
หากมีคำถามว่า ณ วันนี้ "อำนาจนอกระบบ" คิดอะไร ?
เชื่อว่าทุก ๆ คนคงมีคำตอบเหมือน ๆ กัน คือ "อำนาจนอกระบบ" แค่ซุ่มรอจังหวะรอโอกาสที่จะเอาคืน
ณ วันนี้ บรรยากาศอาจไม่เป็นใจให้กับอำนาจนอกระบบและสมุนบริวาร
แต่เชื่อว่าพวกเขาจะค่อย ๆ สร้างเงื่อนไข สร้างบรรยากาศให้เอื้ออำนวยต่อการ "ลงมือ" ของพวกเขาในอีกไม่นาน
กว่าห้าปีที่ "อำนาจนอกระบบ" สยายปีกครอบคลุมบงการการเมืองไทย
กว่าห้าปีที่คนไทยได้รับรู้แล้วว่าวิธีการของอำนาจนอกระบบนั้น ทำให้บ้านเมืองดีขึ้นหรือเลวลง
กว่าห้าปีที่ประเทศไทยเหมือนตกอยู่ในหลุมดำ มืดมิด ไร้ทิศทาง ตกหล่มอยู่ในหลุมแห่งความขัดแย้งแตกแยกรุนแรง
อำนาจนอกระบบเคยสำนึกรู้บ้างไหม ว่าพวกตัวเองทำอะไรกับบ้านเมือง ทำอะไรกับประชาชน
ด้วยผลพวงของการ "ควบคุม" ของอำนาจนอกระบบ ที่พาบ้านเมืองออกนอกลู่นอกทางตามอำเภอใจ
ก่อนการเลือกตั้ง นานาชาติจีงแสดงออกถึงการ "ไม่ยอมรับ" กับบทบาทของอำนาจนอกระบบอีกแล้ว
เป็นเหมือนการ "ตบหน้า" ครั้งที่ 1
เมื่อผลการเลือกตั้งออกมา มันก็เหมือนเป็นการตบหน้าครั้งที่ 2
พรรคที่อำนาจนอกระบบอุ้มชูพ่ายแพ้อย่างหมดรูปทั้งสองพรรค ใน กทม. เอง คะแนนก็ใกล้เคียงกันชนิดอ้างไม่ได้เลยว่า
คนกรุงฯที่อ้างและถือกันว่ามีความรู้ มีการศึกษา เข้าถึงข่าวสาร ยังเอาและเห็นด้วยกับพรรคของอำนาจนอกระบบ
วันนี้ "อำนาจนอกระบบ" และกลไกจึงกำลัง "เลียแผล" และวางแผนในการปั่นสถานการณ์ต่อไป
กว่าห้าปีที่สูญเปล่า กว่าห้าปีที่ยับเยินไปทุกฝ่าย
วันนี้ อำนาจนอกระบบสำนึกรู้บ้างสักนิดไหมว่าใครกันแน่คือ "ตัวปัญหา" ของบ้านเมือง
ยอดหญ้าที่เบียดแทรกซอกหินขึ้นอาบแสงอุ่นแห่งดวงตะวัน จะไม่มีวันยอมสยบให้หินถมทับอีกต่อไป
หินจะยอมรับและปรับตัว หรือจะพยายามขืนข่มทับย่ำอยู่ต่อไป ย่อมขึ้นกับการรับรู้และเรียนรู้สภาวการณ์ของตัวหินเอง
หินนิ่ง ขรึมขลัง แทรกแซมด้วยหญ้างามระยับ เอื้ออิงพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน
ย่อมดีกว่าหินทะมึนกดข่มจมอัตตาไม่เห็นดอกหญ้าในสายตามิใช่หรือ
จะกดข่มจนหินแตกสลาย หรือจะสวยแซมแต้มแต่งด้วยดอกหญ้าสร้างความงามโดดเด่นไปด้วยกัน
ก็แล้วแต่หินว่าจะเลือกทางใด
หินย่อมมีวันแตกสลาย แต่หญ้าไม่มีวันตาย
นี่คือสัจธรรม คือธรรม(ชาติ)อันเป็นปกติมานับนาน...
