เมืองที่มีจิตใจที่ไร้มนุษยธรรม และสามัญสำนึกต่ำกว่ายุคหนึ่งพันปีก่อน

เมืองที่มีผู้ตายจากการเรียกร้องทางการเมืองของประเทศในระบอบประชาธิปไตย

ได้รับการ “เพิกเฉย”

ไม่สนใจยังไม่พอ ยัง “กลบเกลื่อน”

กลบเกลื่อนยังไม่พอ ยัง “ให้ร้ายป้ายสี” ว่าผู้ตายเป็น “ผู้ก่อการร้าย”

ทั้งๆที่ผู้ตาย “ไม่มีโอกาส” ลุกขึ้นมาแก้ต่าง

ทั้งๆที่เห็นได้อย่างชัดเจน ไม่ต่ำกว่า 6-13 ศพ เป็นฝีมือของ “เจ้าหน้าที่รัฐ”

ทั้งๆบางศพเป็น “นักข่าว” “พยาบาล” “อาสาสมัคร”

ที่โดนฆาตกรรมจากฝีมือของ  “เจ้าหน้าที่รัฐ”

แต่ทั้งหมดทุกศพ กลับโดน “เพิกเฉย”

หนำซ้ำมีแนวโน้มว่า ผลของคดีออกมาในรูปที่เอาผิดกับ“เจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้”

ทั้งๆที่คนทั้งโลกเค้ารู้อยู่ว่า “อะไรเป็นอะไร”

ท่านโกหกคนไทยด้วยกันได้ แต่ไม่มีวันโกหกคนทั้งโลกได้

ท่านยัดเยียดข้อกล่าวหา“ผู้ก่อการร้าย”ให้ผู้ตายได้ ก็เฉพาะในประเทศเบี้ยวๆนี้เท่านั้น

แต่ทั้งโลกเค้าก็เห็นชัดเจนว่า ผู้ตายนี่คือ “วีรชนที่เรียกร้องทางการเมือง”

ท่านยัดเยียดข้อกล่าวหา“ผู้ก่อการร้าย”ให้ผู้ตายได้ ก็เฉพาะในสื่อในประเทศนี้เท่านั้น

แต่ในจิตใจของ “ประชาชน” ที่โดนท่านปกครองเค้ายกย่อง“ผู้ก่อการร้ายที่ตาย”เหล่านี้ว่า “วีรบรุษวีรชน”

เพราะวีรบรุษวีรชน ที่เรียกร้องด้านการเมืองเหล่านี้ ไม่ใช่เหรอ

ที่ทำให้สยามประเทศ ดึงประชาธิปไตยออกมาห่างจากมือทหารเรื่อยๆ

ที่ทำให้สยามประเทศ เดินเข้าสู่ประชาธิปไตยเต็มใบ เรื่อยๆ

ที่ทำให้สยามประเทศ เกิดการเท่าเทียมกันทางด้านสิทธิและการแสดงความคิดเห็น

ที่ทำให้สยามประเทศ “มีโอกาสให้กับคนธรรมดาไม่ใช่ทหารมาเป็นนายกรัฐมนตรีมาบริหารประเทศ”

แม้คนธรรมดาบางท่านจะบริหารประเทศได้แย่ยิ่งกว่า นายกคนใดในประวัติศาสตร์ก็ตาม

แต่คนธรรมดาคนนั้นควรจะมี “จิตใจที่มีมนุษยธรรมและสามัญสำนึก”

อย่าดูถูกประชาชนที่ท่านปกครองอยู่เลย

อย่าดูถูกประชาชนที่เป็นบันไดให้กับท่าน

“หยุดยัดเยียดข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นธรรมให้กับประชาชนของท่านและวีรชน”