ได้ยินว่านายมาร์คเองก็ไม่เชื่อโพล โดยเฉพาะกรุงเทพโพล และอ้างว่ายังมีอีก 50% ยังไม่ได้เลือกใคร?

แล้วมาร์ครู้ได้ยังไงว่า อีก 50% นั้น เขาจะเลือกพรรค ปชป

เลยมาลองเปรียบเทียบการทำงานของคณะรัฐมนตรีกันดีกว่า

กระทรวงพาณิชย์

ยุคทักษิณ พยายามดูแลราคาสินค้า ไม่ให้พ่อค้าขึ้นราคาตามอำเภอใจ หากสินค้าขาดแคลน รัฐบาลจะรีบเอาสินค้าธงฟ้าออกมากระจายไปทั่วทั้งประเทศทันที ทำให้พ่อค้านั้นไม่สามารถขึ้นราคาตามใจชอบได้

ยุคมาร์ค  ปล่อยให้น้ำมันพืชขาดตลาด จนถึงขั้นสต๊อก 200000 ตันในสต๊อกหมดไปโดยไม่มีใครเอะใจ พอสินค้าขาดแคลน แทนที่จะรีบนำเข้า กลับรีบขึ้นราคาตามที่พ่อค้าต้องการ โดยการขึ้นรวดเดียว 9 บาท โดยไม่มีสินค้าอยู่ในท้องตลาดเช่นเดิม พอราคาสินค้าสูงขึ้น จึงค่อยนำสินค้าเข้ามาวางในท้องตลาดแทน

กระทรวงคมนาคม 

ยุคทักษิณเร่งรีบ จ้ำจี้จ้ำไชในการสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อจะได้ลดปัญหาการจราจรทางอากาศที่หนาแน่นเกินไปของสนามบินดอนเมือง  จนสนามบินสามารถสร้างเสร็จได้ และใช้จนถึงวันนี้

ยุคมาร์ค แอร์พอร์ตลิงค์ที่ตามโครงการจะเสร็จหลังจากที่เปิดสนามบินสุวรรณภูมิในปีถัดไป กลับอืดอาด ยืดยาด เลื่อนเวลาออกไปเรื่อยๆ จนทำให้ล่าช้ามานาน  และพอเปิดให้บริการ ก็มีปัญหาต่างๆนานา  จนปัจจุบันนี้ แอร์พอร์ตลิงค์ที่ควรจะเป็นทางเลือกในการเดินทางไปสู่สนามบินที่สะดวกและเร็วที่สุด กลับไม่ค่อยได้รับความสนใจ

กระทรวงการต่างประเทศ

ยุคทักษิณ  เอกอัครราชทูตทั่วโลก นอกจากจะเป็นคนที่เจรจาผูกมิตรกับประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ยังต้องมีหน้าที่เป็นเซลล์แมนขายสินค้าไทยไปด้วย ทำให้สินค้าไทยในต่างประเทศได้รับความสนใจมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีให้คนต่างชาติรู้จักสินค้าไทยและประเทศไทยมากขึ้น

ยุคมาร์ค  ทูตมีหน้าที่ตามล่าทักษิณเท่านั้น  จนทุกวันนี้ ไม่มีผู้นำต่างชาติมาเยือนประเทศไทยในนามส่วนตัวเลยแม้แต่คนเดียว

กระทรวงพลังงาน

ยุคทักษิณ พยายามชี้แจงเรื่องราคาน้ำมันอย่างละเอียด และหาหนทางในการแก้ไขที่จะลดการใช้น้ำมันให้ได้

ยุคมาร์ค  ไม่เคยออกมาพูดว่าน้ำมันดิบต่างประเทศราคาเท่าไร และไม่กล้าแจกแจง เพราะรัฐบาลบวกภาษีเข้าไปมากมาย  กังวลอยู่อย่างเดียวคือค่าการตลาด กลัวปั๊มน้ำมันจะขาดทุน

กระทรวงกลาโหม

ยุคทักษิณ พยายามจะซื้อสินค้าแบบบาร์เดอร์เทรด โดยเอาสินค้าเกษตรไปแลก และซื้ออาวุธที่จำเป็นเท่านั้น

ยุคมาร์ค แม้แต่จีที200 ที่ไม่มีประสิทธิภาพ ซื้อในราคาแพงเกินควร ยังไม่เคยได้รับการชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจว่า ไม้ล้างป่าช้าแท่งนั้น ซื้อในราคาเป็นล้านๆบาทได้อย่างไร?

กระทรวงสาธารณสุข

ยุคทักษิณ เกิดไข้หวัดนกระบาด จนทำให้คนไทยกลัวบริโภคไก่  เจ้าหน้าที่สาธารณสุขรีบออกมาสร้างความเข้าใจ และป้องกันอย่างเต็มที่ จนโรคหวัดนกถูกควบคุมได้โดยเร็วไว

ยุคมาร์ค  เกิดหวัด 2009 ระบาดไปทั่วประเทศ  และหายไปได้เพราะภูมิคุ้มกันตัวเอง และปีศักราชเปลี่ยนเป็น 2010  จนบัดนี้ก็ยังมีคนเสียชีวิตจากโรคนี้ แต่รัฐบาลนั้นไม่ออกข่าวเท่านั้น

ส่วนกระทรวงอื่นๆ ไม่อยากจะยกมาเปรียบเทียบ

เพราะ 2 ปีกว่าที่ผ่านมานั้น  นางฟ้ายังไม่รู้เลยว่า ประเทศไทยเรานั้นยังมีกระทรวงอะไรบ้าง เพราะไม่เคยเห็นรัฐมนตรีกระทรวงนั้นมีผลงานออกมาแต่อย่างใดเลย

สำหรับตัวผู้นำนั้น  นางฟ้าไม่อยากจะเอามาเปรียบ  แค่ประชาชนเขาให้ฉายาว่า"ดีแต่พูด" มันก็ชี้ให้เห็นแล้วว่า ผลงานนั้นเป็นเช่นใดแล้วนะฮ้า    อิอิ

เปรียบมวยให้เห็นกันแบบนี้  รู้หรือยังว่าอีก 50%ที่เหลือนั้นจะเลือกใครดี????

หวังว่าการเลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค. ที่จะถึงนี้ ผลคะแนนเสียงจะทำให้ทราบว่า ประเทศไทยนั้น มีคนฉลาดหรือคนโง่มากกว่ากันนะฮ้า