การเลือกตั้งครั้งนี้ ประเด็นชี้ขาดหลักอยู่ที่ปัญหาปากท้องประชาชน . ซึ่งเวลา ๒ ปีที่ผ่านมา ประชาธิปัตย์ได้โอกาสแสดงฝีมือ . แต่คงไม่มีฝีมือ ทั้งๆที่ตัวช่วยมากมาย เลยทำให้ประชาชนเข็ดขยาด . แทนที่จะนิยมชมชอบ . ส่วนเพื่อไทย บารมีเก่าสมัยไทยรักไทยยังตราตรึงอยู่ในหัวใจคนจนไม่มีวันลบเลือน . คนไทยยังเชื่อมือทักษิณที่อยู่ไกลออกไปหลายพันกิโลเมตรมากกว่าอภิสิทธิ์ที่อยู่ทำเนียบใกล้จนได้กลิ่น . ยิ่งได้คุณยิ่งลักษณ์ที่มีภาพเป็นนักธุรกิจคนเก่งแนวหน้าของประเทศมานำขบวน . ทำให้ไม่มีความเชื่อมั่นครั้งใดจะมากเท่าครั้งนี้อีกแล้ว . เพื่อไทยจึงนำขาดในประเด็นนี้ .
อีกประเด็นหนึ่งที่ประชาชนใช้ในการตัดสินใจคือ การปรองดอง . เพราะบรรยากาศของบ้านเมืองหลังการรัฐประหาร ปี ๒๕๔๙ มีแต่ความแตกแยก . บ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป . กระบวนการยุติธรรมเอียงกระเท่เล่ . รังแกสือื่น ช่วยเหลือพวกตัวเอง . ในที่สุดก็ฆ่ากัน . เบื่อและอึดอัดสุดประมาณ . เพื่อไทยประกาศ ไม่แก้แค้น แต่จะแก้ไข . ส่วนประชาธิปัตย์ได้เล่นละครปรองดองให้ประชาชนดูมาหลายฉากแล้ว . ตั้งแต่ตั้งคณะกรรมการชุดท่านอานันท์ นพ.ประเวส ดร.คณิต . แต่พอคณะกรรมการเขาเสนออะไรก็ไม่ทำตาม . ในขณะเดียวกันก็เปิดไฟเขียวให้ DSI ใช้อำนาจรัฐกลั่นแกล้งคนเสื้อแดงทุกรูปแบบ . แม้เมื่อเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง ส.ส. ประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะคุณสุเทพ . ก็ออกมาแสดงวาทกรรมเฉือดเฉือนพรรคอื่น . จนคนขนาดเสธหนั่นยังทนไม่ได้ต้องออกมาปรามว่า อย่าหมิ่นน้ำใจกันมากนัก . ทะเลาะกับคนอื่นไปทั่วเหมือนสุนัขบ้า . ในขณะคุณยิ่งลักษณ์ประกาศชัดว่าจะไม่ตอบโต้วาทกรรมเหล่านั้น . ยอมอดทนเพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง . ประชาชนดูง่ายมากว่าใครต้องการปรองดองอย่างแท้จริง .
ยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง ประชาชนยิ่งชัดเจนว่าควรเลือกใคร . ระหว่างบรรยากาศอึดอัดไร้ความหวัง . หรือแสงสว่างสดใสที่มาพร้อมความกินดีอยู่ดีครับ .