 |
"ลองเกาะชายกระโปรงนำหน้า"
|
 |
http://www.thaipost.net/news/170511/38723 แล้วทักษิณก็หงายไพ่ "นายกฯ ตัวแทน" ในแผนปฏิบัติการรุกคืบ "ยึดอำนาจ-เปลี่ยนระบอบ-กลืนสถาบัน-บายสีสู่ขวัญ...ทักษิณคืนเมือง "บันทึกไว้ ณ วันจันทร์เล็งอังคารที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ตรงกับขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๖ ปีเถาะ ก็ต้องกราบขอบคุณทักษิณที่ดูถูกคนไทยแบบไว้หน้า โดยส่งน้องสาว "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" แทนเสาไฟฟ้าให้สาวกแดงได้เลือกเป็นนาย! เห็นมวลสมาชิกเพื่อไทยปรบมือ โห่ร้อง ดีใจ กับว่าที่นายกฯ หญิงคนแรก ถึงขนาดอดีตนายพลแห่งกองทัพไทย "พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี" อวยนายเหนือหัวคนใหม่ว่า... ถึงยุค "นารีขี่ม้าขาว" มาเป็นผู้นำประเทศที่จะทำให้ประชาชนร่ำรวยแล้ว ผมน้ำตาเล็ด!! เล็ดด้วยปริ่มปลื้มไปกับคุณยิ่งลักษณ์และคณะพรรคเพื่อไทย มีนายกฯ ผู้ชายมาแล้วตั้ง ๓ คน ทั้งทักษิณ-สมัคร-สมชาย เกาะขากางเกงมันก็งั้นๆ เปลี่ยนเป็นนายกฯ ผู้หญิงดูบ้าง ลองเกาะชายกระโปรงนำหน้า อาจจะเข้าท่า-เข้าทางกว่าด้วยซ้ำ ถึงพูดไม่เก่ง เรียนรู้การเมืองจากพี่ชายมาหลักสูตรเดียวคือ "แปลงการเมืองเป็นหุ้น" แค่นั้นก็เหลือเฟือ ถึงอย่างอื่นทำไม่เป็นก็ไม่เป็นไร แจกยิ้มเข้าไว้ ภูเขาทั้งลูกยังพังได้ แล้วจะซักเท่าไหร่ กับการบริหารประเทศไทยที่ "เงินซื้อได้" จากปลายยันยอด!? ครับ...แต่ละพรรคก็เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ หรือ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคตัวเองเพื่อชิงที่นั่งในสภา ๑๒๕ ที่นั่งกันแล้วแต่เมื่อวาน (๑๖ พ.ค.๕๔) ปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ ๑ เพื่อไทย ก็เป็นไปตามที่รู้กัน คือทักษิณสั่ง...ต้องยิ่งลักษณ์คนเดียว ส่วนประชาธิปัตย์ ไม่มีใครชิง ไม่มีใครแข่งขัน ทั้งที่เจ้าตัว "นายกฯ อภิสิทธิ์" ออกอาการอยากให้ชิงเอาไปใจจะขาด เพราะลิ้มรสการเป็นนายกฯ มา ๒ ปีกว่า รู้แบบเข็ดแล้วว่า "สนุกรากเลือด" นั่งปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ ๑ ทำหน้าที่รักษา "เก้าอี้นายกรัฐมนตรี" เป็นสมัยที่ ๒ กฎหมายไม่ได้กำหนดหรอกว่า นายกฯ ต้องมาจากปาร์ตี้ลิสต์อันดับ ๑ แต่ชาวบ้านคาดหมายว่าต้องเป็นอย่างนั้น ดังนั้น เมื่อยิ่งลักษณ์เบอร์ ๑ เพื่อไทย อภิสิทธิ์เบอร์ ๑ ประชาธิปัตย์ ก็เลยลงตัวคู่พระ-คู่นาง" "อภิสิทธิ์-ยิ่งลักษณ์" หักสวาท สู่ว่าที่-นายกฯ! ในทางปฏิบัติมันก็เป็นอย่างนั้น คือใคร-คนใดคนหนึ่งใน ๒ คนนี้ จากการเลือกตั้ง ๓ ก.ค. จะต้องขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ ๒๘ ของประเทศไทย ถ้าเป็นอภิสิทธิ์ ก็นับเป็น "นายกฯ ๒ สมัย" ติดต่อกัน ซึ่งไม่ช็อกประเทศเท่าไหร่ เพราะนายกฯ ๒ สมัย เคยมีมาแล้ว แต่ถ้าเป็นยิ่งลักษณ์ อันนี้ช็อกยิ่งกว่าช็อกโกแลตซีสต์ซะอีก เพราะจะเป็น "นายกฯ หญิง" คนแรกของประเทศไทย ชนิดต้องบันทึกเป็นบรรทัดแรกของ "ประวัติศาสตร์การบริหาร-การปกครองประเทศ" กันเลยทีเดียว! การที่ทักษิณส่ง "ยิ่งลักษณ์" ชิงเก้าอี้นายกฯ ท่านคิดว่าทักษิณกำลังคิดอะไร และประเมินประเทศไทย-คนไทยไปในทางไหน-อย่างไร? และส่งสัญญาณเป็นนัยถึงใคร? อย่าไปตำหนิคุณยิ่งลักษณ์ เพราะเธอก็แค่ "เหยื่อ" ความอำมหิตทักษิณที่ใช้กระทั่งน้องสาวเป็นสื่อล่อเป้า "เย้ยคนไทยทั้งประเทศ" ให้รู้สึกแสบ-อาย จนบางส่วนเจ็บ-แค้นผ่านตัวเธอ เพราะหมากที่ทักษิณเดินตานี้ คือลีลาแทนคำพูดในประโยคว่า...... "เห็นมั้ย เวลานี้ประชาชนของผมครึ่งค่อนประเทศเขาเอาผม เขาเชื่อผม ศรัทธาผม ต้องการผม ต่อให้ผมส่ง หมู-หมา-กา-ไก่ มาให้เลือก ประชาชนของผมก็ต้องเลือก ฉะนั้น เมื่อผมส่งน้องสาวมาเป็นตัวแทนให้เลือก จะมีประชาชนคนไหนของผมกล้าไม่เลือก?" นี่คือ "อหังการระบอบทักษิณ" หลังจากทดสอบ "พลังศรัทธา" จากสาวกแดงอันมีต่อตัวเขา สั่งเผา-เป็นเผา สั่งฆ่า-เป็นฆ่า บารมีถึงขีดสุดไม่ต่าง "โอมชินริเคียว" ที่สั่งสาวกให้ตายแทนได้ และทดสอบ "แกนหลัก" ด้วยการกัดเซาะสถาบันจนคลอนแล้ว ก็สู่ขั้น "ถอนหลัก-ตัดราก" และฝากตัวอ่อนพันธุ์ "แดงทักษิณ"! ประเทศชาติ "ซื้อไม่ได้" แต่คนไทยบางคน-บางส่วน "ซื้อได้" ซุกหุ้นผ่านลูก-ผ่านเมีย แลกกับการสู่อำนาจ ก็ทำมาแล้วเมื่อปี ๒๕๔๔ และครั้งนี้ ปี ๒๕๕๔ จะ "ซุกอำนาจ" ผ่านน้อง เล่นละคร "ตบตา-สวามิภักดิ์" ตอนปลายปีให้ประชาชนตายใจ เพื่อคืบคลานสู่แผนการใหญ่ในขั้นต่อไป มันมีอะไรติดตะขวงใจที่เสี่ยดูไบจะทำไม่ได้ ไหน...ใครก็ลองบอกมาซิ? ก็ดีแล้วที่ทักษิณเดินหมากตานี้ เพราะมีแต่เดินตานี้เท่านั้น เกมล้างผลาญเมืองที่หาทางจบไม่เจอ ก็จะลงเอยด้วยผลแพ้-ชนะเด็ดขาดกันลงไปเสียที และ "หน้ากาก" ที่สวมพรางไว้จะได้ถูกกระชากจากพฤติกรรมซับซ้อนของตัวเองเสียที! ผมขอบอกว่า ผลเลือกตั้งที่จะออกมา คุณอภิสิทธิ์ได้เป็นนายกฯ ต่อ หรือคุณยิ่งลักษณ์ได้เป็นนายกฯ หญิงคนแรกของประเทศไทย นั่นไม่ใช่ผลแพ้-ชนะที่เป็นคำตอบของเกมล้างผลาญบ้านเมืองโดยตรง แต่เสียงจาก "พลังเงียบ" อีกกว่า ๕๐% ที่หรี่ตา-ตะแคงหู "อยู่ตรงกลาง" ดูความจริง-ความเท็จจากทุกฝ่าย ผ่านความเป็นไปของบ้านเมืองมาเข้าปีที่ ๕ น่าจะถึงคราวตัดสินใจได้แล้วว่า ควรออกมาใช้สิทธิ์ในความเป็นหุ้นส่วนประเทศในวันที่ ๓ ก.ค. ซึ่งนั่นตะหากเป็นตัวชี้ขาด! ชี้ขาดอะไร? ชี้ขาดว่า ถ้าต้องการเปลี่ยนประเทศไทยให้เป็น "แดงทั้งแผ่นดิน" โดยระบอบทักษิณครอง "พลังเงียบ" ก็จะเลือกพรรคเพื่อไทยให้ชนะขาดไปเลย! แต่ถ้าไม่ต้องการเปลี่ยนประเทศจากระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไปเป็น "แดงทั้งแผ่นดิน" คือไม่ต้องการให้ระบอบทักษิณครองประเทศ "พลังเงียบ" ก็จะเลือกประชาธิปัตย์ให้ชนะขาดไปเลย! แต่ถ้า "พลังเงียบ" เงียบสูญเหมือนเดิม คือไม่รู้ร้อน-รู้หนาว ใครจะเอาบ้านเมืองไปไหน-กูไม่สน และไม่ออกไปใช้สิทธิ์ "ชี้ขาด" ในเกมเลือกตั้งชิงประเทศครั้งนี้ การเลือกตั้ง ๓ ก.ค. ผลที่ออกมาจากผู้ใช้สิทธิ์ ๕๐-๖๐% ไม่ว่าประชาธิปัตย์ชนะ หรือเพื่อไทยชนะ นั่นเป็นชัยชนะมาจาก "ฐานจัดตั้ง" เป็นส่วนใหญ่ ถึงรัฐบาลจะตั้งได้ แต่เกมล้างผลาญบ้านเมืองจะดำเนินต่อไป ถึงขั้นเลือกตั้งกันใหม่อีกครั้งตอนกลางปีหน้า เพราะคะแนนที่ออกมาจะ "ถี่-ห่าง" ชวนให้เกิด "ไฟต์ล้างตา" คือแพ้-ชนะกันไม่ขาด จะทำให้ใครก็ไม่ยอมใคร อย่างคะแนนปาร์ตี้ลิสต์จากการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว (๒๓ ธ.ค.๕๐) เพื่อไทยที่เป็น "พลังประชาชน" ตอนนั้นได้ ๑๒,๓๓๑,๓๘๑ คะแนน ได้ปาร์ตี้ลิสต์ ๓๔ คน ส่วนประชาธิปัตย์ได้ ๑๒,๑๓๘,๙๖๐ คะแนน ได้ปาร์ตี้ลิสต์ ๓๓ คน ห่างกันแค่เปอร์เซ็นต์เดียว! จึงต้องเกิดไฟต์ล้างตาราวีกันทั้งในและนอกสภาจนถึงวินาทีนี้ และการเลือกตั้ง ๓ ก.ค.นี้ ผมดูว่าทักษิณ "มั่นใจเกินร้อย" ผ่านการเดินเกมทั้งการเมืองในสภา และการเมืองข้างถนนที่เปลี่ยนเป็น "แนวร่วมต่างสี" รุมอัด-รุมตีประชาธิปัตย์สารพัดเรื่องจะยกมาอ้างเป็นเหตุ ลีลานี้ ในสนามแข่งเขาเรียกว่า "ช่วยขี่กันทาง"! ในทางนิตินัย การเลือกตั้งไม่ใช่ทั้งการเลือกนายกฯ และทั้งไม่ใช่แย่งชิงอำนาจครองประเทศ แต่ ณ บัดนี้ ในเมืองไทย การเลือกตั้งผู้แทนเข้าไปทำหน้าที่นิติบัญญัติในรัฐสภา กลายเป็นการเลือกนายกฯ เพื่อครอง "อำนาจยึดครองประเทศ" ไม่ใช่ "อำนาจบริหารประเทศ" ฉะนั้น การเลือกตั้งหนนี้ก็มีเหตุผลที่ทักษิณจะมั่นใจเกินร้อย เพราะสาวกทักษิณปักใจแน่วแน่อยู่แล้ว ไม่ว่าเลวสุดขั้ว-ชั่วสุดนรกขนาดไหน ยังไงๆ ก็เลือกคนเพื่อไทยวันยังค่ำ-คืนยันรุ่งอยู่แล้ว ส่วนประชาธิปัตย์ จากผลงานที่ผ่านมาเรียกว่า "คนรักเท่าผืนหนัง-คนชังเท่าผืนเสื่อ" และต้องยอมรับความจริงว่า ส.ส.และรัฐมนตรีประชาธิปัตย์ ดีแต่ขี้โม้-โอ้อวด ส่วนฝีมือการทำงานและวิสัยทัศน์นักบริหาร ไม่เอาถ่านเลย ดังนั้น คนที่ไปเลือกตั้ง บางส่วน-บางคนต้องเลือกแบบฝืนใจ-จำใจ เลือกประชาธิปัตย์เพราะไม่ต้องการให้ระบอบทักษิณกลืนเมือง เรียกว่าด้านแรงจูงใจให้คนออกไปเลือก ตรงนี้ประชาธิปัตย์สู้เพื่อไทยไม่ได้ แต่การที่ทักษิณเอายิ่งลักษณ์ซึ่งเป็น "จุดอ่อน" ขึ้นมาชูเป็นจุดแข็ง กลายเป็นจุดลดทอนคะแนนทันที ความคิดที่ว่า "ผู้หญิงเลือกผู้หญิง" เป็นความคิดที่ผิดพลาดมาก โดยเฉพาะจากพลังเงียบที่จะออกมาเลือก การเอายิ่งลักษณ์มาให้เลือกเป็นนายกฯ ไม่ต่างจากเอาหมู-หมา-กา-ไก่ มาให้เขาเลือก ซึ่งเป็นการดูถูกสติปัญญาเขามาก เพราะนั่นก็เท่ากับตีราคาคนเลือกเป็นหมู-หมา-กา-ไก่ ในสายตาทักษิณ! ด้วยมุมหักเหตรงนี้ เปลี่ยนทัศนคติในการเลือกประชาธิปัตย์-อภิสิทธิ์แบบจำใจ จากเดิมที่ว่า "เอาละวะ...กัดฟันเลือกพรรคที่เลวน้อยกว่า" กลายเป็นตัวกระตุ้นให้กระตือรือร้น ต้องออกไปเลือกประชาธิปัตย์ในความหมาย เลือก "อนาคตประเทศไทย" อาศัย "ประชาธิปัตย์" เป็นเครื่องแสดงเจตนา!.
เจ็บอกครับ "ลองเกาะชายกระโปรงนำหน้า" เดียวไพร่ดิ้นกันพล่านครับ ค่อยดู อิอิ
จากคุณ |
:
คนชาย
|
เขียนเมื่อ |
:
วันวิสาขบูชา 54 14:49:09
A:223.206.153.4 X:
|
|
|
|  |