กระแสยิ่งลักษ์ เริ่มแรง เหมือนสินค้าที่แพ๊คเกตสวยงาม แต่ข้างในมันอาจไม่มีอะไรใหม่ก็ได้...
ในสภาวการณ์ทางการเมือง ที่รัฐบาลประชาธิปัตย์สร้างฐานอำนาจไว้อย่างแน่นหนา และการณ์นี้ เขาจะไม่ปล่อยให้ทุนผูกขาดที่ให้การสนับสนุนรัฐบาลเขาต้องกระจายตัว และแตกระแหงไปเป็นลูกโซ่ อันไม่สอดคล้องกับโลกาภิวัตน์ จึงทำให้ไม่มีช่องว่างพอที่แกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะไม่ใช่รัฐบาลประชาธิปัตย์
เกือบทุกประเทศในโลก เปลี่ยนรัฐบาลตัวเองเป็นพรรคอนุรักษ์นิยมไปทั้งหมด ยกเว้นเพียงอเมริกาเท่านั้นยังใช้พรรคฝ่ายซ้ายในการบริหารจัดการ นับตั้งแต่ อังกฤษ , ญี่ปุ่น และไทย สามประเทศที่ยกตัวอย่างมา ก็มีการเปลี่ยนขั้วรัฐบาลจากซ้ายมาเป็นขวาอย่างมีเงื่อนงำ ทั้งสิ้น ด้วยกฎนี้ครับ " พรรคการเมืองจำเป็นต้องเป็นพันธมิตรกับพรรคการเมืองของประเทศมหาอำนาจด้วย ถึงจะจัดตั้งรัฐบาลได้ " เมื่ออเมริกาต้องการเก็บเกี่ยวความมั่งคั่งให้ถึงขีดสุด เพื่อสร้างตลาดการค้าให้กับจีนและเกาหลีใต้ ประเทศต่างๆทั่วโลกต้องลดบทบาทลง รัฐบาลจะเปลี่ยนไปตามใจชอบมิได้
โดยทั่วไปแล้ว เหล่าผู้คนที่ฝักใฝ่พรรคเพื่อไทย และอดีตนายกทักษิณ ชินวัตร คงไม่ได้แคร์อะไรมากไปกว่า การเกาะติดกระแสกลุ่มคนเสื้อแดง ในการก่อม๊อปประท้วงเรียกร้องสิทธิ์ต่างๆนาๆ ที่ไม่เคยเจอจุดที่เป็นที่สุด และมองข้ามเรื่องของทุนนิยมไปอย่างสิ้นเชิง คนกลุ่มนี้จะกลายเป็นผู้ที่อยู่ในกฎของการเมืองอีกกฎหนึ่ง นั่นคือ " ผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองที่เป็นปรปักษ์กัน ก็ยังต้องใช้พลเมืองบนโลกใบเดียวกัน " หมายความว่า พรรคเพื่อไทย ที่ไม่มีแนวโน้มว่าจะชนะการเลือกตั้ง หรือพูดให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือ ไม่มีทุนระดับโลกสนับสนุน นั้น จะต้องอยู่ภายใต้อาณัติของพรรคประชาธิปัตย์เพียงเท่านั้น พรรคที่มีประชาชนสนับสนุนจำนวนมากอย่างพรรคเพื่อไทย กลับกลายเป็นพรรคที่สร้างอำนาจให้กับพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้นเอง