สุดท้ายสำหรับวันนี้ เมื่อ "ไทยรัฐ" วิเคราะห์ แบบไม่เหลืออะไร ให้ชื่นชมได้เลย ถามกองเชียร์ในนี้ เอายังไงกันดี จะโต้ตอบว่ายังไง.....เชิญตามสบายค่ะ
ต้นทุนเชิงบริหารต่ำ
ประจานออกอากาศกันเลย ฟ้องด้วยภาพข่าวที่กลุ่มผู้ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัด
นครศรีธรรมราชกว่า 1,000 คน พร้อมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน นำโดย
นายนรินทร์ ยุทธชัย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าไร่ ได้รวมตัวประท้วงที่
ศาลากลางจังหวัด ทวงถามเรื่องเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมปี 2553 รอบที
2 ครอบครัวละ 5,000 บาท
ตั้งเวทีปราศรัยโจมตีการเบิกจ่ายงบล่าช้า ไม่มีความโปร่งใส
โวยรัฐบาลใช้ดาวเทียมมั่วข้อมูล
ทำให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตกหล่นไม่ทั่วถึง
ทั้งหมดทั้งปวง เหตุมันเกิดที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ไข่แดง ปักษ์ใต้
ฐานเสียงใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ที่เหมา ส.ส.ยกจังหวัด
สยายปีกคุมหัวคะแนน ล็อกแกนนำท้องถิ่นไว้ได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด
จะปัดให้เป็นแผนดิสเครดิตของพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามก็ เขิน
และนั่นก็น่าจะเป็นเหตุที่ว่า เดอะตาล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย
รมต.ประจำสำนักนายกฯ ปะทุอารมณ์ระหว่างการเป็นประธานการประชุม
คณะกรรมการอำนวยการกำกับติดตามการช่วยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัย
ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
ฟาดหัวฟาดหาง ไล่ตีกราดดะ
ทั้งคิวขู่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน เป็นทำนองจะย้อนกลับไปดูว่า
ใครเซ็นรับรองว่าผู้ประสบภัยเข้าหลักเกณฑ์รับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท
ทั้งๆที่ภาพถ่ายดาวเทียมยืนยันว่าไม่ได้อยู่ในพื้นที่น้ำท่วม จะโดนดำเนิน
คดีทางกฎหมายว่ากระทำการอันเป็นเท็จ
เล่นกันถึงขั้นฟ้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
(ป.ป.ช.)
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ของ เจ๊วา นางพรทิวา นาคาศัย ก็ยังโดนหางเลข
ขอแจ้งกระทรวงพาณิชย์ให้จัดการเรื่องข้าวที่พิมพ์ข้างถุงว่า เป็นข้าวช่วย
เหลือน้ำท่วม แต่ก็ไปโผล่ในพื้นที่ไม่ได้ถูกน้ำท่วม เพราะมีหลักฐานภาพ
ถ่ายชัดเจน
ในอารมณ์ค้างคาใจ ไม่เว้นแม้แต่สื่อมวลชนยังโดนนายสาทิตย์ แดกดัน
ขอพูดแบบไม่เกรงใจใครว่า สื่อมวลชนที่ลงไปทำข่าวทุกวันนี้
ทำเพื่อโปรโมตบริษัทตัวเอง ไม่ได้ทำเพื่อชาติ พยายามทำเหมือนรัฐบาล
ไม่ทำอะไร ดังนั้น รัฐบาลต้องทบทวนแผนการประชาสัมพันธ์กันใหม่
โดยช่วงเทศกาลสงกรานต์จะเชิญสื่อช่อง 9 และช่อง 11 ลงไปทำข่าวการ
เตรียมสร้างและซ่อมแซมบ้านในพื้นที่ประสบอุทกภัย
ไม่เอ่ยชื่อกันตรงๆ แต่ สรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรรายการเล่าข่าว
ชื่อดัง ฟังแล้วก็คงนึกเป็นคนอื่นไม่ได้ เพราะตามกระแสมันก็มีคิว
หักหน้า กันอยู่
ที่แน่ๆ เป็นอารมณ์ที่สะท้อนต่อเนื่องมาจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกรัฐมนตรี ที่เหน็บย้อนศรพรรคเพื่อไทยเป็นทำนอง หากเห็นว่า
นายสรยุทธ แก้ปัญหาน้ำท่วมได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพดีกว่าตนเอง
ก็ให้ไปเชิญ สรยุทธ มาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคซะเลย
โดยปมในใจมันซ่อนไว้ไม่มิด นาทีนี้ สรยุทธ กลายเป็นเป้าเขม่น
เรื่องของเรื่อง โดยกระแสเปรียบเทียบกระบวนการบริหารจัดการระหว่าง
นายกฯอภิสิทธิ์กับนายสรยุทธ ตั้งแต่วิกฤติอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ในพื้นที่
ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคเหนือ ต่อเนื่องมาถึงน้ำป่าไหลหลากท่วม
อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ อภิสิทธิ์ เงอะๆงะๆ
เปรียบเทียบกับ สรยุทธ ที่นอกจากทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการระดม
เงินบริจาคและความช่วยเหลือจากภาคเอกชน ยังลงไปปักหลักในพื้นที่
เกาะติดสถานการณ์ได้บรรยากาศเห็นภาพจริง
ที่สำคัญยังมีการลุยช่วยเหลือผู้ประสบภัยแบบถึงลูกถึงคน
ทั้งนั่งเรือเข้าไปแจกถุงยังชีพ
และยังมีช็อตที่รถออฟโรดจมน้ำต้องหนีตายกันทุลักทุเล
โดยการทุ่มเทมากกว่าจะหวังแค่ชื่อเสียง ผลประโยชน์ของความ
เป็นสื่อมวลชน
เทียบกับนายกฯอภิสิทธิ์ที่เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร และยังมีสถานะเป็น
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่กุมฐานเสียงปักษ์ใต้แบบผูกขาด
ช่วงแรกๆปล่อยให้ชาวบ้านเผชิญชะตากรรม 4-5 วัน
แล้วค่อยบินลงไปนั่งรถยูนิม็อกของทหารลุยตรวจน้ำน่วม
โบกไม้โบกมือทักทายผู้ประสบภัย ขณะที่ เทพเทือก นายสุเทพ
เทือกสุบรรณ รองนายกฯ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์
ยังมีอารมณ์ลุยน้ำท่วมไปเป็นประธานจัดสัมมนาหัวคะแนน
ปราศรัยบลัฟตีกินคู่แข่งทางการเมือง
เรื่องของเรื่องพอโดนวิจารณ์มากๆ นายกฯอภิสิทธิ์ก็บินลงพื้นที่ไปลุยน้ำ
ทำท่าจะเสียหลักหกล้มจนหน่วย รปภ. ทหาร ตำรวจต้องรีบเข้าประคอง
ท่ามกลางเสียงของคนประชาธิปัตย์ที่นำเชียร์ นำแห่เรียกเสียงปรบมือ
จากชาวบ้าน
เน้นแค่สร้างภาพ สร้างกระแส
แก้ลำกับภาวะต้นทุนความเชื่อมั่นในเชิงบริหารที่ต่ำสุดๆแล้ว.
ทีมข่าวการเมือง
รายงานไทยรัฐออนไลน์
http://www.thairath.co.th/column/pol/wikroh/163481
ใครที่บอกวว่าสีแดงน้อยลง ลองมาอ่านกันหน่อยเป็นไร บริหารแบบนี้มีหรือ แดงจะน้อยลง