ใกล้จะถึงวันเลือกตั้งแล้ว สำหรับผมคิดว่าอยากจะหยุดรับรู้ข่าวสารการเมืองต่างๆ จนกว่าจะถึงวันเลือกตั้งแล้วไปใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้ง แต่มันก็อดใจตัวเองไม่ได้ที่จะเข้ามาอ่านกระทู้ในราชดำเนิน ซึ่งผมก็ได้เพิ่งรับรู้ว่ามีการเผยแพร่คลิปคุณปูกับคุณอริสมันต์และท่านนายกของเราก็เขียนลงในเฟะบุ๊ค "จากใจอภิสิทธิ์ถึงคนไทยทั้งประเทศ" ซึ่งก็เข้าใจว่าท่านคนจะด้านหน้าเขียนตอนที่ 4-5-6-7-8-9 ออกมาเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงวันเลือกตั้ง
ก็ให้เศร้าใจครับกับความพยายามครั้งแล้วครั้งเล่าของท่านที่ยอมทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะให้ภาพพจน์ตัวเองดีขึ้นในสายตาประชาชน แต่ก็อยากจะบอกว่าไร้ประโยชน์ครับประชาชนที่มีหัวใจเปิดกว้างรับรู้ความเป็นจริงของประเทศนี้ "ไม่โง่" อย่างที่ท่านคิด
ตัวของผมเริ่มจะมาสนใจการเมืองเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมานี้เอง และอยากจะบอกว่าผมเกลียดท่านมากในหลายๆ เรื่องดังที่ผมจะระบายให้ฟ้าเบื้องบนรับรู้ว่า
ผมเริ่มเกลียดท่านตั้งแต่ตอนที่ท่านเสนอตัวมาเป็นนายกพระราชทานถึง 2 ครั้งและไม่ส่งสมาชิกพรรคลงเลือกตั้งจนทำให้เสียงบประมาณการเลือกตั้งไปอย่างสูญเปล่าหลัก "พันล้าน"
ผมเริ่มเกลียดท่านตั้งแต่คุณหิ้วคุณกรณ์ไปมอบช่อดอกไม้ให้สนธิระหว่างการชุมนุมยึดทำเนียบ
ผมเริ่มเกลียดท่านตั้งแต่พลตำรวจเอกสมเพียร เอกสมญาดั้นด้นมาจากบันนังสตาเพียงเพื่อจะขอย้ายออกจากพื้นที่อันตรายที่ทำงานเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายทุกวันมาตลอดชีวิตเกือบ 30 ปีไปใช้ชีวิตราชการปีสุดท้ายก่อนเกษียณในพื้นที่ปลอดภัย แต่ก็พบกับความผิดหวังและกลับไปตายในหน้าที่หลังจากนั้นไม่กี่วัน (ไม่ทราบว่าผมอุปทานไปเองหรือเปล่าตอนที่ผมดูข่าวจ่าเพียรร้องทุกข์นั้นผมเห็นศิริโชคคนสนิทของท่านยืนยิ้มอยู่ที่มุมปาก)
ผมเริ่มเกลียดท่านตั้งแต่ท่านปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ท่านได้รับตั้งแต่สั่งให้ทหารออกมาปราบปรามการชุมนุมจนมีประชาชนที่เสียภาษีให้ประเทศนี้อย่างถูกต้องตามกฎหมายตายถึง 91 ศพ และบาดเจ็บ+พิการอีกกว่า 2,000 รายซึ่งท่านไม่เคยแสดงความรับผิดชอบใดๆ และไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนเลยนอกจากชายชุดดำที่เหมือนจะเป็นคำตอบทุกอย่างของปัญหาที่ท่านได้รับ
ผมเริ่มเกลียดท่านตั้งแต่รู้ว่าท่านมี 2 สัญชาติและมารับตำแหน่งผู้นำประเทศนี้โดยไม่สละสัญชาติ อังกฤษ ตลอดจนไม่เคยได้รับคำตอบอย่างชัดเจนว่าเหตุใดท่านถึงไม่สละสัญชาติอังกฤษ
ผมเริ่มเกลียดท่านตั้งแต่คุณเฉลิม อยู่บำรุงอภิปรายพาดพิงถึงท่านในกรณีภาษีบุหรี่ที่ทำให้ประเทศไทยเสียหายไปเป็นหลัก "หมื่นล้าน" แต่ก่อนหน้านั้นผมเห็นท่านดีอกดีใจกับการยึดทรัพย์ทักษิณและบอกกับประชาชนทั้งประเทศว่านั่นคือความยุติธรรม
ผมเริ่มเกลียดท่านตั้งแต่ท่านไปกู้เงินมาให้โปรโมเตอร์ของท่าน "ผลาญ" โดยที่ผมต้องมาชดใช้ให้โดยที่ท่านไม่ถามผมซักคำว่าผม "เต็มใจ" ใช้หนี้ที่ท่านไปกู้มาหรือเปล่า
ผมเริ่มเกลียดท่านตั้งแต่ไทยมีปัญหาชายแดนกับกัมพูชา มีปัญหากระทบกระทั่งบ่อยมากจนทำให้ผมเริ่มคิดว่าจริงๆ แล้วสมเด็จฮุนเซนคงมีปัญหากับพรรคของท่านและกษิต ภิรมย์มากกว่า (ขนาดผมเริ่มติดตามข่าวการเมืองมาไม่นานยังรู้เลยว่าพรรคท่านสมคบกับกลุ่มพันธมิตรเอาประเด็นเขาพระวิหารมาถล่มรัฐบาลท่านสมัคร+สมชาย แล้วมีเหรอที่เขี้ยวลากดินอย่างสมเด็จฮุนเซ็นจะไม่รู้)
ผมเริ่มเกลียดท่านตั้งแต่ท่านเอาเงินภาษีของประชาชนตั้ง 69 ล้านบาทไปจ้างบริษัทเอกชนคิดนโยบายไข่ไก่ชั่งกิโลมาขาย แต่พอได้รับการต่อต้าน+โจมตีอย่างหนักท่านก็พูดแค่ว่าเมื่อนโยบายใช่ไม่ได้ผลก็ไม่ต้องใช้ก็ได้เป็นแค่ทางเลือก ซึ่งผมจะไม่เดือดร้อนซักนิดถ้าไอ้ 69 ล้านบาทนั่นเป็นเงินเก็บของท่านไม่ใช่ภาษีประชาชน
ผมเริ่มเกลียดท่านตั้งแต่ท่านขึ้นเงินเดือน สส. + สว. โดยที่เมื่อมาเปรียบเทียบกับคณะรัฐมนตรีของประเทศญี่ปุ่นที่ยอมลดเงินเดือนตัวเองลงเพื่อเอาเงินส่วนนั้นไปช่วยผู้ประสบภัยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ก็ให้ยิ่งเจ็บใจและผิดหวังในตัวท่าน (ท่านทำงานแบบนี้ได้เงินเดือน 7,500+ประกันสังคมผมก็ยังเสียดาย)
ผมเริ่มเกลียดท่านตั้งแต่ท่านออกนโยบาย 99 วันทำได้จริง+กฎเหล็ก 9 ข้อ ซึ่งเมื่อทำจริงๆแล้วท่านทำอะไรไม่ได้อย่างที่ท่านพูดซักอย่างแถมยังแถเอาตัวรอดไปด้วยวลี "สถานการณ์มันเปลี่ยนไป"
ผมเริ่มเกลียดท่านตั้งแต่ท่านท้าคุณยิ่งลักษณ์ดีเบตตลอดเวลา แต่ผมไม่เคยเห็นท่านท้าดีเบตกับคุณชูวิทย์เลย แภมโดนพันมิตรด่าท่านเช้าเที่ยงเย็นมาเป็นเดือนแล้วท่านก็ไม่โต้ตอบด้วย ผมสรุปว่าที่พันธมิตรด่าท่านนั้นเป้นเรื่องจริงทั้งหมดก็แล้วกัน
อยากจะบอกว่ามีอีกหลายเหตุผลที่ทำให้ผมเกลียดท่านและอีกหลายเหตุผลที่ทำให้ผมเกลียดท่านที่สุด แต่มันคงไมอาจทำให้ใบหน้าหรือจิตใจของท่านสะดุ้งสะเทือนกับเหตุผลของผมได้เพราะผมคิกว่าท่านหนาเกินไปที่จะขุดให้ถึงเส้นประสาทใต้ใบหน้าของท่าน และก็อบยากจะบอกว่าอีกกี่ความพยายามของท่านไม่อาจเปลี่ยนแปลงตัวเลขในใจของผมได้
วันที่ 3 กรกฎาคม 2554 เบอร์ 1 เท่านั้น