ยิ่งออกมาเอาผิดยิ่งลักษณ์ คดียึดทรัพย์ ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำ มาตรฐานของกระบวนการยุติธรรม
|
 |
ถ้าคำตัดสินคดียึดทรัพย์ 4.7 หมื่นล้านบาท เป็นคำตัดสินที่ไร้ซึ่งข้อกังขา ไม่ใช่คำตัดสินที่ เต็มไปด้วยช่องโหว่ทางกฎหมาย แล้วมีการเอาคำตัดสินนั้นมาเล่นงานคุณยิ่งลักษณ์ ก็คงจะไม่ออกมาทุเรศแบบที่ นายแก้วสรร และ พรรคพวก กำลังทำอยู่ตอนนี้ และกระแสสังคมก็คงตอบรับ แต่คำตัดสินคดียึดทรัพย์ 4.7 หมื่นล้านบาท เต็มไปด้วยช่องโหว่ เต็มไปด้วยข้อสงสัยในข้อกฎหมายต่างๆ ว่าตีความถูกต้องตามหลักกฎหมายหรือไม่ ผู้คนยอมรับคำตัดสินตามที่กฎหมายให้อำนาจศาล แต่ไม่ได้ยอมรับเพราะเหตุผล เช่น กรณีที่ศาล ไม่เชื่อว่า คุณยิ่งลักษณ์ไม่ใช่เจ้าของหุ้นจริง หุ้นยังเป็นของคุณทักษิณ ทั้งๆที่หุ้นเป็นทรัพย์ที่ต้องจดทะเบียน และ ชื่อในใบหุ้น ก็ระบุว่าใครเป็นเจ้าของ แต่ศาลไม่เชื่อสิ่งที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่เลือกเชื่อโดยใช้หลักอนุมาน ว่าถึงชื่อจะเป็นของยิ่งลักษณ์ แต่ก็ยังเป็นของทักษิณอยู่ดี หุ้น มีชื่อคุณยิ่งลักษณ์เป็นเจ้าของ เช็คเงินปันผลหุ้น ก็ขีดคร่อมออกในนามคุณยิ่งลักษณ์ เงินค่าหุ้น ก็โอนเข้าบัญชี คุณยิ่งลักษณ์ แล้วถามว่า คุณยิ่งลักษณ์ จะเอาเงินนั้นไปทำอะไร เอาไปให้ใคร มันก็เรื่องของเขา พอไปอ่านคำตัดสิน ที่บอกว่า เพราะ คุณยิ่งลักษณ์ไม่มีหลักฐานว่า เอาเงินปันผลไปใช้ทำอะไรหมด คุณยิ่งลักษณ์บอกว่า เอาซื้อของ ไปกิน ไปใช้ ศาลก็ไม่เชื่อว่าหุ้นเป็นของคุณยิ่งลักษณ์ เพราะไม่มีใบเสร็จ งงใหมครับ แล้วนายแก้วสรร มาบอกว่า ยิ่งลักษณ์ให้การเท็จ ยิ่งงงหนัก
เพราะเรื่องการถือครองหุ้นของยิ่งลักษณ์ชินฯ เป็นเรื่องเปิดเผย คนรู้กันทั้งประเทศ มีแต่ คตส ที่ไม่เชื่อ และบอกว่า ยิ่งลักษณ์ไม่ใช่เจ้าของจริง และสุดท้าย ศาลเชื่อ คำให้การของ คตส (เชื่อได้ว่า)
คตส(แก้วสรร) จะมาเอาผิดว่า ยิ่งลักษณ์ให้การเท็จ มันตลกไปมั้ง
เพราะถ้ากลับกัน ศาลเชื่อ คำให้การของยิ่งลักษณ์ (เชื่อตามเอกสารหลักฐาน) ก็แสดงว่า คตส ต้องมีความผิดฐาน ให้การเท็จ อย่างนั้นเหรอ
------------------------------------------------------- คดีนี้ เรื่องก็ของเรื่อง ก็แค่ ทักษิณทำธุรกิจรวย มีกำไร ก็แบ่งหุ้น แบ่งเงิน ให้ ญาติพี่น้อง ให้ลูก กลับกลายเป็นว่า เป็นคนเลว ขี้โกง ได้ยังไงก็ไม่รู้ ขายหุ้นราคาถูกให้น้อง ก็ผิด ขายหุ้นราคาถูกให้ลูก ก็ผิด ลูกซื้อหุ้นจากพ่อแม่ ก็หาว่า เด็กแค่นี้ไม่ได้ทำอาชีพอะไร จะไปเอาเงินมาจากไหนมาซื้อหุ้นเป็นพันล้าน
ผมก็สงสัยเหมือนกันว่าคนตระกูลอื่นๆ ที่ไม่ใช่ชินวัตร เวลาพ่อแม่ ให้เงินทุกครั้งต้องไปเสียภาษีเงินได้หรือเปล่า ขอเงินพ่อแม่ 5 ล้าน 10 ล้าน ซื้อบ้าน ซื้อรถ ต้องทำเป็นสัญญาเงินกู้มั้ย
ถึงบอกว่า ยิ่งเอาคดีนี้มาเล่นงาน ครอบครัวชินวัตร ก็ยิ่งทำให้คนเห็นใจ แล้วก็จะยิ่ง ตอกย้ำมาตรฐานของกระบวนการยุติธรรม
ถ้าพี่ขายหุ้นให้น้อง โดยไม่เอาเงินสด แล้วให้น้องเอาเงินปันผลจากหุ้นมาผ่อนจ่ายที่หลัง แล้วผิดกฎหมาย ถือว่า การซื้อขายเป็นโมฆะ คุณคิดว่าประเทศไทยจะเป็นยังไง
จากคุณ |
:
webkit
|
เขียนเมื่อ |
:
15 มิ.ย. 54 01:05:17
A:223.206.22.227 X:
|
|
|
|