เลยรีบส่งสายด่วนมาตอบทันทีว่า

หลังจากอ่านกระทู้คุณคนชายจบแล้ว 

 รู้สึกว่าประเทศไทยยังมีประชาชนบางส่วนที่ชอบอยู่แต่ในกะลา หากจะพัฒนาประเทศชาติให้ไปได้เร็วกว่านี้  สิ่งสำคัญที่สุดก็คือจะต้องสอนให้คนส่วนนี้ รู้จักใช้สมองให้เป็นประโยชน์มากกว่านี้ เพราะรู้สึกว่าสมองส่วนที่ควบคุมสามัญสำนึกพื้นฐานนั้น จะไม่ปกติ

ชีวิตความเป็นอยู่ทุกวันนี้เดือดร้อนแค่ไหน กลับไม่รู้สึกว่าผิดปกติ

ไข่แพง ก็เฉย

น้ำมันพืชขาดแคลนก็เฉย

เรื่อน้ำตาลล่ม แต่ไม่เร่งรีบจัดการก็เฉย

ปาล์มดิบราคาตก น้ำมันพืชควรจะลดลงมาได้แล้ว แต่ยังไม่รีบจัดการ ก็เฉย

รู้ว่าผู้นำในตอนนี้ยังถือสัญชาติอังกฤษอยู่ ก็เฉย

อ้างว่าชายชุดดำเป็นคนเผา CTW แต่รัฐบาลไม่มีปัญญาจับมาลงโทษได้  ก็เฉย

คนตายไปถึง 91 ศพ เพียงเพราะมาเรียกร้องให้ยุบสภาเท่านั้น ผ่านมาปีกว่า ยังหาคนรับผิดชอบไม่ได้ ก็เฉย

ทหารซื้อGT200 ในราคาสูงลิ่ว แต่คุณภาพแค่เพียงไม้ล้างป่าช้าเท่านั้น  ก็เฉย

ส่วนเรื่องที่ถามมาทั้งหมดนั้น  เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์  กระบวนการยุติธรรมจะเป็นคนตัดสินเอง ไม่ใช่เอานักวิชาการจอมปลอมมาพูดนิดหน่อยก็เชื่อตามไปหมด

ทั้งๆที่นักวิชาการคนนี้ เคยมีประวัติหลอกลวงคนไทยให้หลงเชื่อมาก่อน  ด้วยการทำเรื่องฟ้องคดีกล้ายางอย่างใหญ่โต อ้างว่ารัฐบาลทักษิณโกงมหาศาล  แต่ท้ายสุด คนๆเดียวกันนี้แหละไปเป็นพยานในคดีกล้ายาง จนศาลตัดสินว่า คดีกล้ายางนั้น ไม่ผิด 

คนที่ไม่สมควรจะให้ราคากันแล้วอย่างนายแก้วสรร  ยังเชื่อในคำพูดของเขาได้อีก  มันหมายความว่าอย่างไรกันฮ้า

วิธีเดียวที่จะทำให้ประเทศชาติปรองดองได้คือพยายามเปิดโลกให้คนเหล่านี้ได้เห็นว่า โลกไม่ได้แคบแค่เพียงกะลาที่ครอบเอาไว้อยู่

เลยจะต้องรีบกลับมาช่วยเปิดกะลาที่ครอบเอาไว้ให้เร็วที่สุดยังไงหละฮ้า 555

ป.ล.สำหรับเรื่องเครื่องบินส่วนตัวนั้น คนที่เคยขับแต่ซาเล้งไม่มีทางรู้หรอกว่า การบริการหลังการขายของสินค้าสำหรับลูกค้าวีไอพีถึงจะมีปัญญาซื้อเท่านั้น เขาดูแลกันอย่างไร??  ถึงตอบไปคนขับซาเล้งก็ไม่มีปัญญาจะเข้าใจได้หรอก  เปลืองค่าโทรทางไกลเปล่าๆนะฮ้า