เรามารู้จักคำว่า ดีเบต กันก่อนครับ จริง ๆ แล้วผมเองก็ไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงคำว่า ดีเบต ว่าจริง ๆ แล้วว่ามีความหมายอย่างไรจะตีคลุมไปว่าเป็นการโต้วาทีก็คงจะได้อยู่ แต่คำว่า ดีเบต ในเชิงการเมืองนั้นเริ่มต้นอย่างเป็นจริงเป็นจังที่ประเทศอเมริกา เริ่มต้นในสมัย เคนเนดี้ กับ นิกสัน ซึ่งเป็นการดีเบตที่มีการถ่ายทอดสดออกไปทั่วประเทศและจากนั้นมาก็เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของประเทศอเมริกา
การดีเบต ดีอย่างไรสำหรับตัวผมแล้วผมมองว่าดีเบตก็คือการโต้วาทีถ้าอยากดูดีเบตดูสภาโจ๊กคงให้อารมณ์ที่ไม่ต่างกัน แต่ดีเบตนั้นมีความหมายที่มากกว่านั้นเพราะเป็นการโชว์วิสัยทัศน์แบบสด ๆ และเป็นการโชว์ปฏิภาณไหวพริบของคนที่จะมาเป็นผู้นำในอนาคต ซึ่งถ้ามองตรงนี้ผมก็คิดว่าอย่างไรแล้วมันก็เป็นเรื่องของคนที่พูดเก่ง เพราะมีนักพูดคนไหนบ้างปฏิภาณไหวพริบต่ำ นักพูดทุกคนปฏิภาณไหวพริบสูงถึงสูงมาก ไม่เชื่อขอย้ำให้ไปดู สภาโจ๊ก
แต่สำหรับการเมืองไทยดีเบตเป็นสิ่งที่จำเป็นหรือไม่ ผมต้องตอบตรง ๆ ว่า ไม่เลยครับ และยิ่งสำหรับคุณยิ่งลักษณ์แล้วยิ่งไม่ควรดีเบตด้วยประการใด ๆ ทั้งปวง กระแสอภิสิทธ์ดีเบตยิ่งลักษณ์ออกมาตั้งแต่มีการรณรงค์เลือกตั้งใหม่ ๆ เรียกได้ว่าพอยุบสภาปุ๊บกระแสดีเบตก็ดังขึ้นมาตามกัน มันเป็นการชงของคนจากพรรคประชาธิปัตย์โดยหวังว่าจะจับยิ่งลักษณ์มาเฉือดออกจอทีวี และมันก็หายไปเมื่อยิ่งลักษณ์ตอบปฏิเสธอย่างชาญฉลาดและวางตัวดีจนทำให้กระแสเรียกร้องให้ดีเบตนิ่งไป แต่วันสองวันนี้กระแสนี้กลับมาอีกครั้งจากปากของอดีตนายกรัฐมนตรีอย่างนายอภิสิทธ์ ผมมองว่าการที่อภิสิทธ์ออกมากระตุ้นกระแสดีเบตอีกครั้งในตอนนี้เพราะอภิสิทธ์รู้ตัวแล้วว่ากำลังถึงทางตัน หนทางจะกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งอยู่ในสถานะจนตรอก
อภิสิทธ์จึงต้องงัดไม้ตายออกมาเพื่อจับยิ่งลักษณ์มาเฉือดและทำให้เพลี่ยงพล้ำเพื่อตีกระแสประชาธิปัตย์ให้กลับมาอยู่บนเส้นทางของการชิงที่นั่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งคุณยิ่งลักษณ์ก็ตอบฉลาดครับ แบ่งรับแบ่งสู้ดีทีเดียว แต่ประชาธิปัตย์พอได้ยินแบบนี้ก็ถึงกับตีปี๊บออกมารับลูกโดยที่ยิ่งลักษณ์ยังไม่ได้พูดเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ
นักธุรกิจ กับ นักการเมือง นักธุรกิจแม้จะเก่งในการบริหารอย่างไรแต่กลการเมืองก็สู้นักการเมืองโดยสันดานไม่ได้จริง ๆ
ถึงตรงนี้ประชาธิปัตย์เริ่มอ้างและชงกระแสดีเบตออกมาอีกครั้ง ดังนั้นผมขอเตือนคุณยิ่งลักษณ์ว่าอย่างไรหลีกเลี่ยงเถอะครับ เพราะนักการเมืองโดยสันดานมันก็คือ นักพูดดี ๆ นี่แหล่ะ ถ้าจะดีเบตกับอภิสิทธ์ให้ณัฐวุฒิออกมาชนได้ก็ควรรับ แต่ถ้ายิ่งลักษณ์กับอภิสิทธ์ อย่าเลย ฟังผม...
คุณยิ่งลักษณ์มีแต้มต่อถึงสามประการ
ประการที่หนึ่ง คุณยิ่งลักษณ์ถือเป็นของแปลกสำหรับสังคมไทย ผมไม่ได้หมายความว่าคุณยิ่งลักษณ์มีสี่ตาสามปากสองจมูกแต่อย่างไร และไม่ใช่ว่าคุณยิ่งลักษณ์อยู่ ๆ ก็ทะลุกลางปล้องขึ้นมาในโลกนี้ แต่สำหรับการเมืองนั้นคุณยิ่งลักษณ์ถือเป็นของใหม่และแปลก เพราะตลอดมาไม่มีเคยมีในประเทศไทยที่ชูแคมเปญว่า "นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย" คุณยิ่งลักษณ์เป็นคนแรก คนไทยเป็นคนสมาธิสั้นชอบลองของใหม่ ๆ อย่างที่เราเห็นล่าสุดคือ ปรากฏการณ์แลนด์สไลด์ที่ไทยรักไทยล้มประชาธิปัตย์
ในวันนั้นคนเลือกทักษิณ ไม่ใช่ว่าเพราะเห็นเขาดี ไม่ใช่ว่าเพราะเห็นเขาเก่ง แต่เป็นเพียงแค่การอยากลอง อยากลองว่าเมื่อทักษิณมาบริหารประเทศชาติแล้วจะเป็นอย่างไร วันนี้วงล้อแห่งการเมืองหมุนเวียนกลับ ประชาชนต้องท้าทายกับความอยากลองอีกหนและยิ่งลักษณ์ก็เป็นทางเลือกที่ดีทีเดียว
ประการที่สอง เราปฏิเสธไม่ได้ว่า คุณยิ่งลักษณ์ คือ ตุ๊กตาของ พตท.ดร. ทักษิณ ชินวัตร ไม่ใช่แค่คุณยิ่งลักษณ์คนเดียวหรอกเพราะเราปฏิเสธไม่ได้ว่า ไม่ว่าใครก็ตามมาอยู่ในฐานะเดียวกับคุณยิ่งลักษณ์คนทั้งประเทศหรือทั้งโลกต่างมองเป็นทางเดียวกันว่านั่นคือ ตุ๊กตาที่ทักษิณตั้งไว้ ผมไม่มีปัญหากับคำว่า หุ่นเชิด ถ้าหุ่นเชิดเป็นที่ยอมรับ แต่เหตุใดถึงเป็นยิ่งลักษณ์
ไม่ใช่แค่เรื่องตัวแทนหรือความรู้ใจหรอกครับ สำหรับความคิดของผม ผมมองไปว่าการวางคุณยิ่งลักษณ์เป็นแคนดิเดตนี้เป็นกางวางตัวที่แยบยลและเพิ่มมูลค่าจาก ตุ๊กตา เป็น ตุ๊กตาทองคำฝังเพชร หากทักษิณเอา โอฬาร ขึ้น หากทักษิณหยิบ มิ่งขวัญ ขึ้นมา สองคนนั้นอย่างดีที่สุดก็เป็นได้แค่ตุ๊กตาไม้สักสำหรับเพื่อไทย แต่พอหยิบยิ่งลักษณ์มามูลค่าต่างกันทันที
อย่างที่บอกไปแล้วเบื้องต้นว่า ยิ่งลักษณ์เป็นของแปลกของใหม่ที่มีต้นทุน แต่ยิ่งลักษณ์ก็ได้เปรียบกว่าคนอื่น ๆ ตรงความเป็นผู้หญิงอีกด้วย สังคมไทยยังเปราะบางกับผู้หญิงอยู่ และบังเอิญว่าคู่ต่อสู้ของเพื่อไทยตอนนี้ก็เป็นพวกชอบรังแกผู้หญิงเสียด้วย ถ้าคุณยิ่งลักษณ์ยิ่งนิ่งภาพลักษณ์ของพวกชอบรังแกผู้หญิงของประชาธิปัตย์ยิ่งฉาบฉายมากขึ้นทบทวี สังคมไทยยังรับเรื่องนี้ไม่ได้ครับ และในสังคมไทยผู้หญิงก็ไม่ควรถูกสาดโคลน ซึ่งการตั้งยิ่งลักษณ์ขึ้นมาทำให้ประชาธิปัตย์ยิ่งเสียคะแนนนิยม
ประการที่สาม วันนี้สนิมของพรรคประชาธิปัตย์มันมากขึ้นจนแทบไม่อาจจะเยียวยาได้แล้วในขณะนี้ เพราะพรรคพวกที่เคยตกร่องปล่องชิ้นกันก็ออกมาตำหนิติเตียนยิ่งถ้าจับเอาคำพูดของ บรรหาร ศิลปอาชา มาเป็นเหตุเป็นผล ยิ่งลักษณ์ก็ยิ่งมีราคาถ้าจะตอบปฏิเสธการดีเบตกับนายอภิสิทธ์ในทันที บรรหารออกมาโอดครวญว่าประชาธิปัตย์ชอบรับปากแล้วไม่ทำ สัญญาอะไรไว้แล้วก็ทำลืม บรรหารโจมตีตรงไปที่อภิสิทธ์หลายครั้ง ซึ่งถ้าชงประเด็นดี ๆ ฟ้องแก่สังคมก็ยิ่งได้ความชอบธรรมที่จะไม่ขอเจรจากับอภิสิทธ์ไม่ว่ากรณีใด
เพราะคนอย่างอภิสิทธ์เป็นคนดีแต่พูด ไม่มีค่าควรที่จะปะทะคารม ไม่ว่าจะเชิงไหนก็ตามที
แผลของอภิสิทธ์ที่บรรหารหลุดปากพูดออกมา ถือเป็นแผลใหญ่ถ้าเพื่อไทยฉวยโอกาสกว้านแผลให้กว้างขึ้นและตบท้ายด้วยการโรยเกลือ ประชาธิปัตย์จะหมดราคาและตายสนิททันที
ผมแจงเหตุผลมาสามประการนี้ ช่วยบอกผมทีว่าด้วยเหตุผลอะไร คุณยิ่งลักษณ์ถึงต้องลดตัวลงไปดีเบตกับชายที่ชื่อ อภิสิทธ์
แต่ในความเป็นจริง ผมเป็นคนหนึ่งที่อยากให้การดีเบตมีขึ้นในประเทศไทยนะครับ ผมอยากเห็น เพราะมันเป็นการแสดงโลกเห็นว่าประเทศไทยเราก้าวจากการเป็นประเทศด้อยพัฒนาขึ้นมาเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาแล้ว แต่ในวันนี้ประเทศเรายังไม่พร้อม การดีเบตแทนที่จะเป็นการแสดงวิสัยทัศน์โชว์ปฏิภาณไหวพริบของผู้ที่จะมาเป็นผู้นำประเทศกลับกลายมาเป็นเครื่องมือในฉกฉวยโอกาสทำลายคู่แข่งทางการเมือง มันฟังดูอย่างไรก็ไม่ศิวิไลซ์เอาเสียเลย
วันนี้ผมก็ยังเชื่อว่าไม่มีพรรคใดทำตามนโยบายที่ตนหาเสียงไว้ได้หมดทุกอย่างแน่นอน เรามีสิทธ์ที่จะเลือกได้แค่ ทำน้อยกับทำมาก และไม่เป็นการเกินไปถ้าทำจะบอกว่า พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่ทำมากกว่าพรรคอื่นในประเทศไทยอย่างแน่นอน