[รักคนเสื้อแดง] เผาบ้านเผาเมือง<มองไทยมองเทศ>เทพช่างกล้าแจกหนังสือ"ประเทศไทยของเราอย่าให้ใครเผาอีก"-สนล.แจกกระทู้โต้
|
 |
มองไทยมองเทศ
มองไปที่ลีเบีย ตูนีเซีย อียิปต์ คีร์กีซสถาน เยเมน ซีเรีย ไอเวอรีโคสต์ ฯลฯ ที่มีประชาชนออกมาชุมนุมประท้วงขับไล่รัฐบาล จากเหตุการณ์การชุมนุมโดยสงบ เมื่อรัฐบาลออกมาทำการปราบปราม ทำการสลายการชุมนุม เมื่อมีเงื่อนไขที่เป็นสาเหตุทำให้ผู้ชุมนุมเสียชีวิต การชุมนุมโดยสงบในประเทศต่างๆ เหล่านั้นก็จะลุกลามบานปลายกลายเป็นการก่อการจราจล เกิดการทำลายทรัพย์สินทั้งของทางราชการและเอกชน ประชาชนฝ่ายต่อต้านรัฐบาลมีการเผาบ้านเผาเมือง เผายาง เผารถ เผาห้าง เผาสถานที่ราชการเหมือนกัน
บางประเทศมีความพิเศษกว่าใครเพื่อน ไม่ใช่มีแค่ชายชุดดำผลุบๆ โผล่ๆ เหมือนสยามประเทศ ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลอย่างประเทศลิเบียนั้น ฝ่ายต่อต้านมีกองกำลังติดอาวุธสงคราม เป็นกองทัพที่สร้างขึ้นมาจากกำลังผสมที่มีประชาชนและทหารร่วมด้วยช่วยกันจับอาวุธขึ้นมารบทำสงครามกับรัฐบาลชนิดรบเต็มรูปแบบกันเลยทีเดียว พอฝ่ายต่อต้านรบใกล้แพ้ เพราะรัฐบาลเอาเครื่องบินมาทิ้งบอมบ์ UN ก็แทรกแซงทันควัน ประกาศเป็นเขตห้ามบินแถมพ่วงด้วยการส่งเครื่องบินมาช่วยทิ้งบอมบ์ ยิงขีปนาวุธมาถล่มกองกำลังทหารของฝ่ายรัฐบาลเสียย่อยยับ จนทำให้ฝ่ายต่อต้านพลิกขึ้นมาได้เปรียบกองทัพของกัดดาฟีขึ้นมาได้เปรียบในทันที
ไอเวอรีโคสต์ก็ใช่ย่อย ประธานาธิบดีเลือกตั้งแพ้ แต่ไม่ยอมก้าวลงจากอำนาจ ประชาชนออกมาต่อต้านก็ถูกฆ่า การต่อสู้ก็เลยพัฒนาเป็นสงครามเหมือนลิเบีย แต่ครั้งนี้ UN ไม่รอรี UN รีบออกมาแทรกแซงนับว่าไม่ช้าไม่เร็วจนเกินไปนัก เที่ยวนี้ฝรั่งเศสพร้อมกับกองกำลังสันติภาพของ UN ช่วยกันบอมบ์จนถึงทำเนียบประธานาธิบดีกันเลยทีเดียว
ประเทศต่างๆ ที่เกิดการประท้วงและพัฒนาการชุมนุมมากลายเป็นจราจลเผาบ้านเผาเมืองจนถึงจับอาวุธขึ้นสู้ และ UN เริ่มทำการแทรกแซง ก็เพราะมีเงื่อนไขสำคัญคือ มีประชาชนถูกยิงตาย แม้ลิเบียประชาชนฝ่ายต่อต้านกัดดาฟีจะมีอาวุธ มีกองทัพ ท่าทีของ UN จากที่ประชาคมโลกโดยเฉพาะคนเสื้อแดงมองเป็นเพียงเสือกระดาษก็แผลงฤทธิ์ เมื่อกระแสปฏิวัติประชาชนลุกลามไปในหลายๆ ประเทศ ประชาชนประเทศต่างๆ ต้องล้มตายคนแล้วคนเล่า จนในที่สุด UN ก็เปลี่ยนแปลง และเริ่มต้นช่วยประชาบอมบ์รัฐบาลเผด็จการ ใช้สงครามสร้างสันติภาพ โดยไม่สนใจว่าพวกตึกราบ้านช่อง สถานที่สำคัญต่างๆ ของประเทศนั้นๆ จะต้องพังพินาศย่อยยับไปสักเท่าไหร่ก็ตาม
ตึกพัง สร้างใหม่ได้ สถานที่ถูกเผา ซ่อมใหม่ได้ แต่ชีวิตคนที่สูญเสียไป มันเอาคืนกลับมาไม่ได้ สมมติประเทศไทยมีการเลือกตั้งใหม่ แล้วพรรคเพื่อไทยชนะได้เป็นพรรคอันดับหนึ่ง แต่พวกทหารและอำมาตย์ไม่ยอม จัดการปล้นชิงอำนาจประชาชนไปอีกครั้ง คนเสื้อแดงออกมาประท้วง แล้วทหารลองสังหารคนเสื้อแดงอีกครั้ง คราวนี้คงไม่ใช่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ถูกเผา แต่ทำเนียบรัฐบาล รวมไปถึงราบ 11 อาจจะโดนเครื่องบินรบของฝรั่งเศสและนาโต้มาทิ้งบอมบ์ให้หายวับไปกับตา
กลับมาที่การเมืองไทย ประเด็นร้อนแรงที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่อง เผาบ้านเผาเมือง ที่ผมถือเป็นเรื่องดีที่มีคนให้ความสนใจอีกครั้ง เพราะช่วงที่มีการใช้กำลังทหารสลายคนเสื้อแดงตลอดช่วงเดือนเมษาพฤษภานั้น ประชาชนได้ถูกปิดหูปิดตา รัฐบาลมีการปิดสื่อของฝ่ายคนเสื้อแดง ไล่ไปตั้งแต่สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อวิทยุ ยันไปถึงสื่อโทรทัศน์ และมีการใช้อำนาจรัฐออกข่าวสารป้อนข้อมูลข่าวสารแบบ one way communication ให้แก่ประชาชนผ่านทางสื่อกระแสหลักแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยที่ฝ่ายคนเสื้อแดงไม่มีโอกาสได้มีพื้นที่สื่อกระแสหลักออกทำการชี้แจงเลย
คนเสื้อแดงได้ใช้ช่องทางทางอินเตอร์เน็ตเป็นเครื่องมือสื่อสารสู่โลกภายนอกเป็นชิ้นสุดท้าย รัฐบาลก็ไล่ปิดไล่บล็อกเว็บไซต์ เว็บบอร์ดการเมืองที่ดังที่สุดก็ดันปิดการให้บริการตัวเองแบบชั่วคราวไปแบบดื้อๆ ดังนั้นเมื่อประชาชนที่ได้แต่ดูโฆษณาชวนเชื่อตลอดทั้งวันทั้งคืนจากรัฐบาล มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ภาพคนเสื้อแดงในสายตาประชาชนจะถูกมองว่าเป็นพวกล้มสถาบัน เป็นพวกผู้ก่อการร้ายติดอาวุธ จากการ์ดธรรมดาก็กลายเป็นยอดมนุษย์ก่อการร้ายได้อย่างต่อเนื่อง โดยที่กองกำลังทหารตำรวจนับแสนไม่สามารถจัดการหรือจับกุมกองกำลังติดอาวุธสงครามที่มีอยู่เพียง 500 คนตามที่ศอฉ.ทำการโฆษณาชวนเชื่อได้เลยสักคนเดียว
ไอ้ที่ตายๆ ท่านรองนาย(ก)ก็ยืนยันว่าเป็นผู้ก่อการร้าย อาวุธที่ไม่มีอยู่ในมือศพก็เพราะถูกการ์ดคนเสื้อแดงหยิบไป การ์ดเสื้อแดงได้รับการฝึกมาดี...ฝึกที่สนามหลวง (ฮา) ธาริตยิ่งหนักใหญ่...บอกฝึกที่ไต้หวัน พอเช็คเอาเข้าจริงๆ กลายเป็นการ์ดที่ถูกจับกุมเพียงแค่เดินทางไปเที่ยวประเทศจีน (ฮา) ผลการพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาตร์บอกไม่พบเขม่าดินปืนที่มือ ท่านรองนาย(ก)ก็เล่นแร่แปรธาตุ ชี้แจงโกหกกลางสภา หลอกประชาชนคนไทยทั้งประเทศ เล่นบอกคนตายในวัดปทุมฯ 2 ศพพบเขม่าดินปืนที่มือ แต่ก็เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ เพราะมีคนไทยบางกลุ่มหลงเชื่อคำโกหกที่ไม่น่าเชื่อของนายสุเทพ เชื่อในทันที และเลือกจะไม่เชื่อเลือกจะไม่ฟังความเมื่อมีคนนำข้อเท็จจริงอีกด้านมานำเสนอ
นี่เป็นเพียงน้ำจิ้มที่ผมหยิบยกมาให้ดู กระทู้นี้ที่เกิดขึ้นได้ก็เพราะท่านรองนาย(ก)ช่างกล้า หน้าด้าน เอาคำชี้แจงโกหกในสภามาพิมพ์เป็นหนังสือแจกในชื่อ "ประเทศไทยของเราอย่าให้ใครเผาอีก" ซึ่งผมอ่านเนื้อข่าวปุ๊บ ผมก็ทราบทันทีปั๊บว่าหนังสือเล่มนี้เป็นการถอดเอาคำชี้แจงของนายสุเทพที่ได้ชี้แจงต่อนายจตุพรในสภามาพิมพ์เป็นหนังสือ ซึ่งคำชี้แจงของนายสุเทพนั้นเป็นการชี้แจงที่ตอบไม่ตรงคำถาม แล้วบิดเบือนเอาความจริงมาพูดบางส่วนแล้วก็ต่อเติมให้ผิดไปจากความจริง ซึ่งถือเป็นความโชคดีที่ผมได้ตั้งกระทู้มหากาพย์จับผิดการชี้แจงที่โกหกของนายสุเทพเกือบจะทุกประเด็น ตลอดการชี้แจง 2 ชั่วโมงเศษ
ดังนั้น สำหรับคนที่ไม่ใช่คนเสื้อแดงที่ได้รับหนังสือดังกล่าว แล้วท่านต้องการค้นหาความจริงอีกด้านโดยย่อ เปิดรับข้อมูลอีกมุมโดยสรุป หรือคนเสื้อแดงที่ต้องการแสวงหาข้อมูลเพื่อนำไปใช้ตอบโต้กับข้อมูลในหนังสือของนายสุเทพดังกล่าว ท่านก็สามารถมาหยิบเอาเนื้อหาจากกระทู้ของผมที่เขียนขึ้นมานำไปใช้ได้เลย โดยที่ท่านไม่จำเป็นต้องทำการขออนุญาตผมแต่ประการใด
กระทู้มหากาพย์ที่ใช้ตอบโต้หนังสือ "ประเทศไทยของเราอย่าให้ใครเผาอีก" มีดังนี้
ประเด็นสุดท้าย คือ เรื่องการเผาบ้านเมือง ที่ผมเคยพูดอยู่เสมอว่า ผมแทบจะไม่ให้ความสำคัญเรื่องนี้เลย เพราะ
- เหตุการณ์การเผาบ้านเผาเมือง 19 พฤษภาคม 2553 ที่มีคนเสียใจนั้น (เผาเซ็นทรัลเวิลด์ เผาศาลากลางจังหวัด เผาสถานที่รัฐและเอกชนบางแห่ง) เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายหลังการยุติการชุมนุม ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2553
- เหตุการณ์การเผาบ้านเผาเมือง 19 พฤษภาคม 2553 ที่มีคนเสียใจนั้น เกิดขึ้นภายหลังการที่ทหารออกมาทำการสลายการชุมนุมภายใต้วาทกรรมชื่อ การขอคืนพื้นที่เวทีผ่านฟ้า ในวันที่ 10 เมษายน 2553 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตไปแล้วรวม 26 ศพ บาดเจ็บเกือบพันราย
- เหตุการณ์การเผาบ้านเผาเมือง 19 พฤษภาคม 2553 ที่มีคนเสียใจนั้น เกิดขึ้นภายหลังการที่ทหารออกมาทำการกระชับวงล้อมในช่วงระหว่างวันที่ 13-19 พฤษภาคม 2553 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตไปแล้วรวม 58 ศพ บาดเจ็บนับพันราย
สำหรับผมชีวิตของคนมีค่ามากกว่าสิ่งก่อสร้างใดๆ ชีวิตของคนมีค่ามากกว่าเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ชีวิตของคนมีค่ามากกว่าความมั่นคงของรัฐบาล ชีวิตของคนมีค่ามากกว่าความมั่นคงของใคร ชีวิตของคนมีค่ามากกว่าอำนาจอธิปไตยซึ่งถูกปล้นชิงไป ใครจะเสียใจเพราะบ้านเมืองถูกเผา ใครจะเสียใจเพราะวัตถุสิ่งของถูกทำลายหรือขโมยไป แต่สำหรับผม ผมเสียใจอย่างสุดซึ้งกับจากไปของเพื่อนร่วมอุดมการณ์หลายๆ คน ที่ผมได้สูญเสียพวกเขาไปตั้งแต่เกิดเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน ลุงนวมทอง ไพรวัลย์ ณรงค์ศักดิ์ กรอบไธสง ตีนโต และอีกเกือบร้อยชีวิตที่สูญเสียไปจากเหตุการณ์เมษาพฤษภา 2553
คนตายยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ตายไปแล้วยังถูกใส่ร้าย ไม่มีโอกาสได้ลุกขึ้นมาขอความเป็นธรรม ไม่มีโอกาสได้ลุกขึ้นมาขอเวลาชี้แจงกับใคร ผมซึ่งเป็นคนเป็น เป็นผู้ที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์เมษาพฤษภา ผมจึงขอทำหน้าที่ทวงความยุติธรรมแทนพวกเขา(วีรชน)ตามสติปัญญาและกำลังความสามารถเท่าที่ผมมีและสามารถกระทำได้ ผมถือเป็นหน้าที่ ไม่ต้องมีคนมาจ้าง ไม่ต้องมีคนมาขอร้อง ผมเต็มใจทำโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ และผมจะร่วมต่อสู้ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับคนเสื้อแดงต่อไป เพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยที่เป็นของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน
ปล. ขอแนะนำเพื่อนสมาชิกไปอ่าน notes ใหม่ล่าสุดใน fb (หรือเว็บไซต์ของคนเสื้อแดง) ของนักวิชาการที่กำลังดังและฮอตที่สุดในกลุ่มคนเสื้อแดง อ่านไว้เป็นกรณีศึกษาครับ
แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 54 03:38:11
แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 54 00:22:45
| จากคุณ |
:
สิงห์สนามหลวง   
|
| เขียนเมื่อ |
:
5 เม.ย. 54 23:59:03
A:115.87.223.31 X:
|
|
|
| 
