ได้ยินคุณหมอกวางสัมภาษณ์แล้ว ผมรู้สึกสะเทือนใจเหลือเกินครับ

คุณหมอขับรถมาดีๆ พบเห็นคนขับแท็กซี่ถูกทำร้าย จะจอดรถลงไปช่วย กลับถูกคนเมายาบ้าคนหนึ่งจี้ แล้วบังคับให้ก้มหัวลง พร้อมกับเอาปืนจ่อหัว ซึ่งวินาทีนั้นชีวิตคุณหมอเหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้าย แค่รถสะเทือนแรงไปนิด แค่คนคลั่งมือสั่นไปหน่อย เราก็อาจจะต้องเสียคุณหมอที่มีจรรยาบรรณดีๆคนหนึ่งไป นี่คือสังคมไทยที่เราอาจจะต้องผจญกันต่อไป แต่ที่น่าสะเทือนใจก็คือคำให้สัมภาษณ์ของคุณหมอ

“ตลอดเวลาที่ถูกจับเป็นตัวประกัน คนร้ายเอาปืนจ่อหัวตลอดเวลา ตลอดทางก็ได้ยินแต่เสียงปืน ดังนั้นปืนต้องยิงมาจากข้างนอกอย่างแน่นอน”

นี่คือวิธีการช่วยตัวประกันของเรา
นี่คือการข่าวที่ยอดเยี่ยมของเรา
นี่คือการประสานงานอย่างยอดเยี่ยมของเรา

รถของคุณหมอเจอกระสุนเข้าไป 35 รู ถึงแม้คนร้ายจะเสียชีวิต แต่คุณหมอก็โดนลูกหลงเข้าไป 4 นัด แล้วยังมีคนบอกว่า เป็นโชคดีของคุณหมอที่รอดมาได้ พูดออกมาได้ อยู่ดีๆต้องเจอกระสุนเข้าไป 4 นัด ยังเป็นความโชคดีอีก ผมฟังแล้วแทบอยากกระโดดเข้าไปกัดคอคนพูดเสียเหลือเกิน

นี่เราถึงกับเอาชีวิตอันมีค่าของคุณหมอคนหนึ่งไปแลกกับชีวิตของคนคลั่งยาบ้าอย่างนั้นแล้วหรือครับ แค่เสียใจแล้วก็จะปรับปรุงวิทีการทำงานใหม่ก็พอแล้วหรือครับ ทำไมเดี๋ยวนี้เราจึงไม่มีคนที่มีความเป็นลูกผู้ชายพอที่จะออกมารับผิดชอบถึงการทำงานที่สะเพร่าขนาดนี้นะ

หรือว่าเราเห็นการใช้อาวุธสงครามยิงใส่ผู้บริสุทธิ์ตายกันเกือบร้อย บาดเจ็บกันเกือบสองพัน เพียงเพราะคิดว่ามีผู้ก่อการร้ายแฝงตัวอยู่ในนั้น จนชาชิน จึงไม่ได้เกิดความสะเทือนใจที่คุณหมอต้องประสบกับเคราะห์กรรมครั้งนี้

ยังจำได้ สมัยที่พันธมิตรฯบุกทำเนียบ ทุกคนร่วมแรงร่วมใจตะโกนว่า “ฆ่ามันๆ” จนคณะรัฐมนตรีต้องปีนกำแพงหนีตาย แล้วตอนนั้นตำรวจก็ทำการสลายการชุมนุมจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตหนึ่งราย ทั้งๆที่ยังไม่รู้สาเหตุด้วยซ้ำไปว่า ตายเพราะอะไรกันแน่ แต่หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านในตอนนั้นก็ออกมาตำหนิติเตียน ขนาดถามถึงนายกฯว่า “ยังเป็นคนหรือเปล่า” และเมื่อได้เป็นนายกฯ ยังยื่นฟ้อง ผบ.ตร.ในขณะนั้นเสียด้วย ทำไมจึงช่างแตกต่างจากเรื่องของคุณหมอคนนี้น้า ผมสงสัยจังเลยครับ

ยังรับรู้ด้วยว่า เรามาทีมสไนเปอร์ที่มีความแม่นยำอย่างมาก เพราะพิสูจน์ให้เราเห็นแล้วในวันที่ 19 พ.ค.ปีที่ผ่านมา ทำไมจึงไม่นำมาใช้เพื่อช่วยคุณหมอ หรือว่า ทีมสไนเปอร์เก่งแต่ยิงอยู่บนยอดตึก หรือว่า ทีมสไนเปอร์ใช้ได้กับประชาชนธรรมดาเท่านั้น เพราะเท่าที่รู้มา ตั้งแต่ซื้ออาวุธชนิดนี้มา ยังไม่เคยใช้กับใครเลย นอกจากคนชุมนุม

วันนี้จิตใจค่อนข้างห่อเหี่ยว เลยอาจจะเขียนอะไรที่ไม่ค่อยปะติดปะต่อ ไม่ค่อยเป็นเรื่องเป็นราว ส่วนหนึ่งก็คงเพราะความหวาดวิตกว่าลูกหลานที่ออกไปภายนอก จะมีโอกาสเจอกับเรื่องแบบนี้หรือไม่ จะมีความโชคดีอย่างคุณหมอดังที่หลายคนกล่าวอ้างหรือไม่ แล้วพาลคิดไปถึงการปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มข้น จนพ่อค้ายาเกิดความกลัวจนต้องฆ่าตัดตอนกันเอง แต่เพราะความต้องการที่จะล้มล้างคุณทักษิณในทุกวิถีทาง จนนำมาเป็นประเด็นของสิทธิมนุษยชน แล้วตอนนี้ล่ะครับ ยาเสพติดกลับมาอีกแล้ว คนคลั่งเริ่มปรากฏบ่อยขึ้น อย่างนี้แล้วใครกันครับจะเป็นผู้รับผิดชอบ? เฮ้อ สวัสดี ไทยแลนด์โอลี จริงๆ

จากคุณ	: ทวดเอง
เขียนเมื่อ	: 19 เม.ย. 54 10:41:01 A:14.207.192.175 X: