ปี ขนาดGDP ต่อหัว(บาท) จำนวนประชากร(พันคน) หนี้สาธารณะที่เกิดจากรัฐบาลกู้โดยตรง
2553 68,275.21 67,313 45,398
2552 63,721.19 66,903 38,260
2551 65,654.36 66,482 38,517
2550 64,490.63 66,041 29,688
2549 61,830.97 65,574 29,899
2548 59,263.88 65,099 28,101
2547 57,153.76 64,531 28,213
2546 54,205.34 63,982 25,333
2545 51,042.15 63,419 22,404
2544 48,914.65 62,836 20,941
*หมายเหตุ ใช้ตัวเลขหนี้สาธารณะที่เกิดจากการกู้โดยตรงของรัฐบาล เพื่อจะได้เห็นประสิทธิภาพการบริหารงานอย่างชัดเจน ไม่ได้รวมหนี้สาธารณะของหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจอื่นๆซึ่งรัฐบาลเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้
ด้วยนี้เป็นการเพิ่มเติมตัวเลขสำคัญ ที่คุณโพ้นฟ้าตกหล่นหายไป คือค่าเฉลี่ยตัวหัวหนี้สาธารณะที่เกิดจากรัฐบาลเป็นผู้กู้โดยตรง ซึ่งมันจะทำให้เห็นประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาลที่เข้ามาบริหารงานมากยิ่งขึ้น คิดตามหลักง่ายๆเหมือนอย่างที่กะทู้คุณโพ้นฟ้าที่ผมแตกประด็นมานี้แหละ แต่ผมจะไม่สาธยายเหตุการณ์ซ้ำอีก เพราะคุณโพ้นฟ้าได้ให้รายละเอียดไว้หมดแล้ว
รัฐบาลทักษิณ
ถัวเฉลี่ย GDPต่อหัวตลอดระยะเวลา 6 ปี
จาก 48,914.65 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 61,830.97 บาท หรือ ถัวเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 2,152.72 บาทต่อปี
ถัวเฉลี่ยหนี้สาธารณะที่เกิดจากรัฐกู้โดยตรงตลอดระยะเวลา 6 ปี
จาก 20,941 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 29,899 บาท หรือ ถัวเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1,493 บาทต่อปี
รัฐบาลอภิสิทธิ์
ถัวเฉลี่ย GDPต่อหัวตลอดระยะเวลา 2 ปี
จาก 65,654.36 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 68,275.21 บาท หรือ ถัวเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1,310.42 บาทต่อปี
ถัวเฉลี่ยหนี้สาธารณะที่เกิดจากรัฐกู้โดยตรงตลอดระยะเวลา 2 ปี
จาก 38,517 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 45,398 บาท หรือ ถัวเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 3,440 บาทต่อปี
การขยายเพิ่มรายได้เฉลี่ยต่อหัว ทักษิณ 2,152.72 อภิสิทธิ์ 1,310.42
หนี้สาธารณะที่เกิดขึ้นจากการบริหารเฉลี่ยต่อหัว ทักษิณ 1,493 อภิสิทธิ์ 3,440
คิดตามหลักการณ์เดียวกันเป๊ะ เพียงแต่เพิ่มยอดหนี้สาธารณะที่เกิดขึ้นจากฝีมือการบริหารงานของรัฐบาลในแต่ละปีด้วย คงยิ่งจะทำให้เห็นภาพชัดเจนมายิ่งขึ้นนะครับ ซึ่งคงไม่ต้องให้ผมบอกนะครับว่าใครมีฝีมือการทำงานเป็นอย่างไร เพราะตัวเลขมันฟ้องชัดเจนอยู่แล้ว ใครหารายได้เฉลี่ยให้ประชาชนเพิ่มมากกว่า ก่อหนี้สินให้ประชาชนได้น้อยกว่า เชิญทุกท่าน ทัศนากันเอง
แต่ขอฝากไว้นิด งบประมาณปี 54 ได้ผ่านสภาออกมาแล้ว นั้นเท่ากันว่า รัฐบาลหน้า มีภาระหนี้สินล่วงหน้าตั้งแต่ยังไม่รับตำแหน่ง จากเงินกู้ 420,000 ล้านบาท (สี่แสนสองหมื่นล้าน) ซึ่งความจริงผลงานในปี 54 นี้ ควรตกอยู่ในความรับผิดชอบของนาย อภิสิทธิ์ เพียงแต่ว่า ตัวเลข GDP ของปีนี้ยังไม่ออกมาเท่านั้นเอง
และผมคิดว่าประเด็นเรื่องหาเงินเก่ง หาเงินเป็น ของคุณโพ้นฟ้า ที่ผมตามแสดงความไม่เห็นด้วยมาหลายต่อหลายครั้ง คงไม่จำเป็นที่ผมจะต้องมานั่งโต้แย้งกับคุณโพ้นฟ้าอีก และผมก็ยอมรับนะครับว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์ก็รู้จักหารายได้ นี้เป็นการยอมรับแบบไม่มีทิฐิใดๆของผม แต่จะมีประสิทธิภาพเป็นที่น่าพอใจไหม ผมว่าคุณโพ้นฟ้าก็คงรู้คำตอบในใจผมดี จึงต้องขอออกตัวว่า ผมคงไม่จำเป็นต้องมาตามแสดงความเห็นขัดแย้งกับคุณโพ้นฟ้าอีก เพราะบอกตรงๆครับการจะหาข้อมูลมาประกอบการแสดงทัศนะ ใช้เวลาค่อนข้างมาก ถ้าให้ทำนานๆครั้งคงพอไหว แต่จะให้มานั่งหาข้อมูลคอยแย้งตลอดมันก็ไม่ไหว เพราะผมยังอยากใช้เวลาส่วนตัวไปทำอย่างอื่นบ้าง
ผมรู้ครับว่าคุณโพ้นฟ้าพยายามจะหาหลักฐานที่เป็นรูปธรรมมาเพื่อแสดงว่ารัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ก็ทำงานดี ทำงานเป็น พยายามเปลี่ยนความรู้สึกของประชาชนทั่วไปที่อาจจะใช้แค่ความรู้สึกเป็นตัวชี้วัดการทำงานของรัฐบาลใดๆก็แล้วแต่เพียงอย่างเดียว
แน่นอนครับประชาชนทั่วไป เป็นเรื่องลำบากครับที่จะหาข้อมูลตัวเลขมาประกอบความเชื่อของพวกเขา เพราะประชาชนส่วนใหญ่ก็ต้องเอาเวลาไปทำมาหากิน เขาจึงอาศัยความรู้สึกเป็นเครื่องตัดสินใจและชี้วัด ฝีมือการทำงานของแต่ล่ะรัฐบาล ซึ่งความรู้สึกจากการจับจ่ายใช้สอยตลอดจนรายได้ที่มีเข้ามารายวันนั้น มันก็ไม่ผิดหรอกครับ มันเป็นดัชนี้ชี้วัดสภาพเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
ชาวบ้านร้านตลาดจำนวนไม่น้อยที่ยังคิดว่าสมัยทักษิณดีกว่านี้ ก็เป็นเพราะเขาประสบพบเจอมาด้วยตัวเอง มันก็เหมือนข้อมูลที่คุณโพ้นฟ้านำมาประกอบการแสดงความเห็นนั้นแหละครับ ถ้าเอามาครบถ้วนรอบด้าน ก็จะได้ข้อมูลมากพอสำหรับวิเคราะห์ความเป็นจริงทั้งหมดได้ มิใช่เห็นแต่ด้านใดด้านหนึ่งเพียงด้านเดียว
สำหรับแม่นางซอนต็อก เมื่อได้ดูทัศนะข้อมูลของผมแล้ว หากมีข้อขัดแย้งอะไร ก็จัดเต็มได้เลยตามสบาย แต่ขอทีเถอะอย่าเอาความเห็นส่วนตัวของนักวิชาการคนไหนมาแย้งเลย เพราะตัวเลขที่ยืนยันอ้างอิงได้จากหน่วยงานของรัฐ มันก็เพียงพออยู่แล้ว เพราะตัวเลขที่ถูกต้อง มันไม่เคยโกหกใคร
แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 54 01:32:58
แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 54 01:32:28
แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 54 01:31:52