Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
กรือเซะด้วยคนครับคุณเก่ง{แตกประเด็นจาก P10449648} ติดต่อทีมงาน

นี่ๆๆๆๆ     นิสัยของแมงสาบเจงๆที่เรียกว่าเอาชั่วใส่คนอื่น

ผมเอาบทความเดียวกันกับคุณมาให้พี่น้องอ่านเปรียบเทียบกัน

ให้รับข้อมูลครบทุกด้าน  ไม่ใช่ตัดเอาแต่ตรงที่ต้องการป้ายสีฝ่ายตรงข้ามมาเหมือนคุณ

บทความของคุณเก่ง ชุมแสง

คนที่คุมไม่ใช่ พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน นะครับ  ไปหาข้อมูลใหม่มั่วนิ่มสมเป็นเสื้อแดงจริงๆๆ  คนที่ตายในมัสยิด 30 ปี (อายุ 17 ปี จานวน 1 คน อายุ 18 ปี จานวน 2 คน อายุ 19 ปี จานวน 3 คน อายุ 20 - 40 ปี จานวน 18 คน อายุ 50 – 63 ปี จานวน 7 คน และ ไม่สามารถระบุอายุได้จานวน 1 คน)
ผลกระทบหลังเหตุการณ์
1. ฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบได้นาเหตุการณ์ดังกล่าวไปปรับแต่งใช้ในการ ปจว./ปชส. ว่าฝ่ายรัฐใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา เพื่อใช้เป็นเงื่อนไขให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาแทรกแซง
2. เกิดผลกระทบต่อจิตใจชาวมุสลิม เพราะมัสยิดกรือเซะถือเป็นโบราณสถานที่ประชาชนเคารพนับถือ
3. เจ้าหน้าที่ระดับสูง หรือผู้บังคับหน่วยต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รอง นรม.ฝ่ายความมั่นคง
พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี รอง ผอ.รมน.
พล.ท.พิศาล วัฒนวงศ์คีรี มทภ.๔
นายเสนอ จันทรา ผวจ.ป.น.
นายไตรรัตน์ จงจิตร รอง ผวจ.ป.น.
พล.ต.ท.ปรุง บุญผดุง ผบช.ภ.๙
พล.ต.ต.ธานี ทวิษศรี รอง ผบ.ภ.๙
พล.ต.ต.ไพฑูรย์ พัฒนโสภณ ผบก.ภ.ป.น.
พ.ต.อ.โพธ สวยสุวรรณ ผกก.สภ.อ.ปัตตานี
พ.อ.มนัส คงแป้น ผบ.ฉก.ปัตตานี
นายพิพนธ์ นราพิทักษ์กุล นอภ.เมืองปัตตานี
พ.อ.ชัยชนะ นาคเกิด ผบ.ชค.๕๔๓
พ.ต.ธนภัทร นาคชัยชนะ รอง ผบ.ชค.๕๔๓
ร.อ.ชนาธิป ทองเชี่ยว ผบ.ร้อย.ร.๔๐๕๒
เอาไปเก็บเป็นข้อมูลนะครับ หลักฐานเขามีไว้ให้หามาแก้ต่างเมื่อแก้ต่างไม่ได้ก็ยอมรับเถอะครับ

จากคุณ : เก่ง-ชุมแสง



บทความฉบับเดียวกันที่คุณเก่งชุมแสงตัดต่อพันธุกรรมมา


http://www.2phraarthit.net/files/kruesae.pdf

เหตุการณ์มัสยิดกรือเซะ
ความเป็นมาก่อนเกิดเหตุการณ์
ตามที่ได้มีกลุ่มบุคคลจำนวนหนึ่งใช้อาวุธเข้าปล้นค่ายทหาร และได้มีการสังหารทหารและนาอาวุธปืนจานวนมากไปเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547 ต่อมาได้มีการสังหาร ทาร้ายพระภิกษุ ราษฎร และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตลอดจนทาลายสถานที่ของทางราชการในจังหวัดยะลา นราธิวาส และปัตตานีโดยต่อเนื่องมาตลอดเป็นระยะๆ จนกระทั่งในวันที่ 28 เมษายน 2547 กลุ่มบุคคลจานวนมากได้เข้าโจมตีสถานีตารวจ ที่ทาการของฝ่ายปกครอง ที่ตั้งส่วนราชการ พร้อมกัน 11 จุดในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ยะลา ปัตตานี และสงขลา สาหรับจังหวัดปัตตานีเกิดเหตุการณ์รุนแรงที่ตาบลตันหยงลูโละ อาเภอเมือง จังหวัดปัตตานี โดยกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบจานวนหนึ่งได้บุกเข้าโจมตีจุดตรวจของเจ้าพนักงานตารวจ ทหารที่กรือเซะและปล้นอาวุธปืน กระสุนปืนของทางราชการไปจานวนหนึ่ง ฆ่า และพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกาลังทาหน้าที่แล้วได้หลบหนีเข้าไปยึดครองมัสยิดกรือเซะซึ่งเป็นศาสนสถานและโบราณสถานที่สาคัญของจังหวัดปัตตานี ตั้งอยู่ใกล้เคียงกับจุดตรวจ ฯ ดังกล่าว โดยในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตารวจและทหารได้เข้าดาเนินการควบคุมสถานการณ์โดยอ้างอานาจตามกฎหมายจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ณ มัสยิดกรือเซะ รวมจานวน 32 คน
ลำดับเหตุการณ์
1. การเตรียมการของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ  วันที่ 26 เมษายน 2547 กลุ่มคนประมาณ 30 คน ได้ประชุมวางแผนเตรียมการโจมตีจุดตรวจมัสยิดกรือเซะ ที่บ้านนายฮามะ สาและ ซึ่งตั้งอยู่ที่ ตาบลควนโนรี อาเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี โดยมีบุคคลระดับแกนนาเข้าร่วมประชุม  วันที่ 27 เมษายน 2547 เวลาประมาณ 15.00 น. กลุ่มบุคคลประมาณ 30 คน แต่งกายในลักษณะบุคคลทั่วไป เดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจที่มัสยิดกรือเซะ โดยชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้บริเวณมัสยิดได้สอบถามกลุ่มบุคคลดังกล่าวและได้รับทราบว่ามีการนัดหมายกันไว้ล่วงหน้าในการเดินทางมายังมัสยิดในครั้งนี้ เวลาประมาณ 17.00 – 20.00 น. กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ทาละหมาดร่วมกัน และมีการพูดปลุกระดมให้มุ่งมั่นในการปฏิบัติการประกาศเอกราช และได้นัดหมายว่า จะโจมตีจุดตรวจกรือเซะในเวลา 05.00 น. ของวันที่ 28 เมษายน 2547 เพื่อแย่งชิงอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่และให้หลบหนีเข้าไปซ่อนตัวอยู่ภายในมัสยิด 
เวลาประมาณ 20.00 – 20.30 น. กลุ่มชายประมาณ 20 คน แต่งกายในชุดดะอ์วะฮ์ (ชุดยาวแบบอาหรับ) มาสมทบเพิ่มเติม โดยอาพรางตนในลักษณะรับประทานอาหารข้างมัสยิด 
เวลาประมาณ 23.00 น. ชาย 2 คนได้ขับรถออกจากมัสยิดไปตรวจสอบบริเวณจุดตรวจกรืเซะ
2. การปะทะระหว่างกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบกับฝ่ายเจ้าหน้าที่  วันที่ 28 เมษายน 2547
เวลาประมาณ 05.10 น. กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่อยู่บริเวณด้านนอกมัสยิดกรือเซะ ประมาณ 30 คน ได้เข้าทาร้ายเจ้าหน้าที่ ตชด. ประจาจุดตรวจจนได้รับบาดเจ็บสาหัส 2นาย และเสียชีวิต 1นาย พร้อมแย่งยึดเครื่องยิงลูกระเบิด M 79 ในขณะที่เจ้าหน้าที่ยิงตอบโต ผู้ก่อความไม่สงบเสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บสาหัส 3 คน ภายหลังจากการโจมตีจุดตรวจแล้ว กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้หลบหนีไปบริเวณสวนมะพร้าวและบางส่วนหลบอยู่ในมัสยิดกรือเซะ
3. เหตุการณ์ที่มัสยิดกรือเซะ (06.00 – 16.00 น.)  วันที่ 28 เมษายน 2547
เวลาประมาณ 06.00 น. กาลังเจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายทหารและฝ่ายตารวจได้ทาการปิดล้อมมัสยิดกรือเซะ พร้อมเรียกร้องให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบมอบตัว 
เวลาประมาณ 07.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ทาการปิดการจราจร และเริ่มมีชาวบ้านมุงดูเหตุการณ์ 
เวลาประมาณ 08.00 น. กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้ใช้อาวุธเอ็ม 79 ซึ่งยึดมาจากจุดตรวจกรือเซะ ยิงกระสุนระเบิดออกมาจากมัสยิดจานวน 2 นัด และในระหว่างยิงปะทะกัน มีเจ้าหน้าที่ถูกยิงเสียชีวิต 1 นาย 
เวลาประมาณ 09.00 น. เจ้าหน้าที่ได้พยายามยิงแก๊สน้าตาเข้าไปภายในมัสยิด แต่ไม่สาเร็จ เจ้าหน้าที่จึงได้ขอรับการสนับสนุนอาวุธอาร์พีจี เพื่อใช้เปิดช่องสาหรับแก๊สน้าตาแต่ไม่ได้ผล เนื่องจากกาแพงมัสยิดแข็งแรงมาก 
เวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ขว้างแก๊สน้าตาเข้าไปในมัสยิด  เวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ใช้รถหุ้มเกราะ วี 150 และอาวุธยิงเบี่ยงเบนความสนใจของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเพื่อชุดปฏิบัติการพิเศษ สามารถลอบเข้ามัสยิดทางทิศเหนือได้ แต่ไม่เป็นผลเพราะยังคงมีการยิงออกมาจากมัสยิดเป็นระยะๆ เช่นเดิม 
เวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษได้ขว้างระเบิดสังหาร จานวน 4 ลูก เข้าไปภายในมัสยิด ฯ 
เวลาประมาณ 13.00 น.มีการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบและเจ้าหน้าที่อีกครั้ง และมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ
เวลาประมาณ 13.30 น. เจ้าหน้าที่ ชค.543 ได้โจมตีเข้าไปในมัสยิด ขณะที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้ตอบโต้การโจมตีเป็นระยะๆ
เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ ชค.543 สามารถเข้าควบคุมพื้นที่บริเวณมัสยิดกรือเซะได้ทั้งหมด
เวลาประมาณ 14.30 น. เจ้าหน้าที่ทหารตารวจชุดหนึ่งได้เข้าไปในมัสยิดเพื่อตรวจพื้นที่โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารและตารวจอีกจานวนหนึ่งตรึงกาลังอยู่บริเวณรอบนอกมัสยิด เพื่อกันไม่ให้ประชาชนเข้าใกล้บริเวณมัสยิดเกินระยะปลอดภัย
เวลาประมาณ 15.00 น. ประชาชนจานวนประมาณเกือบ 1,000 คน ได้ส่งเสียงโห่ร้องเป็นระยะ เนื่องจากต้องการจะเข้าไปในมัสยิดเพื่อดูว่ามีญาติพี่น้องหรือบุคคลในครอบครัวของตนอยู่ ภายในมัสยิดหรือไม่
เวลาประมาณ 16.00 น. ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตารวจเก็บ และรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จ จึงได้อนุญาตให้ประชาชนเข้าไปในมัสยิด
การสูญเสีย
โดยสรุปผลการปฏิบัติการ มีการสูญเสียดังนี้
ชค. 543 เสียชีวิตจานวน 1 นาย
ตชด. เสียชีวิตจานวน 1 นาย
กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ส่วนใหญ่เป็นชายฉกรรจ์อายุเฉลี่ย 30 ปี (อายุ 17 ปี จานวน 1 คน อายุ 18 ปี จานวน 2 คน อายุ 19 ปี จานวน 3 คน อายุ 20 - 40 ปี จานวน 18 คน อายุ 50 – 63 ปี จานวน 7 คน และ ไม่สามารถระบุอายุได้จานวน 1 คน)
ผลกระทบหลังเหตุการณ์
1. ฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบได้นาเหตุการณ์ดังกล่าวไปปรับแต่งใช้ในการ ปจว./ปชส. ว่าฝ่ายรัฐใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา เพื่อใช้เป็นเงื่อนไขให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาแทรกแซง
2. เกิดผลกระทบต่อจิตใจชาวมุสลิม เพราะมัสยิดกรือเซะถือเป็นโบราณสถานที่ประชาชนเคารพนับถือ
3. เจ้าหน้าที่ระดับสูง หรือผู้บังคับหน่วยต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รอง นรม.ฝ่ายความมั่นคง
พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี รอง ผอ.รมน.
พล.ท.พิศาล วัฒนวงศ์คีรี มทภ.๔
นายเสนอ จันทรา ผวจ.ป.น.
นายไตรรัตน์ จงจิตร รอง ผวจ.ป.น.
พล.ต.ท.ปรุง บุญผดุง ผบช.ภ.๙
พล.ต.ต.ธานี ทวิษศรี รอง ผบ.ภ.๙
พล.ต.ต.ไพฑูรย์ พัฒนโสภณ ผบก.ภ.ป.น.
พ.ต.อ.โพธ สวยสุวรรณ ผกก.สภ.อ.ปัตตานี
พ.อ.มนัส คงแป้น ผบ.ฉก.ปัตตานี
นายพิพนธ์ นราพิทักษ์กุล นอภ.เมืองปัตตานี
พ.อ.ชัยชนะ นาคเกิด ผบ.ชค.๕๔๓
พ.ต.ธนภัทร นาคชัยชนะ รอง ผบ.ชค.๕๔๓
ร.อ.ชนาธิป ทองเชี่ยว ผบ.ร้อย.ร.๔๐๕๒

4. องค์กรสิทธิมนุษยชน ให้ความสนใจต่อกรณีกรือเซะ ซึ่งมักจะนาไปกล่าวถึงรวมกับกรณีอื่นๆ เช่น กรณีนายสมชาย ลีละไพจิตร และการสลายการชุมนุมที่ตากใบ เพื่อยกระดับเหตุการณ์ให้เข้าไปสู้เวทีนานาชาติต่อไป
การตั้งคณะกรรมการอิสระไต่สวนข้อเท็จจริง
กรณีเหตุการณ์มัสยิดกรือเซะ ได้รับความสนใจทั้งใน และต่างประเทศอย่างกว้างขวางทาให้รัฐบาลมีคาสั่งสานักนายกรัฐมนตรี ที่ 104/2547 ลงวันที่ 4 พฤษภาคม 2547 แต่งตั้ง “คณะกรรมการอิสระไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีกรือเซะ” ขึ้นเพื่อจัดทารายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ให้รัฐบาลทราบ และเปิดเผยต่อสาธารณะชนด้วย โดยคณะกรรมการฯ ประกอบด้วย
1. นาย สุจินดา ยงสุนทร ประธาน
อดีตเอกอัครราชทูตและอดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
2. นาย อารีย์ วงศ์อารยะ รองประธาน
อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย
3. นาย จรัญ มะลูลีม กรรมการ
นักวิชาการมหาวิทยาลัย
4. นาย ภุมรัตน ทักษาดิพงศ์ กรรมการ
อดีตผู้อานวยการสานักข่าวกรองแห่งชาติ
5. นาย มหดี วิมานะ กรรมการ
อดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน
6. นาย อาศิส พิทักษ์คุมพล กรรมการ
ประธานกรรมการอิสลามประจาจังหวัดสงขลา
7. นาย ศักดิ์ทิพย์ ไกรฤกษ์ กรรมการ
อดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน
ข้อพิจารณาของคณะกรรมการอิสระ ฯ

1. สถานการณ์ ความจาเป็น และความเหมาะสม
ประเด็นของความจำเป็นของการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ในเหตุการณ์มัสยิดกรือเซะนั้น ไม่สามารถแยกพิจารณาเฉพาะเหตุการณ์ได้ แต่ต้องนำเหตุการณ์ความไม่สงบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้มาประมวล เพื่อให้เห็นเจตนารมณ์ของผู้ก่อความไม่สงบที่ต้องการให้เกิดความไม่สงบ และรุนแรงอย่างต่อเนื่องเพื่อทาลายความเชื่อถือของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล สาหรับประเด็นสถานการณ์และความเหมาะสมนั้น เห็นว่า ณ เวลานั้นเจ้าหน้าที่ไม่สามารถประเมินได้ว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในมัสยิดมีจานวนเท่าใด มีอาวุธร้ายแรงอะไร ภายในมัสยิดค่อนข้างมืด ประกอบกับมีกลุ่มคนจานวนนับพันชุมนุมอยู่รอบมัสยิด ซึ่งเจ้าหน้าที่มีเหตุผลเชื่อได้ว่าผู้ก่อความไม่สงบสามารถคุกคามต่อ ชีวิตของเจ้าหน้าที่และประชาชน อีกทั้งการกระทาของผู้ก่อความไม่สงบเข้าข่ายการกระทาผิดอาญา เจ้าหน้าที่จึงมีอานาจดาเนินการได้
2. คณะกรรมการเสียงข้างมากมีความเห็นดังนี้
2.1 การปิดล้อม และการเจรจาโดยสันติ อาจทาให้ผู้ก่อความไม่สงบยอมจานนในที่สุดได้ และอาจได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในอนาคตได้ ซึ่งถือว่าน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด
2.2 การใช้อาวุธหนักของเจ้าหน้าที่น่าจะไม่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ที่ระบุถึงความจาเป็น และสัดส่วนระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ก่อความไม่สงบ
3. คณะกรรมการเสียงข้างน้อย มีความเห็นดังนี้
3.1 การกระทาของผู้ก่อความไม่สงบน่าจะถือได้ว่าเป็นการกระทาของผู้ก่อการอันเป็นศัตรูต่อความมั่นคงของประเทศ มิใช่เป็นการก่ออาชญากรรมธรรมดา การต่อสู้ จึงมีลักษณะเป็นสถานการณ์สู้รบ
3.2 การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ได้ทาตาม “กฎของการปะทะ” ใช้ยุทธวิธีตามขั้นตอน จากเบาไปหาหนัก แต่ผู้ก่อความไม่สงบไม่มีท่าทีจะยอมจานน การใช้อาวุธเข้าปราบปรามจึงมีความจาเป็น แต่หากเห็นว่าการกระทาของเจ้าหน้าที่มีความรุนแรง ก็ควรต้องผ่านกระบวนการทางกฎหมาย
บทวิเคราะห์
1. การปฏิบัติการของผู้ก่อความไม่สงบ แสดงให้เห็นว่า มีการวางแผนเป็นขั้นตอนและจงใจทาร้ายเจ้าหน้าที่ถึงชีวิต จึงถือว่าเป็นการกระทาอันเป็นศตรูต่อความมั่นคงของชาติ มิได้เป็นการก่ออาชญากรรม การต่อสู้จึงมีลักษณะเป็นสถานการณ์สู้ รบมีการกระทาเป็นกระบวนการ
2. ผู้ก่อความไม่สงบ ต้องการขยายผลของความขัดแย้ง ที่มีก่อนหน้านี้ให้มากขึ้น โดยอาศัยมัสยิดกรือเซะ ซึ่งเป็นศาสนสถานสาคัญทางประวัติศาสตร์ และต้องการให้กระทบต่อความรู้สึก ของผู้นับถือศาสนาอิสลาม หวังผล ยกระดับสู่องค์กร ระดับประเทศ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายสุดท้าย นั้นก็คือการแบ่งแยกดินแดนต่อไป
3. การปฏิบัติการทางทหาร จึงต้องมีความละเอียดอ่อนมากกว่าการปฏิบัติการรบตามแบบปกติ เช่น ใช้การปิดล้อม เจรจา และเกลี่ยกล่อมโดยสันติ ซึ่งจะต้องใช้เวลาและความอดทนเป็นอย่างมาก
4. ถึงแม้ว่าการปฏิบัติการทางทหารที่เกิดขึ้นจริง จะเป็นไปตามหลักสากล คือเริ่มต้นจากมาตรการที่ไม่รุนแรงก่อน และจะใช้กาลังและอาวุธเมื่อมาตรการแรกไม่ได้ผลก็ตาม แต่การใช้อาวุธทางทหาร เช่น เอ็ม 16 อาร์พีจี ลูกระเบิดสังหารส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจานวนมากในสถานที่สาคัญทางศาสนา ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาคมโลก โดยเฉพาะผู้นับถือศาสนาอิสลาม
5. การชี้แจงของกองทัพต่อสาธารณะชน ให้ได้ทราบว่าเจ้าหน้าที่ได้ทาตามขั้นตอน กฎของการปะทะ แต่ฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบ ได้ใช้อาวุธตอบโต จนทาให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต ประกอบกับการมีประชาชนเข้ามาบริเวณมัสยิดจานวนมากขึ้น จึงมีความจาเป็นที่เจ้าหน้าที่ต้องตัดสินใจยุติสถานการณ์ ซึ่งนับว่าได้ผล ทาให้ความต้องการของผู้ก่อความไม่สงบไม่สามารถบรรลุผลตามเป้าหมายได้
6. ภายหลังเหตุการณ์ กองทัพได้ส่งทหารเข้าไปบูรณะซ่อมแซมมัสยิด ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ รวมทั้งช่วยเหลือเยียวยาประชาชน ที่ได้รับผลกระทบ ตลอดจนการสร้างความเข้าใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ทาให้ประชาชนมีความเข้าใจที่ดีขึ้นได้ จึงถือได้ว่าเจ้าหน้าที่สามารถรักษามวลชนในพื้นที่ได้ในระดับหนึ่ง
บทสรุป
ผลกระทบจากกรณีปล้นปืนที่กองพันพัฒนา 4 กรณีตากใบ และกรณีมัสยิดกรือเซะ น่าจะเป็นการสนับสนุนให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบใช้ในการโฆษณาชวนชื่อ เพื่อหาแนวร่วม และใช้เป็นเหตุผลในการขอรับการสนับสนุนจากกลุ่มต่างๆ เพื่อก่อการร้ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามวัตถุประสงค์ของตนเองต่อไป
ดังนั้น การปฏิบัติงานของฝ่ายเจ้าหน้าที่ จึงต้องใช้ความละเอียดอ่อน ให้ความสาคัญเป็นอย่างยิ่งกับงานข่าว และยึดถือหลักการของความถูกต้อง และความยุติธรรม รวมไปถึงแนวทางพระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ซึ่งเชื่อว่าจะนาไปสู่ความสงบสุข และสันติในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไปได้

แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 54 13:12:35

จากคุณ : เฒ่าเฝ้าเรือน
เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 54 13:08:57 A:125.26.104.246 X:



ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com