ในฐานะลูกชายคนเดียวของ ศ.นพ.กับ ศ.พญ.  ทำให้ได้รับโอกาสที่ ชาวบ้านสามัญชน คนธรรมดาน้อยคนนัก จะได้รับ  การเลือกให้เกิดที่อังกฤษ ทำให้ได้รับสัญชาติอังกฤษ  การได้รับการศึกษาในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก    การเข้าเป็นอาจารย์ในโรงเรียนนายร้อยอย่างง่ายดาย  การไม่เข้ารับการเกณฑ์ทหาร การฝังฝากเข้าทำงานในพรรคเก่าแก่ ล้วนแต่เป็นดั่งปราสาททราย ที่พ่อ แม่ สร้างขึ้น ก่อให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตนายอภิสิทธิ์  ทำให้นายอภิสิทธิ์เติบโตอย่างรวดเร็ว ก้าวข้ามหลายๆคนในพรรคที่เก่าแก่ที่สุด  จนก้าวมาถึงจุดสูงสุดในชีวิตในวัยเพียงสี่สิบต้นๆ   แต่ปราสาททรายหาใช่ปราสาทหิน  มันจึงไม่แกร่ง มันจึงไม่กล้า มันจึงไม่อาจต้านทานแรงลมและเกลียวคลื่นได้  ปราสาททรายสวยงาม สร้างได้รวดเร็ว กำเนิดได้ในทุกที่  แต่ไม่มีสักหลังที่ทนทาน  ไม่มีสักหลังที่อยู่ยั่งยืน อภิสิทธิ์ต่างๆที่ควรหรือที่นายอภิสิทธิ์จะได้รับ  กลับย้อนเข้ามาทำลายนายอภิสิทธิ์เอง    การกอดกับสนธิ  การโอบกับเนรวิน แม้จะทำให้ยอดปราสาทสูงตระหง่าน  แต่มันก็ทิ้งโพรง เกิดช่องกลวงภายในปราสาท  การมี2สัญชาติ การไม่ไปเกณฑ์ทหาร เปรียบดั่งการสร้างปราสาททรายที่ไร้เสาเข็ม ไร้ฐานที่หนักแน่น ทำให้ทรุดลงอย่างรวดเร็ว   และการที่เติบโตมาในสังคมตะวันตก แล้วมาใช้ชีวิตในตะวันออก ทำให้นายอภิสิทธิ์จะทำอะไรก็ขัดเขิน จะดำนาเกี่ยวข้าว  จะทอดปาท่องโก๋ จะเปิบข้าวด้วยมือ ก็ไม่เป็นธรรมชาติ ผ้าขาวม้าที่แห่กันมามัดพุงก็ดูเกะกะ จะเป็นเด็กวัดก็ไม่เนียน ทุกสิ่งอย่างเหมือนการเล่นละครแหกตาประชาชน หนำซ้ำยังเป็นละครที่ตัวแสดงเกรดต่ำอีกต่างหาก เปรียบดังจะสร้างปราสาททั้งที กลับสร้างด้วยทรายนั่นเอง   และการที่ไม่เคยต้องแพ้ใคร ทำให้นายอภิสิทธิ์มั่นใจในตัวเองสูง  ไม่ยอมลดนาวาศอกให้ใคร การต่อปากต่อคำกับแม่ค้า การยืนเถียงกันสาวโรงงาน ยอกย้อนกับหญิงแก่ล้วนสะท้อนถึงโครงสร้างทางอารมณ์ของนายอภิสิทธิ์ได้เป็นอย่างดี  ถึงวันนี้วันที่ปราสาทชีวิตของนายอภิสิทธิ์ทะลายราบลง ด้วยกระแสลมของความแค้น  ใต้ฝุ่นของความหวัง สึนามิของความจริง  แต่คงไม่เป็นไรแน่ในความคิดของผม เพราะมันเป็นแค่ปราสาททรายที่สร้างเมื่อไหร่ก็ได้