อย่าง "คำพูด" ที่ว่า...

        " สำหรับคนที่ค้าฯ ท่านต้องใช้กำปั้นเหล็กคือ ใช้ความเด็ดขาดอย่างชนิดที่ไม่ต้องปราณี"

        " คนค้ายาเสพติดต้องเตรียมตัว ถ้าไม่เลิกก็มีโอกาสถูกจัดการทุกรูปแบบ หมดทั้งตัวทั้งชีวิต" 

        " ถ้าจะมีผู้ค้ายาตายไปบ้าง ก็เป็นเรื่องปกติ"

        รวมทั้ง "รัฐมนตรี "ที่ เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ที่รับสนองนโยบายอย่างสุดๆ ด้วยการมีหนังสือเวียนไปถึงข้าราชการผู้ปฏิบัติว่า การปราบปรามผู้ค้าฯ ทำได้ 3 วิธี คือ "จับกุม- วิสามัญ หรือเสียชีวิตด้วยเหตุอื่นใด "

        และ "หลักฐาน "ทั้งหมดเหล่านี้ ตอนนี้ "ดีเอสไอ" รวบรวมไว้หมดแล้วตั้งแต่สมัยรัฐบาล

พล.อ. สุรยุทธ์  เพื่อพิจารณาในแง่มุมกฎหมายว่า จะถือเป็น"ใบสั่งฆ่า"ได้หรือไม่

        หากใช่ ..ก็จะดำเนินคดีอาญาฐานฆ่าคนตายโดยเจตนากับผู้กุมระดับนโยบายทันที ในฐานะ "ผู้ใช้"หรือ "ยุยงส่งเสริม" ได้

เวลาดูว่าใครเลวกว่ากันดูยังไงดีครับ จำนวนคนตาย จำนวนเงินที่โกงชาติ จำนวนตึกที่เผา

จำนวน ส.ส. ที่แปรพรรค หรือจำนวนคนโง่ที่คิดว่าทักษิณทำถูก

ที่แน่ๆ เวลาอ้างจำนวนคนตายจากคำสั่งใคร ทักษิณทำได้เยอะกว่าเห็นๆ ทั้งที่ตากใบ และอีกหลายคดี

เนี่ยหรือที่เอามาหาเสียง ให้ฆาตกร 2,500 ศพ คิด

คนสนับสนุนฆาตรกรทำ รู้ว่าเค้าเลวแล้วยังสนับสนุนก็เลวไม่ต่างกันหรอกครับ

คตน.เผย! ผลสอบคดีฆ่าตัดตอน พบ1,400ศพไม่เกี่ยวข้องยาเสพติด

กก.ตรวจ คดี"ฆ่าตัดตอน" จัดระดมความเห็นล้อมคอก ระบุคำสั่งทำสงครามยาเสพติดไม่ชอบธรรม มาจากฝ่ายบริหารมอบนโยบาย รวบรัด-ไม่ชัดเจน ศพกว่า 50% ไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด

กรุงเทพ ธุรกิจออนไลน์ : ที่โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค นายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบศึกษาและวิเคราะห์นโยบายปราบปรามยาเสพติด และการนำนโยบายไปปฏิบัติจนก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ชื่อเสียงและทรัพย์สินของประชาชน (คตน.) เป็นประธานการประชุมระดมความคิดเห็นถึงมาตรการป้องกันทางกฎหมาย เพื่อไม่ให้มีการนำนโยบายปราบปรามยาเสพติดไปปฏิบัติจนเกิดความเสียหายต่อ ประชาชน มีบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม นักวิชาการด้านอาชญาวิทยา และนิติศาสตร์ กว่า 50 คน เข้าร่วมแสดงความคิดเห็น

นายกุลพล พลวัน อัยการอาวุโส กล่าวว่าจากประสบการณ์การทำงาน พบว่า คดีสามัญฆาตกรรมสอบสวนไม่ยาก เพราะผู้ลงมือทำรับสารภาพว่าเป็นคนยิง แต่คดีฆ่าตัดตอน ที่ตำรวจบอกว่าเป็นการฆ่ากันเองเพื่อตัดตอนของนักค้ายาเสพติด และไม่สามารถระบุตัวคนร้าย คดีในลักษณะนี้ตรวจจะทำสำนวนแบบแผ่วบาง แล้วของดการสอบสวน อัยการสั่งสอบเพิ่มก็ไม่เคยได้อะไร ดังนั้น 2,500 ศพ จากสงครามยาเสพติดคงรื้อลำบาก เพราะไม่มีพยาน สิ่งที่ทำได้มีแค่ระวังป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก ดังนั้นผู้มีอำนาจต้องระวังการใช้นโยบายปราบปรามขั้นเด็ดขาด

นาย อุทัย อาทิเวช ประธานคณะอนุกรรมการดำเนินการศึกษาและวิจัยมาตรการทำความเข้าใจต่อนานา ประเทศ กล่าวว่า การชี้แจงทำความเข้าใจต่อต่างประเทศต้องมีตัวเลขที่ชัดเจน ซึ่งนโยบายที่เร่งด่วนของผู้มีอำนาจก็เป็นเหตุให้เกิดการเบี่ยงเบนในการ ปฏิบัติงานได้ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าผลงานของ คตน.จะชี้แจงกับต่างประเทศให้เข้าใจได้ 

สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) ระบุว่าจากการตรวจสอบของคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง 1 ของ คตน.พบว่าการเสียชีวิต 2,500 ศพ ในช่วงเดือนก.พ.- เม.ย.2546 พบว่า 1,400 ศพเป็นการเสียชีวิตที่ไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด

มีเพียง 1,100 ศพเท่านั้น ที่ผู้ตายมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยการเสียชีวิตเกิดขึ้นมากในช่วงเดือนก.พ. และค่อยๆ ลดลงในเดือน มี.ค. และเม.ย.เนื่องจากในช่วงแรกที่มีการประกาศนโยบายขาดความชัดเจน จึงทำให้มีการสื่อความหมายในทางที่ผิด

พ.อ.ปิยวัฒก์ กิ่งเกตุ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)กล่าวว่าคดีฆ่าตัดตอนหาหลักฐานได้ยาก หลายคดีจากการลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนของ ดีเอสไอ ก็ไม่สามารถหาหลักฐานได้ บางคดีภรรยาเห็นสามีถูกตำรวจนำตัวขึ้นรถกระบะของทางราชการไป แต่ก็ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ สามีของเธอก็ยังเป็นบุคคลสูญหายจนถึงทุกวันนี้

หากเอา 91 ศพ ที่เสื้อแดงเผาเมืองมาเทียบ แดงเผาเมืองก็ดูมีความผิดแล้ว ขณะนั้นก็มีการประกาศให้

ออกจากพื้นที่และประกาศเป็นเขตใช้อาวุธจริงแล้ว หมายถึงผู้ชุมนุมที่อยู่ในพื้นที่นั้นกล้าตาย

เมื่อมีการตายจะเรียกร้องอะไร เค้าทำตามขั้นตอน ต่างจาก ฆ่าตัดตอน ขั้นตอน ทำยังไง

ทำไมผู้บริสุทธิตายถึง 1,400 ศพ นี่แหละความชั่วของสัตว์นรกในคราบคนชื่อทักษิณ