- "สถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ที่คนจำนวนมาก
มองว่าเป็นแค่กระบอกเสียงให้รัฐบาลทุกสมัย
ผมเคยเป็นผู้ดำเนินรายการมองต่างมุม
ที่ออกอากาศทางช่อง 11 เคยมีเสรีภาพ
ในการที่จะผลิตรายการที่เป็นเวทีความคิดเสรี
ผมเห็นว่าโทรทัศน์ช่อง 11 ในอดีตเคยผลิตรายการ
ที่มีสาระและคุณภาพ เป็นเวทีที่เปิดกว้าง
สามารถเอาคนที่มีความเห็นไม่ตรงกัน หรือไม่ตรงกับรัฐบาล
มานั่งโต๊ะเดียวกัน พูดให้ประชาชนฟังได้พร้อมๆ กัน
สะท้อนว่าแม้จะเป็นสถานีภายใต้สังกัดหน่วยงานของรัฐ
แต่ก็สามารถทำหน้าที่สื่อมวลชนที่มีคุณภาพได้
หาก "ผู้มีอำนาจรัฐ" มีเจตนารมณ์แท้จริง
และเคารพในการทำหน้าที่สื่อมวลชน
ผมคิดว่าในเมื่อช่อง 11 ขึ้นอยู่กับรัฐ เป็นของรัฐ
เพราะฉะนั้น มันก็อยู่ที่นโยบายของรัฐ
ประการสำคัญ คือ รัฐบาลจะต้องตระหนักว่า "รัฐ" ไม่ใช่ "รัฐบาล"
แล้วก็ต้องทำให้ชัดว่า "ช่อง 11 เป็นของรัฐ ไม่ใช่ของรัฐบาล"
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
************************************************************
"เหตุการณ์ทั้งหมด นายกฯ ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบ
ว่าเป็นผู้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือไม่ก็จงใจให้เหตุการณ์เกิดขึ้น"
"แต่ที่เลวร้ายกว่าการโยนความผิดให้เจ้าหน้าที่ คือ การใส่ร้ายประชาชน"
"ผมไม่นึกไม่ฝันว่าเราจะมีรัฐที่ได้ทำร้ายประชาชนจนเสียชีวิต
และบาดเจ็บสาหัสแล้ว ยังมีรัฐที่ยัดเยียดความผิดให้ประชาชนอีก
ถือเป็นพฤติกรรมที่รับไม่ได้"
"ผมเคยได้ยินฝ่ายรัฐบาลชอบถามคนนั้นคนนี้ ว่าเป็นคนไทยหรือเปล่า
แต่พฤติกรรมที่ท่านทำอยู่ ไม่ใช่เป็นคนไทยหรือเปล่า"
"แต่เป็นคนหรือเปล่า"
"วันนี้ในทางการเมืองหมดความชอบธรรมไปแล้ว
เราเรียกร้องความรับผิดชอบจากนายกฯ จะลาออก
หรือถ้ากลัวว่าลาออกแล้วพรรคฝ่ายค้านจะมีอำนาจ
ท่านจะยุบสภาก็ได้ แต่ท่านไม่ควรเพิกเฉย
เพราะถ้าไม่ทำอะไร ก็เท่ากับทำร้ายบ้านเมือง และกำลังทำร้ายระบบการเมือง"
"ระบบการเมืองในวิถีระบอบประชาธิปไตย
ไม่มีที่ไหนในโลก ที่ประชาชนถูกทำร้ายจากภาครัฐ
แต่รัฐบาลที่มาจากประชาชนไม่แสดงความรับผิดชอบ"
"เพราะถึงผู้ชุมนุมจะทำผิด แต่รัฐบาลก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำร้ายประชาชน"
และเมื่อนักข่าวถามว่าทำไมสถานการณ์ในขณะนี้
ที่ถือว่าวิกฤตสูงสุดแล้ว นายกรัฐมนตรียังอยู่ได้
"ผมตอบไม่ได้ ผมก็ไม่เคยเห็นคนแบบนี้
ถ้าเป็นมนุษย์ธรรมดาที่ผมรู้จักก็คงไม่เป็นแบบนี้"
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
************************************************************
"จะ 1 คนพูด หรือ แสนคนพูด รัฐบาลก็ต้องฟัง"
23-02-2553
พันตำรวจเอก สมเพียร เอกสมญา ผู้กำกับการ สภ.บันนังสตาจังหวัดยะลา เข้าร้องเรียนต่อศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล ยื่นเรื่องต่อนายกรัฐมนตรี กรณีไม่ได้รับการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้าย
พันตำรวจเอก สมเพียร กล่าวทั้งน้ำตาว่า ทำงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กว่า 30 ปี โดยปีหน้าจะเกษียณราชการ จึงทำเรื่องขอย้ายไปดำรงตำแหน่งที่ สภ.กันตัง จังหวัดตรัง เพื่อใช้ชีวิตบั่นปลายอย่างสงบก่อนเกษียณราชการ ที่ผ่านมาได้ตั้งใจทำงาน เอาชีวิตเข้าแลกตลอด และที่มาวันนี้ไม่ได้ต้องการจะประจานผู้บังคับบัญชา แต่อยากให้สังคมรับรู้ว่า ตำรวจใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทำงานด้วยความทุ่มเท และควรได้รับการตอบแทนจากต้นสังกัดมากกว่านี้
สำหรับพันตำรวจเอกสมเพียร เคยเข้าปะทะกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในภาคใต้ จนได้รับบาดเจ็บถึง 5 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดได้ถูกลอบวางระเบิดขณะไปตรวจที่เกิดเหตุที่บ้านยีราปัน ตำบลตลิ่งชัน เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
************************************************************
"นางวิไลวรรณ-ปรีชา" พบ"อภิสิทธิ์"หารือช่วย"วีระ" ระบุป่วยหนักจริง หวังนายกฯใช้อำนาจรัฐช่วยขออภัยโทษ "อภิสิทธิ์"รับปากจะช่วยให้เร็วที่สุด
...
ถามว่าเป็นไปได้แค่ไหน นายวีระจะได้กลับประเทศไทย นายกฯ กล่าวว่า เราต้องทำให้ได้ และจะพยายามให้เร็วที่สุด และเรื่องของสุขภาพของนายวีระ อย่างน้อยที่สุดจะต้องได้รับการดูแลก่อน ซึ่งทางกาชาดสากลก็จะทำของเขาไป และเข้าใจว่าเขาเพิ่งจะเข้าไปเยี่ยมมา
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ญาติของนายวีระได้ลงนามขออภัยโทษแล้วใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า กระบวนการเรียบร้อยหมดแล้ว
ครอบครัว'วีระ'พอใจ นายกฯรับปากช่วยเต็มที่
ต่อมา เวลา 15.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นางวิไลวรรณ และนายปรีชา สมความคิด มารดาและน้องชายของนายวีระ สมความคิด 1 ใน 2 คนไทยที่ถูกศาลกัมพูชาตัดสินจำคุก เปิดเผยภายหลังเข้าหารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรี ถึงแนวทางการช่วยเหลือนายวีระว่า นายกฯ อภิสิทธิ์ รับปาก จะพยายามทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือนายวิระให้ออกมาเร็วที่สุด ซึ่งตนรู้สึกพอใจที่ นายกฯ มีความจริงใจที่จะช่วยเหลือ แต่ไม่ทราบแนวทางการดำเนินการ เพราะเป็นอำนาจของนายกฯ และเป็นวิธีการของทางราชการ
************************************************************
นายกฯยาหอมเปลี่ยนก๊าซNGVให้แท็กซี่ใน60วัน
วันที่ 28 กันยายน 2553 20:00 <=====
เมื่อเวลา 13.30 น.ที่พรรคประชาธิปัตย์ กลุ่มผู้ขับรถแท็กซี่ก๊าซแอลพีจี ประมาณ 20 คน มายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เนื้อหาสรุปได้ว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้รถแท็กซี่ใช้แก๊สแอลพีจีเปลี่ยนอุปกรณ์มาเป็นแก๊สเอ็นจีวี ตั้งแต่สิงหาคมปี 2552 จนถึงขณะนี้เป็นเวลากว่า 1 ปีแล้วก็ยังไม่สามารถจะติดตั้งได้แม้แต่คันเดียว ดังนั้น ขอให้นายกรัฐมนตรีช่วยเร่งรัดเรื่องนี้ดด้วย เพราะจะช่วยลดต้นทุนค่าเชื้อเพลิงได้มาก
ต่อมา เวลา 14.00 น. ก่อนจะเริ่มประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เดินทางมาร่วมประชุมด้วย ระหว่างรถแล่นมาถึงหน้าที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ตัวแทนรถแท๊กซี่แอลพีจี ประมาณ 20 คน ได้มาดักยื่นหนังสือร้องเรียน และช่วยและนายอภิสิทธิ์ เดินลงมาจากรถเข้าไปรับหนังสือด้วยตัวเอง พร้อมกับกล่าวว่า ได้ประสานกับกรมธุรกิจพลังงานแล้ว แต่ยังติดปัญหาบางอย่างอยู่ คาดว่าช่วยจะเร่งแก้ปัญหาให้ได้ภายใน 60 วัน ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมยอมสลายตัวไปในที่สุด
แท็กซี่สุดทนนัดกดดันรัฐบาล รอเก้อ2ปียังติดตั้งเอ็นจีวีไม่ได้
20 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 <=====
นายวิฑูรย์ แนวพาณิชย์ ประธานสหกรณ์แท็กซี่สยาม และตัวแทนผู้ประกอบการแท็กซี่ในโครงการเปลี่ยนเชื้อเพลิงจากแอลพีจีเป็นเอ็นจีวี เปิดเผยว่า กลุ่มแท็กซี่กำหนดประชุมในสัปดาห์หน้า โดยอาจจะชุมนุมเพื่อกดดันให้รัฐบาลเร่งเข้ามาแก้ปัญหา เนื่องจากผิดหวังที่โครงการแท็กซี่เอ็นจีวีต้องล้มเหลว หลังจากล่าช้ามานานกว่า 1 ปีครึ่ง จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งโครงการโดยเร็ว แต่เนื่องจากเป็นรัฐบาลรักษาการจึงอาจไม่กล้าตัดสินใจ
นายวิฑูรย์กล่าวว่า เมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมากลุ่มแท็กซี่ได้เข้าพบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อเร่งรัดโครงการแท็กซี่เอ็นจีวี ช่วยซึ่งนายกรัฐมนตรี รับปากจะเร่งรัดให้เสร็จสิ้นใน 2 เดือน แต่จนถึงขณะนี้ โครงการก็ไม่คืบหน้า
************************************************************
แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 54 01:57:01
แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 54 16:47:13
"ม า ร์ ค ดี แ ต่ พู ด " - ชื่อนี้ไม่ใช่ได้มาเพราะโชคช่วย
