แต่เมื่อคิดไปคิดมาก็เข้าใจครับ ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้ คงเป็นเพราะการเมืองในสนามใหญ่ลูกพี่อย่างอภิสิทธิ์ยังเกิดอาการ “แต๋วแตก” ท้าผู้หญิงยิกๆแล้วหน้าแตกเจอตอกกลับเพราะฝ่ายหญิง “เน้นทำไม่เน้นพูด” จึงเป็นเหตุให้บรรดาสาวกสมองน้อยบางส่วนในนี้ เกิดอาการหงุดหงิดงุ่นง่าน และระบายออกมาตามสันดานดิบเถื่อน เห็นแล้วรู้สึกเสียดายล็อคอินคุณภาพหลายๆคนในฝั่งที่สนับสนุนรัฐบาลและพรรคปชป.ที่แม้จะมีความเห็นแตกต่างจากผม แต่เวลาแสดงความเห็นก็ไม่ได้ทำตัวเสื่อมแบบนี้เลย ซึ่งคงจะจริงนะครับกับคำว่าที่ว่า การศึกษาไม่ช่วยอะไร สำหรับคนที่มีพฤติกรรมแบบนี้

     แต่ก็อีกนั้นแหละอาจเป็นเพราะธรรมเนียมปฏิบัติที่มีมาอย่างยาวนานกว่า 60 ปีของพรรคการเมืองเก่าแก่อย่างพรรคประชาธิปัตถ์ ที่ส่งผลให้บรรดาสาวกมีพฤติกรรมคล้ายคลึงต้นตำรับ เพียงแต่ไม่แนบเนียบเท่าคนจากพรรคนี้ทำเอง ก็เท่านั้น เพราะเวลาพรรคนี้เขาจะโจมตีใคร เขาจะโจมตีอย่างเจ็บแสบเช่นเดียวกับที่สาวกพยายามจะทำตาม แต่ต่างกันที่หากต้นตำรับทำเอง เขาจะไม่ใช้ถ้อยคำหยาบโลนระคายหู แต่ใช้คำพูดที่สุภาพแต่ส่งผลเลวร้ายรุนแรงไปยังฝั่งตรงข้าม และเรื่องป้ายสี สาดสี ต้องยกให้พรรคนี้เป็นเบอร์หนึ่งของวงการ

     ผมจะย้อนเหตุการณ์เพื่อบรรดาพวกมีภูมิความรู้กระจิบกระจอก แต่อยากแสดงออกการเมืองในลักษณะไร้การศึกษาได้รู้ไว้ เพื่อประดับความรู้สักนิดว่า พรรคการเมืองที่พวกท่านยกย่องและเชียร์สุดใจขาดดิ้นนั้น เขามีวาทะกรรมทางการเมืองแบบไหน เพื่อท่านรู้จะได้เลียนแบบได้ใกล้เคียงกับต้นตำรับ ลดละเลิกถ้อยคำที่แสดงออกมาแล้วดูไม่ฉลาดเสีย แม้ผมจะรู้ว่ามันเป็นสิ่งไม่ดี แต่ในเมื่อท่านหน้ามืดตามัวขนาดนี้ ก็คงต้องปล่อยให้พวกท่านหลงผิดต่อไป

     ผมย้อนเหตุการณ์วาทะกรรมคลาสิคของพรรคปชป.จากปัจจุบันไปหาอดีตนะครับ

     คำแรกเลยเพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี้ และผลแห่งคำพูดนั้นก็แปรเปลี่ยนมาเป็นความรุนแรงกับประเทศเพื่อนบ้านในเวลาต่อมา คือคำว่า “คนไทยหัวใจcambodia” เหตุเกิดจากคนในพรรคปชป.ได้ไปสมรู้ร่วมคิดกับคนที่อ้างว่ารักชาติ ไปรุกล้ำพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อหวังมาซึ่งกระแสภายในประเทศเพื่อแย่งชิงสิ่งที่ไม่ใช่ของเราอย่างเขาพระวิหารซึ่งพรรคปชป.รู้ดีอยู่แล้วว่าไม่มีทางได้ แต่ก็ยังทำไปเพื่อกลบกระแสปฏิวัติที่มีอย่างหนาหูในตอนนั้น แล้วเป็นยังไงครับ ผลก็คือ ชาวบ้านชายแดนต้องรับกรรมจากผลการกระทำของพรรคการเมืองเก่าแก่แห่งนี้เช่นไร เจ็บตายไปแล้วเท่าไร แต่ก็ช่างมันเถอะ เพราะเหล่าบรรดาสาวก ปชป ไม่ได้อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนนี้ จะไปเดือนร้อนอะไร

      คำต่อมา ย้อนเวลาถอยสักไปอีกสักหน่อย คือคำว่า “จำลองพาคนไปตาย” ซึ่งมาจากคำว่า “ใครพาคนไปตาย” ที่พรรคปชป.ใช้ขึ้นคัตเอาท์หาเสียงหลังช่วงพฤษภาทมิฬ แล้วภายหลังนายก สมัคร เป็นคนเติมชื่อ จำลองลงไป ให้สมกับเจตนารมณ์ของพรรคประชาธิปัตถ์ ที่ต้องการแย่งฐานเสียงในกรุงเทพจากพรรคพลังธรรมที่พลตรีจำลองเป็นหัวหน้าในขณะนั้น โดยการป้ายสีหาว่าพลตรีจำลองพาคนไปตายจากการเป็นแกนนำพามวลชนไปแย่งอำนาจจากคณะ รสช.ผลก็คือ พรรคพลังธรรมได้รับเลือกเข้ามาน้อยกว่าการเลือกตั้งครั้งก่อนเยอะพอสมควร โดยมีพรรคปชปที่ดิสเครดิตคู่แข่งสุดฤทธิ์ได้ที่นั่งในกรุงเทพเยอะที่สุดในตอนนั้น

      แต่คำที่ร้ายแรงที่สุดต้องย้อนเวลาไปถึง 60 ปี เกือบจะเท่ากับอายุพรรคปชป. และผลของการป้ายสีสุดคลาสสิคนี้ ส่งผลให้บุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์การเมืองต้องหลบหนีหัวซุกหัวซุน แม้กระทั่งตายยังไม่สามารถกลับมาตายบนแผ่นดินเกิดได้คือคำว่า “ปรีดีฆ่าในหลวง” และผลก็คือนายกปรีดีต้องหลบหนีออกนอกประเทศ ซึ่งต่อมาทราบภายหลังว่าคนที่ตะโกนนั้นได้รับการว่าจ้างมา โดยเป็นฝีมือของ นายเลียง ไชยกาล ส.ส.ปชป สมัยนั้น ที่ได้ร่วมกับ ม.ร.ว.เสนีย์-คึกฤทธิ์ และนายควง อภัยวงศ์ ผู้ก่อตั้งและหัวหน้าพรรคปชป.คนแรก แม้ต่อมาภายหลังจะมีการขอขมาต่อนายปรีดีในที่สุด

     ตามที่ผมยกตัวอย่างขึ้นมาจะเห็นได้ว่า พรรคปชป.ไม่ว่าผ่านไปกี่ยุคกี่สมัยก็ยังคงมีพฤติกรรมเช่นเดิม คือเที่ยวได้กล่าวหาใครต่อใครเพื่อหวังเหยียบย่ำอีกฝ่ายและก้าวขึ้นสู่อำนาจ และก็น่าแปลกที่ธรรมเนียมที่น่ารังเกียจแบบนี้ใช้ได้ผลแทบทุกครั้ง

     เมื่อรู้แบบนี้แล้ว คนที่มีสมองพออย่างผมอดคิดไม่ได้ว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันสิ่งที่พรรคปชป.จะหยิบยกมาโจมตีคุณยิ่งลักษณ์ มีอะไรบ้าง ซึ่งผมก็ขอคาดการณ์ล่วงหน้าไว้เลยว่าประเด็นต่อมาที่จะหยิบมาโจมตีต่อจากประเด็นแรก ที่โจมตีว่าเป็นนอมินีทักษิณ

     ว่ากันประเด็นแรกก่อน เรื่องนอมินีทักษิณที่ใช้โจมตีอยู่ในขณะนี้แล้วไม่เกิดผล ก็เพราะฐานสนับสนุนคุณทักษิณยังเหนียวแน่นและพรึ่บพรั่บเต็มบ้านเต็มเมือง ยิ่งพรรคเพื่อไทยออกสโลแกนมาว่า “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” นั่นยิ่งตอกย้ำว่า การที่พรรคปชป.จะลากเรื่องทุจริตไปโยนใส่ทักษิณแล้วเชื่อมโยงกับคุณยิ่งลักษณ์ นั้นคงไม่เป็นผล เพราะคนรักทักษิณต่างไม่เชื่อน้ำยาคนที่ดีแต่พูดแน่ๆ

     ประเด็นต่อมาที่พยายามจะใช้โจมตี ก็คือเรื่องการไม่จดทะเบียนสมรสของคุณยิ่งลักษณ์ที่ลิ่วล้อภายในพรรคพยายามจะหยิบยกขึ้นมาทำลายชื่อเสียงคู่แข่ง แต่โดนพี่เบิ้มภายในพรรคอย่างนายสุเทพสกัดไว้ก่อน เพราะนายสุเทพรู้ดีว่าหากเล่นประเด็นนี้ ผลสุดท้ายคนที่เสียหายหนักคือตัวเองและพรรคพวกหลายคนในพรรค ปชป.

      ประเด็นเรื่องการท้าดีเบทแล้วไม่ได้รับการตอบรับจากคู่แข่ง ที่กลายเป็นหัวข้อสนธนาและแดกดันกันอย่างสนุกปากของสาวกปชป.ทัศนะคติต่ำกว่าชายกระโปรงคุณยิ่งลักษณ์ขณะนี้ ทางพรรคปชป.เองก็คงรู้ดีว่า ไม่มีทางจะเรียกคะแนนนิยมจากพวกมีมันสมองได้ เพราะคนที่มีความคิด ต่างก็รู้ว่า การดีเบทย่อมเกิดขึ้นแน่ แต่เกิดจากการจัดของคนกลาง มิใช่จัดขึ้นโดยฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด และต้องเกิดขึ้นโดยมีพรรคการเมืองที่เสนอตัวเข้าร่วมเลือกตั้งครั้งนี้ ร่วมด้วย แม้โฟกัสจะอยู่ที่ 2 พรรคใหญ่ก็ตาม ดังนั้นคนที่มีความรู้และเข้าใจถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมของการดีเบทจึงไม่ออกมาแสดงความเห็นโง่ๆให้คนอื่นหัวเราะเยาะเอาเปล่าๆ

     ประเด็นเรื่องความสามารถในการบริหาร ก็ยิ่งโจมตีลำบาก เพราะคุณยิ่งลักษณ์มีประสบการณ์การบริหารงานเอกชนจนประสบความสำเร็จมาแล้ว คนของตัวซะอีก ที่ไม่เคยทำไรอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ตอนยังไม่เล่นการเมือง ก็ไปเป็นอาจารย์เพื่อหนีทหาร เวลาสอนจริงๆแทบนับชั่วโมงได้ พอมาทำหน้าที่บริหารประเทศก็เอาแต่กู้ๆๆๆ และกู้  นโยบายก็อาศัยลอกชาวบ้านแล้วมาเปลี่ยนชื่อ ดังนั้นประเด็นนี้ พรรคปชป. คงไม่กล้านำมาใช้โจมตีคุณยิ่งลักษณ์แน่

     ดังนั้นผมฟันธงได้เลยว่า ประเด็นเดียวที่จะใช้โจมตีคุณยิ่งลักษณ์ได้ และพรรคปชป.ใช้แน่ๆก่อนการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ก็คือประเด็น ไม่จงรักษ์ ที่พยายามจะป้ายสีให้คุณทักษิณกลายเป็นคนเนรคุณต่อแผ่นดิน และส่งผลสืบเนื่องมาถึงคุณยิ่งลักษณ์

     เพื่อนๆทั้งหลายคอยดูนะครับ ว่าสิ่งที่ผมคาดการณ์จะเป็นจริงไหม แต่ขอร้องว่า อย่าถึงขนาดมาท้าพนันอะไรกับผมเลย เพราะผมกลัวครับ กลัวว่าจะผิด แล้วโดนประนามเหมือนใครบางคนในอดีต ว่าโกงค่าข้างน้องหมา (อันนี้ก็เป็นมุขเก่าแต่คลาสสิคประจำราชดำเนินแห่งนี้) 555+

-------------------

ป.ล. พยายามจะเขียนสั้นๆแล้วครับ แต่ไม่สามารถจริงๆ คนที่เคยอ่านความเห็นของผมมาก่อน คงรู้ดีว่า พระรองฯ มันพวกบ้าพลัง เขียนสั้นๆไม่เป็น

หายไปตั้งนาน คำนี้ยังแบนอยู่อีกเหรอ คนไทยหัวใจcambodia
ขออภัยที่ต้องแก้ไขหลายครั้งนะครับ

แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 54 01:08:12

แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 54 01:05:20

แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 54 01:01:51