(ที่มา คอลัมน์สถานีคิดเลขที่ 12 หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 30 มิถุนายน 2554)
อยากพาทุกคนถอยห่างออกมาจากอารมณ์ความรู้สึก "ชาตินิยม"
ภายหลังนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะตัวแทนรัฐบาลไทย
ประกาศว่าประเทศไทยขอถอนตัวออกจากการเป็นภาคีของอนุสัญญามรดกโลก
ด้วยชุดคำถามของผู้รู้บางท่าน
ประการแรก ระหว่างสิ่งที่นายสุวิทย์แถลงและฝ่ายสนับสนุนการตัดสินใจครั้งนี้ชี้แจง กับข้อมูลของฝ่ายยูเนสโก
อันไหน "จริง" กว่ากัน?
ตกลงแผนการบริหารจัดการปราสาทพระวิหารของกัมพูชา ถูกบรรจุอยู่ในวาระการประชุมของคณะกรรมการมรดกโลกเมื่อวันที่ 25 มิถุนายนหรือไม่?
ถ้าไม่ การถามย้ำของคณะกรรมการมรดกโลกถึงความต้องการที่จะปกป้องและอนุรักษ์ตัวทรัพย์สิน คือ ปราสาทพระวิหาร จากความเสียหายประการใดก็ตามที่จะเกิดขึ้น จะส่งผลลัพธ์ใดตามมา?
ใช่ผลร้ายแรงขนาดที่จะทำให้ประเทศไทยสูญเสียอธิปไตยดังที่ฝ่ายนายสุวิทย์กล่าวอ้างหรือไม่?
ประการต่อมา ไทยยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนบริหารจัดการปราสาทพระวิหาร อันเป็น "ข้อตกลงทวิภาคี" ระหว่างคณะกรรมการมรดกโลกกับรัฐบาลกัมพูชาอยู่อีกหรือ?
หลังจากรัฐบาลสมัครถูกบีบให้ถอนแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ที่สนับสนุนการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก
แล้วจริงเหรอ ที่ถ้าหากแผนบริหารจัดการปราสาทพระวิหารไม่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการมรดกโลก กัมพูชาจะเดินหน้าพัฒนาโบราณสถานแห่งนี้ไม่ได้?
เนื่องจากมีหลักฐานข้อเท็จจริงยืนยันว่า หลังได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกเมื่อเดือนกรกฎาคม 2551 กัมพูชาก็เดินหน้าพัฒนาปราสาทพระวิหารและพื้นที่โดยรอบไปอย่างมากมาย
โดยมีผู้เชี่ยวชาญนานาชาติและคณะกรรมการมรดกโลกร่วมทำงานอยู่ด้วย
′มรดกโลก′ ใน ′กระจกเงา′
ย้อนกลับมาที่ปัญหาภายในประเทศไทยเอง
คำกล่าวทำนอง "ถอนตัวออกมาจากมรดกโลกก็ไม่เป็นไร เพราะเราสามารถดูแลมรดกของเราเองได้"
ก็อาจนำมาสู่คำถามที่ว่า เรามีประสิทธิภาพในการดูแลมรดกเหล่านั้นแค่ไหน? การบังคับใช้กฎหมายของเราเป็นอย่างไร?
ทั้งในกรณีอุทยานประวัติศาสตร์หลายแห่ง รวมทั้งมรดกธรรมชาติ อย่างป่าทุ่งใหญ่นเรศวร-ห้วยขาแข้ง และอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
ยิ่งกว่านั้น รัฐบาลรักษาการสมควรตัดสินใจในเรื่องสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของประเทศในระยะยาวหรือไม่?
การมีปัญหาเรื่องปราสาทพระวิหารกับกัมพูชาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้ภาพพจน์ของไทยในสายตาประชาคมโลกตกต่ำลงอย่างมาก
ด้วยลักษณะ "เกมแพ้ คนไม่แพ้"
นำมาสู่คำถามทิ้งท้าย คือ ทำไมการต่างประเทศของไทยจึงตกต่ำลงถึงเพียงนี้?
ถ้าไม่มัวแต่หลงใหลได้ปลื้มกับ "เงาของตัวเอง" ในกระจกเงาอย่างมากล้นจนเกินไป
ทว่าพยายามสำรวจตรวจสอบตนเองให้ละเอียดถี่ถ้วนยิ่งขึ้น
เราอาจพอให้คำตอบแก่คำถามเหล่านี้ได้บ้าง
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1309428071&grpid=&catid=02&subcatid=0207
ต้องมีคนบอกว่า นี่คือข้อเขียนของ "คนไทยหัวใจอะไรเอ่ย ? แน่ ๆ เลย
เพราะปชป. ซะอย่างทำอะไร ไม่เคยผิด ยิ่งทำตามที่พธม.เรียกร้อง
ก็ "ถูกต้องแล้วคร้าาาาาาบ"....พิมพ์คำว่า "เขมร" ไม่ได้
แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 54 07:50:13
แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 54 07:39:18