เหตุเกิดในชั้นเรียน ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่ง
อาจารย์ต้องการให้นักเรียนซึมซาบประชาธิปไตยด้วยการสัมผัสเอง การแต่งตั้งหัวหน้าห้องปีนี้จึงดำเนินการแบบการเมืองระดับประเทศ เปิดรับสมัครแล้วให้นักเรียนทั้งห้องลงคะแนนแบบห้องเล็กเบอร์เดียว one man one vote (จริงๆ ก็อ้างประชาธิปไตยไปยังงั้นแหละ เพราะทุกปีก็เลือกกันแบบนี้)
นายเอก สมัครได้หมายเลข 1
คุณสมบัติ ผลการเรียนยอดเยี่ยม เกรด 4.00 มาตั้งแต่ ป.1 วิชาการเก่งหมด วิพากษ์วิจารณ์เก่ง แต่บ่อยครั้งเพื่อนๆ ก็เอือมระอาเพราะนายเอกชอบชักใบให้เรือเสียด้วยการวิจารณ์มากกว่าลงมือทำ
นางสาวตรีชฎา สมัครได้หมายเลข 2
คุณสมบัติเกรดเฉลี่ย 3.50 สวย เรียบร้อย ฉลาด พูดช้าๆ ไม่ชอบการโต้แย้ง ชอบคล้อยตามและประนีประนอม จึงเป็นที่รักของเพื่อนร่วมห้อง
นายห้าว สมัครได้หมายเลข 3
คุณสมบัติ เกรดเฉลี่ย 3.00 เป็นนักกีฬา นักกิจกรรมตัวยง เพื่อนๆ ชอบให้เขามาร่วมกลุ่มด้วย เพราะนายห้าววางแผนงานเก่ง แบ่งงานยุติธรรม ผลงานของกลุ่มโดดเด่นทุกครั้ง ที่สมัครครั้งนี้ก็เพราะเพื่อนๆ เชียร์ก็เลยลองดูทั้งที่ไม่ค่อยแน่ใจว่าอยากเป็นหัวหน้าห้องหรือเปล่า
เมื่อได้ผู้สมัครแล้ว ฟังเสียงนักเรียนทั้งห้อง 37 คนแบบไม่เป็นทางการเพราะรูจักคุ้นเคยกันมาหลายปี คะแนนนายห้าวจึงนำโด่ง ตามมาด้วยนางสาวตรีชฎาที่เป็นที่รักของเพื่อนๆ ส่วนนายเอกไม่ค่อยมีใครเลือกเพราะเพื่อนกลัวว่าถ้านายเอกเป็นหัวหน้าห้อง เพื่อนทั้งห้องจะต้องฟังคำวิจารณ์จนหูตูบ
แต่ปีนี้พ่อบอกว่านายเอกต้องเป็นหัวหน้าห้องให้ได้ ต่อไปในอนาคตจะได้เป็นนายก แนะนำให้นายเอกดีเบตเพื่อเรียกคะแนน
นายเอกเสนอขอให้อาจารย์จัดดีเบต แต่เพื่อนๆ ไม่เห็นด้วยว่าจะดีเบตทำไม นี่เป็นการเลือกหัวหน้าห้องนะ ไม่ได้เลือกนักโต้วาทีสักหน่อย ในสามคนนี้ใครเป็นยังไงก็เห็นๆ กันอยู่ ตรีชฎาเองก็ไม่เห็นด้วยเพราะตัวเองเถียงใครไม่เก่ง ยิ่งนายห้าวด้วยแล้ว ชื่อห้าวก็จริง แต่การเถียงเอาแพ้ชนะกันด้วยเรื่องแบบนี้ นายห้าวมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ
แต่อาจารย์เห็นว่าเป็นวิถีประชาธิปไตยจึงจัดให้มีการดีเบตกัน
ผลการดีเบต นายเอกนำเสนอตัวเองได้อย่างโดดเด่น เลิศหรู และพูดตีคู่แข่งจนเพื่อนๆ ฟังแล้วเคลิ้ม ส่วนนางสาวตรีชฎาดีเบตไปยิ้มหวานไปไม่มีเนื้อหาสาระ เอาตัวรอดมาได้ไม่ร้องไห้ตอนถูกนายเอกพูดจาทับถมก็บุญแล้ว และสำหรับนายห้าว เขาคิดว่าหัวหน้าห้องเป็นก็ได้ ไม่เป็นก็ได้ และถ้าไม่ได้เป็นยิ่งดี เพราะเขาจะได้มีเวลาไปเล่นกีฬาและทำกิจกรรมนอกห้องเรียนได้อย่างที่ใจชอบ นายห้าวก็เลยไม่ค่อยแสดงความคิดความเห็นอะไรในการดีเบต
และแล้วก็ถึงวันลงคะแนนเลือกหัวหน้าห้อง
นายเอกได้12 คะแนน
นางสาวตรีชฎาได้ 8 คะแนน
นายห้าวได้ 17 คะแนน
นักเรียนคนหนึ่งที่สนับสนุนนายห้าวหน้าบานออกจากห้องเรียนไปบอกอาจารย์เพื่อมาตั้งนายห้าวเป็นหัวหน้าห้องอย่างเป็นทางการ
นายเอกหน้านิ่วคิ้วขมวด ถ้าไม่ได้เป็นหัวหน้าห้องคราวนี้กลับไปบ้านพ่อเอาตายแน่
ระหว่างที่อาจารย์ยังมาไม่ถึง เขาจึงล้อบบี้เสียงสนับสนุนของนางสาวตรีชฎา บอกว่าถ้าสนับสนุนเขาเป็นหัวหน้าห้อง เขาจะเปิดติวพิเศษ ทุกวิชา ทุกเย็นหลังเลิกเรียน และถ้าใครเกรดต่ำกว่า 2.0 เขาจะเพิ่มติวพิเศษให้ในวันเสาร์อาทิตย์อีกด้วย
เรียกว่า ทุ่มกันสุดๆ
เมื่ออาจารย์มาถึง อาจารย์ถามว่า ตกลงใครได้เป็นหัวหน้าห้อง
นายเอกยืนขึ้นตอบว่า "ผมครับ"
อาจารย์งง "เธอได้แค่ 12 คะแนนไม่ใช่เหรอ นายห้าวเขาได้ 18 คะแนน เขาก็ต้องเป็นหัวหน้าห้องสิ"
นายเอกบอกว่า ห้าวได้คะแนนไม่ถึงครึ่งเขาจึงไปรวมเสียงสนับสนุนจากตรีชฎามาด้วย ตอนนี้ถือว่าเขาเป็นผู้รวบรวมเสียงสนับสนุนได้มากกว่า เขาจึงมีสิทธิโดยชอบธรรมที่จะเป็นหัวหน้าห้อง
อาจารย์งงเป็นไก่ตาแตก ถามว่านี่มันประชาธิปไตยชาติไหนจึงไม่ยอมรับเสียงข้างมาก
นายเอกเถียงว่า นายห้าวได้แค่ 18 เสียงครับจึงเป็นเสียงข้างน้อย ส่วนผมรวบรวมเสียงข้างมากได้แล้วผมจึงควรเป็นหัวหน้าห้อง ส่วนนายห้าวได้เสียงข้างน้อย
"นายกประเทศไทยเขาก็เลือกกันแบบนี้แหละ อาจารย์ไม่รู้เหรอ??"
!!??