึดอำนาจ

หรือทหารซึ่งมีหน้าที่ปกป้องประเทศ รักษาชีวิตประชาชน เพราะเงินเดือนที่ได้รับก็มาจากภาษีประชาชน กลับทำการรัฐประหารปล้นชาติไทย เอาอำนาจการปกครองประเทศไปถวายพานให้นักการเมืองอีกกลุ่มหนึ่งที่ตนเองสนับสนุน ซ้ำร้ายยังหันปากกระบอกปืนกลับมาเข่นฆ่าประชาชนที่เห็นต่างและออกมาต่อต้าน มองประชาชนที่เป็นนายของข้าราชการเป็นศัตรูที่ต้องกำจัดทิ้ง ทหารพวกนี้จึงมีความเหมาะสมที่จะใช้คำว่านอกรีต

สำหรับเรื่อง "หมิ่นสถาบัน" ซึ่งมีมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ผมจะขอยกตัวอย่างกรณีคุณสุชาติ นาคบางไทร นักโทษคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่ถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุก 6 ปี และลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 3 ปี เพราะจำเลยให้การรับสารภาพ คุณสุชาติ หรือ น้าชาติ เป็นบุคคลหนึ่งที่ผมได้เคยออกไปร่วมทำกิจกกรรมต้านรัฐประหารภายใต้ชื่อ กลุ่มฅนวันเสาร์ ไม่เอาเผด็จการ

ในยามที่เกิดการทำรัฐประหาร นักการเมืองกลายเป็นเต่าหัวหดอยู่ในกระดอง พวกผมและคุณสุชาติคือประชาชนกลุ่มแรกที่ออกไปตั้งเวทีนอกรั้วมหาวิทยาลัยที่ท้องสนามหลวง เพื่อต่อต้านรัฐประหาร (กลุ่มแรกที่ออกมาต่อต้านรัฐประหารในรั้วมหาวิทยาลัยคือ กลุ่มเครือข่าย 19 กันยา ต้านรัฐประหาร ที่มีนายใจ อึ๊งภากรณ์ และนายสมบัติ บุญงามอนงค์หรือบก.ลายจุดเป็นแกนนำ)

ในวันนั้นเรามีอุดมการณ์ตรงกันเรื่องต่อต้านรัฐประหาร ต่อมาเมื่อกลุ่มเติบโตขึ้น มีความหลากหลายมากขึ้น ประจวบเหมาะกับมีกลุ่มต่อต้านรัฐประหารจากภาคการเมืองภายใต้ชื่อกลุ่ม PTV ด้วยความแตกต่างทั้งแนวคิดและแนวทางบางประการ จึงทำให้ผมได้เดินออกจากกลุ่มฅนวันเสาร์ มาสู้ตามแนวคิดและแนวทางที่ผมคิด

แม้น้าชาติจะมีแนวคิดและแนวทางที่แตกต่างกับผม แต่สำหรับผมในฐานะที่เคยร่วมกลุ่มกันมา น้าชาติคือประชาชนผู้กล้าในยามที่นักการเมืองหัวหด น้าชาติอาสาตัวเป็นแนวหน้าประชาธิไตยในยามที่ไม่มีนักการเมืองหนุนหลัง แม้น้าชาติจะต้องกลายเป็นนักโทษคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ นั่นก็คงจะไม่ใช่เหตุผลที่จะทำให้ผมต้องมองว่าน้าชาติเป็นพวกนอกรีต เป็นอาชญากรที่มีความผิดร้ายแรง ซึ่งรวมไปถึงนักโทษคดีหมิ่นฯ คนอื่นๆ อาทิ

• ดา ตอร์ปิโด ที่คดีความยังไม่ถึงที่สุด ผมก็รู้จักตอนชุมนุมต้านรัฐประหารที่ท้องสนามหลวงในฐานะนักไฮปาร์ก
• นางยุญยืน ประเสริฐยิ่ง บุคคลที่เคยร่วมเป็นมวลชนกลุ่มฅนวันเสาร์ อดีตนักโทษคดีหมิ่นฯ ที่ถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุก 12 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 6 ปี เพราะจำเลยให้การรับสารภาพ แต่ถูกจำคุกจริงเพียง 1 ปี 10 เดือน ก็ได้รับการอภัยโทษ
• นายสุวิชา ท่าค้อ อดีตนักโทษคดีหมิ่นฯและความผิดพรบ.คอมฯ ที่ถูกสาลตัดสินลงโทษจำคุก 20 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 10 ปี  แต่ถูกจำคุกจริงเพียง 1 ปี เศษ ก็ได้รับการอภัยโทษ
  

จากคุณ	: สิงห์สนามหลวง
เขียนเมื่อ	: 3 เม.ย. 54 16:08:15 A:115.87.223.37 X: