นี้เป็นคำถามที่ผมคิดขึ้นเมื่อได้อ่านการแสดงความเห็นของคุณ tong-1 และด้วยลีลาการเขียนบรรยายตามกะทู้ของคุณ tong-1 เขียนขึ้นประทับใจผมมาก เว้นเสียแต่ว่าเนื้อหาตามกะทู้นั้นขัดแย้งกับความรู้สึกของผมอย่างสิ้นเชิง ผมจึงจะลองเขียนบรรยายด้วยท่วงทำนองเดียวกัน แต่บอกเล่าความรู้สึกของผมที่ไม่ต่างอะไรไปจากคนไทยผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งอีกจำนวนมาก ให้คุณ tong-1 ได้รับรู้ความคิดเห็นจากอีกแง่มุมบ้าง

     ความอยากเป็นกิเลส ทั้งความอยากได้ อยากดี อยากมี อยากเป็น... ซึ่งคนดีต้องรู้จักควบคุมให้ดี เพราะความอยากเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ทั้งในสนามบินพานิชย์รึว่าในค่ายทหาร ในความอยากนั้น มนุษย์ทุกคนย่อมเลือกที่จะอยากในด้านที่ตัวเองได้ผลประโยชน์ แต่ในด้านที่ตัวเองไม่อยากได้ ไม่อยากเป็นแต่จำต้องทนรับด้วยสภาพความเป็นจริง มักทำให้คนผู้นั้นรู้สึกผิดหวัง และยังโหยหาอยากได้ อยากดี อยากมี อยากเป็น...ไม่เลิก

     คุณอภิสิทธิ์ยังอยากที่จะเป็นนายกอีกสมัย แต่ในความเป็นจริงกระแสที่พรรคเพื่อไทยจะได้ส.ส. แบบ LANDSLIDE ประมาณ 270 คนขึ้นไปมีความเป็นไปได้สูง และตัวคนที่มีความสามารถเหนือกว่าคุณอภิสิทธิ์อย่างเห็นได้ชัด จะกลับมา ซึ่งคนๆนั้นก็คือ คุณทักษิณ ซึ่งนั้นทำให้คุณอภิสิทธิ์หวาดกลัว เพราะความสามารถทางการบริหารของคุณอภิสิทธิ์ไม่ได้ส่วนเสี้ยวแม้แต่นิดเดียวของคุณทักษิณ

     ผมนั่งดูสายฝนเดือนมิถุนา กระหน่ำลงมาบนถนนจนแทบมองไม่เห็นทาง ขณะที่รถวิ่งไปเม็ดฝนที่ตกมากระทบกระจกกลับวิ่งสวนจากด้านล่างของกระจกขึ้น มาทางด้านบนเป็นทิวแถว ขัดกับธรรมชาติที่น้ำจะต้องตกลงข้างล่าง แต่ก็ดูสวยงาม เพลินดี ประกอบกับเพลงแจ๊สเบาๆ ที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อราคา 39 บาท ยังทำหน้าที่ของมันอย่างเที่ยงตรง เมื่อฝนซาเม็ดลง ผมก็หลับไป และฝันถึงการแข่งขันกันระหว่างพรรค ปชป. และพรรคเพื่อไทยว่า(วรรคนี้ของคุณ tong-1 ผมชอบจริงๆ จึงขอหยิบยกเอาทั้งหมด แต่จะวิเคราะห์ในมุมมองที่ต่างออกไป)

     1. ภาคใต้ พรรค ปชป. ชนะแน่นอน คะแนนจะทิ้งผู้สมัครพรรคเพื่อไทยมากเป็นจริงตามที่คุณ tong-1 วิเคราะห์ แต่ในบางพื้นที่จะถูกพรรคขนาดเล็กอย่างมาตุภูมิตัดคะแนน และสูญเสียคะแนนในการเลือกระบบบัญชีรายชื่อเนื่องจากความล้มเหลวในการบริหารงานที่ผ่านมา

     2.ภาคเหนือและอีสาน พรรค เพื่อไทยจะพลิกสภานการณ์กลับมาเป็นผู้ชนะอย่างเด็ดขาด โดยที่พรรคปชป.อาจต้องสูญเสียที่นั่งเดิมที่เคยถือครองอยู่ในหลายจังหวัด เพราะการเมืองในลักษณะภาคนิยมไม่ได้มีเกิดขึ้นเฉพาะภาคใต้ ขนาดพรรคภูมิใจไทยที่ว่าแน่ๆ ยังต้องพยายามทำตัวไปเป็นห้อยไอ้โหน เกาะกระแสพรรคเพื่อไทยในการหาเสียง แต่ก็ถูกสกัดจากการประกาศตัดความสัมพันธ์จากคุณยิ่งลักษณ์ไปเรียบร้อยแล้วว่า ถ้าเพื่อไทยได้ที่ 1 จะไม่ร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย ทำให้ลูกสมุนเนวินหนีตายกลับไปจูบปากกับพรรคปชป.ดังเดิม ซึ่งนายอภิสิทธิ์ซึ่งโดนความอยากเข้าครอบงำ รู้ว่าตัวเองสู้โดยลำพังกับพรรคเพื่อไทยไม่ได้ ก็อ้าแขนยินดีรับและพร้อมที่จะพายเรื่อไปกับโจรอีกครั้งโดยไม่แคร์สายตาประชาชนอีกครั้ง พรรคอื่นๆอย่างชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ทำได้แค่เพียงรักษาที่มั่นของตัวเองไว้ และรอคอยหวังที่จะร่วมรัฐบาลกับผู้ชนะ

     3.ภาคกลางและภาคตะวันออกจะไม่มีพรรคใดชนะเด็ดขาด เพราะมีพรรคเล็กพรรคน้อยคอยตัดคะแนนอยู่ในหลายพื้นที่ เช่น สุพรรณของคุณบรรหาร หรือชลบุรีจากพรรคพลังชล

     4.กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เป็นพื้นที่สำคัญ ที่ทั้งสองพรรคใหญ่ต่างต้องช่วงชิง แต่ผมรู้สึกไม่ชอบ ที่คุณtong-01 บอกว่าพื้นที่นี้คือจุดตัดสินเกมส์แพ้ชนะ เหมือนว่าเสียงของคนกรุงดังกว่าชาวบ้านนอกอยู่เสมอ ซึ่งผมไม่ชอบเลย เพราะคนไทยต่างก็มีสิทธิ์เลือกตั้งเท่าเทียมกัน กาเลือกผู้แทนได้ 2 บัตรเหมือนกัน แล้วทำไมพรรคที่ได้รับเลือกจากกรุงเทพถึงมีสิทธิเหนือกว่าพรรคที่ได้รับเลือกจากคนบ้านนอก แบบนี้มันเป็นประชาธิปไตยกันตรงไหน...?

      แต่ก็เอาเถอะ นั่นเป็นความรู้สึกส่วนตัวของคนสิงห์บุรีโดยกำเนิด แต่มาทำมาหากินในกรุงเทพอย่างผม กลับมาวิเคราะห์ต่อ ซึ่งถึงข้อนี้ คงเรียกว่าวิเคราะห์คงไม่ถูกต้องนัก เพราะคุณ Tong-01 พยายามจะโน้มน้าวให้คนอ่านตัดสินใจเลือกพรรคที่ตัวเองคาดหวังอย่างปชป.เสียมากกว่า กลายวิเคราะห์ในตอนแรกจึงกลายเป็นการชี้ปัญหาที่พรรคปชป.กำลังประสบอยู่ในพื้นที่เมืองกรุง

     ทั้งเรื่อง vote no (แต่ผมก็ไม่เชื่อนะว่ามันจะมีผลเท่าไร) ทั้งภาพลักษณ์ของท่านปุระชัย ที่ดูเป็นคนดีที่แท้จริงต่างจากคนดีจอมปลอมอย่างนายอภิสิทธิ์ หรือกระแสเฮียชูขวัญใจวัยโจ๋ ผู้กล้าและบ้าเกินบรรยาย ด้วยเหตุผลทั้งหมดที่คุณ tong-01 ยกมาอ้าง ผมไม่ได้เห็นว่ามันกลับไม่ปัญหาของพรรคเพื่อไทยตรงไหน ทั้งๆพรรคเพื่อไทยก็ส่งผู้สมัครลงในพื้นที่เดียวกันกับพรรคปชป. ไม่ได้ส่งผู้แทนลงสมัคร ณ กรุงเทพแห่งดาวอังคารสักหน่อย

     ดังนั้นเหตุผลทั้งหมดที่ยกมานี้ จึงเป็นแค่การแข่งขันในเวทีการเลือกตั้งปกติทั้งนั้น ไม่ว่าผู้สมัครคนไหนลงแข่ง ก็ต้องพบเจอด้วยกันทั้งนั้น ไม่ใช่ปัญหาของพรรคปชป.พรรคเดียวอย่างที่คุณ tong-01 พยายามชี้นำ

     โดยสรุปแล้ว ผมเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งครั้งนี้แน่นอน แต่ไม่บังอาจกล้าฟันธงลงไป ว่าจะเป็นชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดหรือไม่ ขอรอไว้ทราบผลอีกทีวันที่ 3 ก.ค นี้ดีกว่า

     ดังนั้น วัตุถประสงค์ที่แท้จริงของคุณ tong-01 ที่ใช้เหตุผลข้อนี้มาขอคะแนนคนกรุงให้พรรคปชป. คือกำลังข่มขู่คนกรุงเทพให้กลัวหากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง โดยพุ่งเป้าไปที่คุณทักษิณจากการตั้งชื่อกะทู้ และมันก็ไม่ต่างอะไรเลยกับการเอาชั่วยัดเยียดให้คนอื่นตามเกมส์ที่ปชป.ถนัด

     สมแล้วที่เป็นสาวกปชป.

     และมันยิ่งเหมือนไปอีกเมื่อเมื่อพยายามเอาดีใส่ตัว โดยการบอกประโยคนี้ “เงินจำนวนมหาศาลที่รัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ฯ เก็บไว้ในคลัง จะถูกนำไปใช้อย่างไม่ยั้งคิด ถูกนำไปถอนทุน หรือแจกจ่ายตอบแทนบุญคุณกันจนหมด พวกเราคนไทยจะเสียใจไม่รู้จบสิ้นครับ” ผมอ่านไปเจอก็รู้สึกอายแทนยังไงบอกไม่ถูก ที่คุณ tong-01 กล้าพูดว่าคุณอภิสิทธิ์หาเงินได้จำนวนมหาศาลเก็บไว้ในคลัง

     จะไม่ให้อายได้ยังไงล่ะครับ ก็ขนาดแม่ค้ากล้วยแขกหน้าปากซอยบ้านผมยังรู้เลยว่า อภิสิทธิ์มีนทำอะไรเป็น นอกจากกู้ แต่เพื่อป้องกันว่าเป็นการกล่าวหาของผมโดยไม่มีข้อมูล ผมจึงขอขุดเอาข้อมูลที่เคยหามาลงไว้ในราชดำเนินแห่งนี้มาประกอบ เพราะจนถึงบัดนี้ ก็ยังไม่มีใครออกมาชี้แจงรึปฏิเสธข้อมูลนี้ เป็นข้อมูลเกี่ยวกับการเปรียบตัวเลข GDP กับ ตัวเลขยอดหนี้สาธารณะ ซึ่งผมเคยถกกับคุณโพ้นฟ้าไว้

ปี      ขนาดGDP ต่อหัว(บาท)       จำนวนประชากร(พันคน)    หนี้สาธารณะที่เกิดจากรัฐบาลกู้โดยตรง

2553       68,275.21                        67,313                                                45,398

2552       63,721.19                        66,903                                                38,260

2551       65,654.36                        66,482                                                38,517

2550       64,490.63                        66,041                                                29,688

2549       61,830.97                        65,574                                                29,899

2548       59,263.88                        65,099                                                28,101

2547       57,153.76                        64,531                                                28,213

2546       54,205.34                        63,982                                                25,333

2545       51,042.15                        63,419                                                22,404

2544       48,914.65                        62,836                                                20,941

*หมายเหตุ ใช้ตัวเลขหนี้สาธารณะที่เกิดจากการกู้โดยตรงของรัฐบาล เพื่อจะได้เห็นประสิทธิภาพการบริหารงานอย่างชัดเจน ไม่ได้รวมหนี้สาธารณะของหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจอื่นๆซึ่งรัฐบาลเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้

     ด้วยนี้เป็นการเพิ่มเติมตัวเลขสำคัญ ที่คุณโพ้นฟ้าตกหล่นหายไป คือค่าเฉลี่ยตัวหัวหนี้สาธารณะที่เกิดจากรัฐบาลเป็นผู้กู้โดยตรง ซึ่งมันจะทำให้เห็นประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาลที่เข้ามาบริหารงานมากยิ่งขึ้น คิดตามหลักง่ายๆเหมือนอย่างที่กะทู้คุณโพ้นฟ้าที่ผมแตกประด็นมานี้แหละ แต่ผมจะไม่สาธยายเหตุการณ์ซ้ำอีก เพราะคุณโพ้นฟ้าได้ให้รายละเอียดไว้หมดแล้ว

รัฐบาลทักษิณ
     ถัวเฉลี่ย GDPต่อหัวตลอดระยะเวลา 6 ปี
     จาก 48,914.65 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 61,830.97 บาท หรือ ถัวเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 2,152.72 บาทต่อปี 
     ถัวเฉลี่ยหนี้สาธารณะที่เกิดจากรัฐกู้โดยตรงตลอดระยะเวลา 6 ปี
     จาก 20,941 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 29,899 บาท หรือ ถัวเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1,493 บาทต่อปี

     รัฐบาลอภิสิทธิ์
     ถัวเฉลี่ย GDPต่อหัวตลอดระยะเวลา 2 ปี
     จาก 65,654.36 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 68,275.21 บาท หรือ ถัวเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1,310.42 บาทต่อปี
    ถัวเฉลี่ยหนี้สาธารณะที่เกิดจากรัฐกู้โดยตรงตลอดระยะเวลา 2 ปี
     จาก 38,517 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 45,398 บาท หรือ ถัวเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 3,440 บาทต่อปี

     การขยายเพิ่มรายได้เฉลี่ยต่อหัว                                   ทักษิณ 2,152.72     อภิสิทธิ์ 1,310.42
     หนี้สาธารณะที่เกิดขึ้นจากการบริหารเฉลี่ยต่อหัว                ทักษิณ 1,493       อภิสิทธิ์ 3,440

     คิดตามหลักการณ์เดียวกันเป๊ะ เพียงแต่เพิ่มยอดหนี้สาธารณะที่เกิดขึ้นจากฝีมือการบริหารงานของรัฐบาลในแต่ละปีด้วย คงยิ่งจะทำให้เห็นภาพชัดเจนมายิ่งขึ้นนะครับ ซึ่งคงไม่ต้องให้ผมบอกนะครับว่าใครมีฝีมือการทำงานเป็นอย่างไร เพราะตัวเลขมันฟ้องชัดเจนอยู่แล้ว ใครหารายได้เฉลี่ยให้ประชาชนเพิ่มมากกว่า ก่อหนี้สินให้ประชาชนได้น้อยกว่า เชิญทุกท่าน ทัศนากันเอง

     เห็นแบบนี้แล้วคุณ tong-01 ยังจะอ้างว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์เก็บเงินจำนวนมหาศาลไว้ในครั้งอีกเหรอครับ รึว่าดูข้อมูลของผมแล้ว ก็ไม่ใส่ใจ ยังก้มหน้าก้มตาเชื่อคารมไอ้คนรูปหล่อต่อไป ถ้าเป็นแบบนั้น ผมก็คงไปช่วยอะไรไม่ได้

     แต่คนมีสมองอย่างผมขอบอกคุณ tong-01 ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ผมจะไม่ยอมทนกับความอยากเป็นนายกของนายอภิสิทธิ์อีกแล้ว บ้านเมืองไม่ใช่ของเล่นบำบัดความใคร่ของใครคนใดคนหนึ่ง บ้านเมืองต้องการคนมีความสามารถเข้ามาบริหารประเทศ ดังนั้น ผมจะเลือกพรรคเพื่อไทย เพราะที่ผ่านมาคนไทยได้เจ็บปวดจากการบริหารงานของคนที่มีแต่ความอยากแต่ไม่มีความสามารถมามากแล้ว

     เบอร์ 1 เท่านั้น ที่ผมจะเลือก

     และก็ข้อร้องทีนะครับ วันหลังจะพูดอะไร หัดหาข้อมูลด้วยใช่ว่าแต่จะสักพูดให้ร้ายคนอื่น เอาตัวเองดีไปวันๆ