ประโยค "มันจบแล้วครับนาย"  ที่บาดลึกลงไปในความรู้สึก ของท่านทักษิณ  มันแฝงความเยาะเย้ย หยันหยาม  ออกแนวหัก ซึ่งความรัก ความผูกพันธ์ ความทรงจำที่เคยมีต่อกัน ทิ้งไป อย่างไร้เยื่อขาดใย  ประโยคนี้ที่บาดกรีดลงในจิตใจของพี่น้องคนไทยสิบกว่าล้าน ที่ช่วยกันเลือกพรรคพลังประชาชน  หวังให้ช่วยประคับประคองรัฐนาวาท่านสมัคร ท่านสมชายที่กำลังเอียงกระเท่เร่ จากพิษของลมอาฆาต ริษยา จากอมิตรนานาของท่านทักษิณ  ประโยคนี้ที่ฝังรอยแค้นให้ปวงชนที่มีใจรักในความเป็นธรรม  ถึงกับยอมสละชีวิตแลกมาซึ่ง สิทธิ์ เสียงที่สาบสูญไป จากอำนาจมืดของมือที่ไร้เงา  ประโยคนี้นี่เองที่ช่วยให้มือน้อยๆที่มองเห็น ช่วยกันขีดฆ่า กาไล่ คนเนรคุณให้พ้นไปจากสารระบบ ของคำว่า ผู้แทน  แม้จะมีบางส่วนที่อาจมีม่านสีเทา สีม่วง ปิดบังในตาไว้ ให้เผลอใจไปกับอามิส  แต่ก็นับว่าน้อยนัก เมื่อเทียบกับม่านที่หว่านแหวกออกไป หมดไปกี่ร้อยล้านหล่ะ  เหลืออยู่อีกเท่าไหร่หล่ะ  ที่โกยกอบเอาไปน่ะ   เอาเถอะ หัวเราะทีหลังย่อมดังกว่า  แม้ว่าวันนี้หลายคนจะหัวเราะพร้อมน้ำตา  ยิ้มเศร้าเมื่อนึกถึงภาพ เพื่อนที่หัวกระจุยด้วยคมกระสุน   แต่ในหลายความรู้สึกนั้นมีอยู่ความรู้สึกหนึ่งที่ทุกคนน่าจะมีร่วมกัน  คือรู้สึกว่าหวังได้กับอนาคตใหม่  จากประโยค มันจบแล้วครับนาย  มันจึงกลายเป็น ไปตายได้แล้วนะเน   5555