___________________________________________

นับวันยิ่งเห็นอาการ"หมาจนตรอก" ซึ่งเป็นคำเรียกผู้ที่หมดทางต่อสู้  จึงต้องสู้ตาย

สำหรับปชป. เมื่อเริ่มหาเสียงใหม่ๆ ชูนโยบายออกมาหวังดึงดูด คะแนนนิยม  แต่ผลงานการเป็นรบ.2ปี มันเป็นคำตอบว่าทำไม่ได้จริง  ทั้งเรียนฟรี  ไฟใต้  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คอรัปชั่นและยาเสพติด

และต้องยอมรับว่า เพื่อไทยมีอะไรแปลกใหม่ออกมาได้เรื่อยๆ   ที่สำคัญคือ  ทำได้จริง  แม้จะได้แค่70% -80%  แต่ก็เป็นเรื่องใหญ่ๆแทบทั้งนั้น

เมื่อรู้ตัวว่า  หากแข่งขันด้านนโยบายต่อไป ยังไงก็เป็นรอง  แผนสำรองหรือปชป.อาจเรียกว่าแผนเด็ด ก็ถูกนำมาใช้

จะเป็นแผนสำรองหรือแผนเด็ดก็ตาม  ก็เป็นสิทธิที่จะทำได้  หากแผนนั้น  ตั้งอยู่ในความถูกต้อง

แต่มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น  ปชป.แสดงให้เห็นว่าเข้าตาจน  เมื่อสู้แบบแฟร์ๆ  ไม่ชนะ    จึงงัดกลเม็ดแบบวัดดวงว่า  เมื่อเอาทางดีไม่ได้  ก็ขอเอาทางร้ายเข้าแลก  เพราะไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว

การปลุกผีราชประสงค์ก็เป็นอีกวิธีการหนึ่ง  ที่ต้องการสะกิดรอยแผลคนกรุงเทพฯ  ที่กำลังจะแห้งตกสะเก็ด  ให้เจ็บขึ้นมาใหม่    และตะโกนบอกคนเหล่านั้นว่า  อย่าลืมความเจ็บปวดนั้น  โดยบอกว่าเป็นฝีมือของเพื่อไทย   แต่จะไม่ปริปากถึงต้นตอที่แท้จริงว่าอะไรเป็นสาเหตุ

นี่คงเป็นอีกหนึ่งวิธีการในนโยบายปรองดองของปชป. 

"อภิสิทธิ์" บอกว่า  ปราศรัยใหญ่แยกราชประสงค์ไม่ใช่ไพ่ใบสุดท้าย 

หมายถึง  การเพิ่มรอยแยกให้คนไทยครั้งนี้เป็นแค่การตอกลิ่มเบาๆ 

ถ้าสัมฤทธิ์ผล   การเพิ่มรอยแยกครั้งต่อไปจะตามมา

เสื้อแดงหรือเพื่อไทย  ไม่จำเป็นต้องทำอะไร  แค่อยู่ในที่ตั้ง 

เพราะการเดินเกมส์แบบนี้  เป็นการสร้างความเอือมระอา 

ประชาชนที่ไม่เลือกเพื่อไทย  ยังไงก็ไม่เลือก

ที่เลือกเพราะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ก็ไม่เปลี่ยนใจ

แต่ที่คิดจะเลือกปชป. ถ้ามีสมองหน่อย  ก็เบื่อ  เพราะรังเกียจวิธีการ

แทนที่จะเลือกปชป.  จะไปกาให้ชูวืทย์แทน

เรียกว่า  เพื่อไทยไม่เสีย  ปชป.ไม่ได้ และอาจจะเสียเอง

__________________