คาดหวังว่าจะได้เห็น ได้ยินกรณี “จาบจ้วงเบื้องสูง”

นั่งฟังตั้ง 2 รอบ นายจตุพรคนนี้แหละ

เนื้อหากล่าวถึง การใช้ทหารสองหน่วยงานมาปราบปรามประชาชน

ทหารสองหน่วยงานที่เป็นที่เคารพที่สุดของประชาชน

“จาบจ้วงตรงไหน ตอนไหน ท่อนใด” ท่านฟังยังไงคะท่านนายพล

ถึงเห็นว่า นั่นคือการปราศัยที่ท่านอยู่เฉยๆไม่ได้ ต้องออกมาแจ้งความ(เท็จ)

แล้วออกสื่อ แนะนำประชาชนให้เลือก “พรรคที่จงรักภัคดีกับพรรคที่ไม่จงรักภัคดี”

เจตนาของท่านคืออะไรคะท่านนายพล......

ไม่ว่าเจตนาท่านจะคืออะไร แต่ผลก็คือท่านนำสถาบันมายุ่งเกี่ยวกับการเมือง

ซ้ำยังใช้สถาบันในการแยกประชาชนเป็น 2  ฝ่าย

เพื่อผลประโยชย์ทางการเมืองของท่าน

ท่านนายพลคะ ท่านจะโกหกไม่เป็นไร เข้าใจว่าท่านอยู่ไกล้ท่านนายกบ่อยๆแล้วอาจจะติดนิสัยมา

แต่การที่ท่านโกหกประชาชน และใช้สถาบันเป็นเครื่องมือ

ประชาชนคนไทยที่ไหนก็บอกท่านได้ว่า

เป็นเรื่อง “ไม่สมควร”

พวกท่านเอาสถาบันมาเล่นได้ทุกสถาณะการณ์

จิตใจของพวกท่านทำด้วยอะไร

ใส่ร้ายป้ายสี ยัดเยียดให้คนอื่นกลุ่มอื่นเป็นพวกไม่จงรักภัคดี

หมดหนทาง หมดปัญญาที่จะโจมตีประชาชนที่ท่านไม่ชอบ

ท่านก็ใช้สถาบันเป็นเครื่องมือ  นำมาโกหก กล่าวหา และแจ้งความเท็จ

ชีวิตท่านช่างน่าสงสาร

ดิฉันสงสารท่านค่ะท่านนายพล  สงสารนิสัยโกหกที่ติดเชื้อมาของท่าน

แต่ก็ช่วยไม่ได้ ท่านทำตัวของท่านเอง

ก็พวกท่านเองไม่ใช่เหรอที่เรียก “ตัวโกหก” มาตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร

และ “ตัวโกหก” ที่เป็น "ต้นเชื้อ" คนเดียวกันนี่แหละพอมีอะไรเกิดขึ้นก็หนีเข้า “ราบ 11”

พวกท่านทำแบบนี้บ่อยๆ เชื้อโกหกก็เลยเกาะตามหัวใจและสมองของพวกท่านเต็มไปหมด

ระวังนะท่าน อยู่ไกล้ท่านนายกมากๆ จะติดเชื้อ “ดีแต่พูด” และเชื้อ “กระแนะกระแหน”มาอีก

ถ้าทหารระดับนายพลอย่างท่านติดเชื้อพวกนี้มาละก็