ลองอ่าน แล้ว สอบถามคนเดินดิน ปชช ตาดำๆว่า เชื่อ ข้อมูลที่นำเสนอนี้ไม๊ ?????
จันทร์ 19 เดือน กรกฏาคม ..2553
เมื่อกลางปีที่เเล้ว 53
กกร.แฉ"ใต้โต๊ะ"หนักข้อฟาดกันถึง30% จี้รัฐบาลเร่งแก้"คอร์รัปชั่น"ก่อนแข่งสู้ปท.อื่นไม่ได้
http://www.ichat.in.th/redronin/topic-readid2857-page1
19 พฤษภาคม 2554 เพิ่มเป็น 50%
http://www.posttoday.com/ข่าว/ธุรกิจ-ตลาด/89714/หอการค้าไทยแฉเอกชนต้องจ่ายใต้โต๊ะ50
ข่าวทั้งหมด มาจาก คนกันเอง จากหอการค้าไทยที่ ไม่เคย เอ๊อะเหอ ไม่ว่า ร.บ จะกอบโกย โกงกิน งาบ งบยังไง เพราะไม่อยากให้ อำนาจมืด เข้าไปก่อกวน การค้าของตน
เรียกว่า พ่อค้า นักธุกิจส่วนใหญ่ พร้อมจะอิงแอบ กับ ผู้ทรงอิทธิพล อย่าง ร.บ ทั้งนั้น
อย่างเก่งก็ใช้วิธี ขึ้นราคาสินค้า บีบ ปชช ทางอ้อม
แต่ การออกข่าวครั้งนี้ คงถึงที่สุด
อ่านซ้ำอีกครั้งกับการคอร์รัปชั่น สมัย ร.บ ประชาธิปัตย์ ที่มีนาย อภิสิทธิื เป้น นายก
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า
การคอร์รัปชั่นส่วนใหญ่เกิดจากความไม่ชัดเจนของกฎระเบียบที่เกี่ยวกับการให้ใบอนุญาต การประมูลงาน หรือการให้สัมปทานการอำนวยความสะดวกในเรื่องต่างๆ
ทำให้ทั้งฝ่ายรัฐและเอกชนใช้เป็นช่องว่างเพื่อสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง
โดยมองว่าการคอร์รัปชั่นในประเทศส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับงบประมาณแผ่นดิน และสิ่งที่เป็นปัญหาสำคัญ คือ ค่านิยมของคนในสังคมมองว่าการคอร์รัปชั่นเป็นเรื่องธรรมดา ทำให้การแก้ไขปัญหายาก
นายนันดอร์ แวน เดอ ลูร์ ประธานหอการค้าต่างประเทศในประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยได้ให้สัตยาบันในการต่อต้านการคอร์รัปชั่น การจะทำได้สำเร็จหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านกฎหมายจะต้องมีความจริงจังในการปราบปราม
(ที่มา ประชาชาติธุรกิจ , 15 กรกฎาคม 2553)
คอร์รัปชั่น โพลยุค รัฐบาล "อภิสิทธิ์"หนักกว่า 3 ปีก่อน
http://www.ncc.or.th/index.php/component/content/article/46-economyin/394-esfsf
ยิ่งกว่านั้น ที่น่าหวาดเสียวและชวนให้สยดสยองมากยิ่งกว่าผลการเลือกตั้งเป็นทบเท่าทวีคูณ คือผลการสำรวจของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยในที่ประชุมสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ 28 ที่จังหวัดขอนแก่น
เป็นการสำรวจจาก 420 ตัวอย่าง ประกอบด้วยตัวแทนนักธุรกิจ สภาหอการค้าทั่วประเทศ และเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐ
ผลก็คือ สถานการณ์การทุจริตคอร์รัปชั่นเพิ่มขึ้นกว่าช่วง 3 ปีก่อน
พอเอ่ยถึง 3 ปีก่อน คือช่วงก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน2549นั่นก็คือช่วงของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรแห่งพรรคไทยรักไทย
ยิ่งกว่านั้น 79.7% ของกลุ่มตัวอย่างยอมรับว่าเคยจ่ายเงินพิเศษให้ข้าราชการ และนักการเมือง เพื่อให้ได้สัญญาธุรกิจที่ทำกับภาครัฐ
น่าสยดสยองก็ตรงที่ต้องจ่ายมากถึง 25% ของมูลค่าสัญญาที่ได้รับมา
โดยความจัดเจนระดับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะโดยความจัดเจนระดับพรรคประชาธิปัตย์ อาจโบ้ยให้ความเลวร้ายนี้เป็นของฝ่ายอื่น
ฝ่ายอื่นอันเป็นพรรคร่วมรัฐบาล มิใช่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ว่าจะเป็น พรรคภูมิใจไทย พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรคชาติไทยพัฒนา พรรครวมชาติพัฒนา พรรคกิจสังคม พรรคมาตุภูมิ ก็แบ่งๆ กันไป
กระนั้น การแบ่งไปให้พรรคร่วมรัฐบาลก็เข้าลักษณะ"ขว้างงูไม่พ้นคอ" อยู่ดี เพราะพรรคประชาธิปัตย์อยู่ในฐานะเป็นแกนนำ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นนายกรัฐมนตรี
ขว้างอย่างไร "งู" แห่งการทุจริตคอร์รัปชั่นก็ไม่ไปไหนไกลนัก
ที่น่าสยดสยองยิ่งกว่าศุกร์ 13 และเสาร์ห้าผนวกรวมด้วยที่กันอยู่ที่ 2 ปัจจัย
ปัจจัย 1 คือ พรรคประชาธิปัตย์เป็นหมากที่เดินตามบันได 4 ขั้นของการรัฐประหาร ปัจจัย 1 องค์ประกอบของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ล้วนมาจากนักการเมืองที่แปรพักตร์เข้ามา
2 ปัจจัยนี้เองที่กำลังอยู่ในสภาวะ "วัวพันหลัก" ของการเมืองปัจจุบัน
ลองคิดดู ว่า ถ้ามาเป็น ร.บ เป็นนายก อีกครั้ง
บ้านเมืองจะเหลือแต่ กระดูก เพราะ ยี้ห้อย น้ำลายยืด ประกันฝีมือ
เพราะ ปลากระป๋องเน่า กินจนท้องแตก ไม่ผิด
แถม ที่ดินก็ไม่โปร่งใส อยู่บน เขาไม่ถูก ก็เลิกสอบ เก็บเรื่องเงียบ
ไหนจะจ้าง บริษัทมา บอกให้ชั่งไข่
ทั้งหมด คือ ข้อสรุปว่า โกง แหลก แดร๊กสบัด มากที่สุด ตั้งแต่มี ร.บ มา
คือ ประชาธิปัตย์อันมีนายอภิสทธิ์ เป้นนายก