Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
10 เหตุผลที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องคิด ติดต่อทีมงาน

การเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ผ่านพ้นไปด้วยดี ผลการเลือกตั้งปรากฏว่า พรรคเพื่อไทย ชนะ พรรคประชาธิปัตย์อย่างถล่มทลาย ด้วยคะแนนเสียง 265 : 159 ภายหลังทราบผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีผลให้ คณะกรรมการบริหารพรรค ต้องหมดสภาพไปพร้อม ๆ กันด้วย

การบ้านของพรรคประชาธิปัตย์ในขณะนี้ ต้องตอบโจทก์ให้ได้ก่อนว่า พรรคประชาธิปัตย์แพ้พรรคเพื่อไทยแบบไม่เห็นฝุ่นด้วยสาเหตุใด ทั้ง ๆ ที่ หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ได้ประกาศอย่างมั่นใจมาโดยตลอดว่า “สูสี”

แต่ดูเหมือนสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์กำลังทำอยู่ในขณะนี้ เป็นการปลอบใจตัวเอง โดยไม่มีทีท่าว่าจะทบทวนถึงเหตุ ปัจจัย ที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถครองใจประชาชนได้ ที่สำคัญเหนืออื่นใด พรรคประชาธิปัตย์ยังคงยึดมั่นในแนวทางเดิมอย่างไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยการปลุกปลอบและให้กำลังใจต่อกัน ด้วยการโยนความผิดให้กับบุคคลอื่น

ในฐานะที่พรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคการเมือง จึงขอสะท้อนความคิดเห็นหนึ่งของประชาชน เพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์นำไปย้อนคิดและทบทวนว่า 10 เหตุผลที่ ชาวประชาธิปัตย์ไม่ควรเสียใจ ตามความเห็นของ แทน เทือกสุบรรณ นั้น เป็นจริงเพียงใด


1 จำนวน ส.ส. ที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับเลือกตั้งจำนวน 159 คน น้อยกว่าจำนวน ส.ส.ที่ได้รับจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2550 ทั้ง ๆ ที่ การเลือกตั้งในครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์เป็น ผู้กุมอำนาจรัฐอย่างเบ็ดเสร็จ และได้รับความช่วยเหลือจาก “มือที่มองเห็น” อย่างออกนอกหน้า ที่สำคัญเหนืออื่นใดคู่แข่งทางการเมือง ขาดบุคลากรชั้นหัวกะทิไปจำนวนกว่า 200 คน เพราะเหตุถูกตัดสิทธิทางการเมือง

2 การที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ “หักหน้า” Poll พร้อมกล่าวหาว่าเป็น “Poll รับจ้าง” และ “สื่อมวลชนเห็นแก่เงิน” เพราะผลการเลือกตั้งมิได้เป็นดังผล Exit Poll ที่ออกมาก่อนหน้านี้ เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจนักหรือไม่ เพราะสถาบันที่ทำ Poll เหล่านี้ในช่วง 2 ปีเศษที่ผ่านมา มีการทำ Poll ทางการเมืองที่โน้มเอียงไปทางรัฐบาลอย่างเด่นชัดตลอดเวลา โดยเฉพาะสื่อมวลชนหลาย ๆ สื่อ ได้แสดงธาตุแท้ออกมาในช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลอย่างไม่ละอายฟ้าดิน แม้อยู่ในช่วงการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งก็ตามที

3 การที่ แทน เทือกสุบรรณ พยายามจะกล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายในภาคใต้ และชนะในพื้นที่ส่วนใหญ่ของกรุงเทพมหานครและภาคตะวันออก จึงเป็นการยอมรับว่า พรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้อย่างหมดรูปในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง

4 หากจะดูผลการเลือกตั้งแยกเป็นรายเขตที่มีคะแนนใกล้เคียงกัน ควรดูให้ครบถ้วนทั้งประเทศ และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะดูคะแนนรวมทั้งประเทศ เพื่อชี้วัดว่า ประชาชนคนไทย มีความรักและศรัทธาในพรรคการเมืองแต่ละพรรคแค่ไหน การยกเพียงบางเขต หรือบางส่วนมาหลอกตัวเองนั้น ไม่ทำให้สถานการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ดีขึ้นแต่อย่างใด

5 คะแนนการเลือกตั้งโดยรวมในระบบบัญชีรายชื่อ เมื่อปี 2550 พรรคประชาธิปัตย์มีคะแนนน้อยกว่าพรรคพลังประชาชน จำนวนประมาณ 420,000 คะแนน ขณะที่การเลือกตั้งในปี 2554 พรรคประชาธิปัตย์มีคะแนนน้อยกว่าพรรคเพื่อไทย ถึงกว่า 4,310,00 คะแนน และที่สำคัญเหนืออื่นใด คะแนนการเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์ ในปี 2554 น้อยกว่า ปี 2550 กว่า 1,410,000 คะแนน ทั้ง ๆ ที่มีผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนมากกว่าปี 2550

6 การที่กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้ ส.ส.ในภาคตะวันออก เป็นการกล่าวเท็จเพื่อหลอกชาวประชาธิปัตย์ให้เกิดความภาคภูมิใจ โดยไม่พิจารณาจากข้อเท็จจริง และที่สำคัญไม่ได้พินิจพิเคราะห์ให้ชัดเจนว่า ในภาคตะวันออกนั้น พรรคประชาธิปัตย์ได้รับเลือกตั้งน้อยลงจากจำนวน ส.ส. ที่ได้รับเลือกตั้งเมื่อปี 2550 จำนวน 16 คน เหลือเพียง 11 คน ในปี 2554

7 ความเชื่ออย่างไม่ลืมหูลืมตาของ แทน เทือกสุบรรณ ที่ระบุว่า หากรวมคะแนน Vote No เข้าด้วยแล้ว ประชาธิปัตย์จะได้คะแนนเกือบ 200 เสียง ซึ่งมากกว่าคราวที่แล้ว เป็นเพียงการปลอบใจตัวเองอย่างไม่อายใคร เหนือกว่านั้นยังกล่าวหาแบบเดิม ๆ อีกว่า คะแนน Vote No เป็นคะแนนที่สนธิ ขโมยไปให้ทักษิณ โดยลืมนึกไปว่า คะแนนเสียงของประชาชนเป็นคะแนนเสียงบริสุทธิ์ ไม่มีใครผู้หนึ่งผู้ใดจะขโมยไปได้ รวมทั้งการแสดงละครฉากใหญ่ในเวทีโลกของรัฐบาล ที่ Walk Out เรื่องเขาพระวิหาร เพื่อเรียกคะแนนเสียงจาก Vote No ให้เป็น Vote 1o ล้วนแล้วแต่มีผลทำให้คะแนนเสียงของพรรคประชาธิปัตย์เพิ่มขึ้น

8 การพยายามกล่าวเพื่อจูงให้ชาวประชาธิปัตย์เชื่อว่า พรรคเพื่อไทยเป็นสมบัติประจำตระกูลของใครคนใดคนหนึ่ง เป็นการกล่าวในโลกแคบ ๆ (ที่มีกลิ่นหืนของมะพร้าว) โดยลืมไปว่า การพยายามยกตนให้สูงเหนือคนอื่นโดยการเหยียบย่ำขึ้นไปนั้น เป็นมารยาทที่ไม่พึงประสงค์ของสังคมไทย และหากพรรคประชาธิปัตย์ยังยึดถือแนวคิดเช่นนี้ เชื่อเหลือเกินว่าในการเลือกตั้งครั้งต่อไป พรรคประชาธิปัตย์ก็จะได้รับบทเรียนเป็นครั้งที่ 4

9 การลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อการพ่ายแพ้อย่างหมดรูปของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้เหนือความคาดหมายของประชาชนทั่วไป และหากนายอภิสิทธิ์จะกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคอีกครั้งหนึ่ง ก็เป็นสิ่งที่อยู่ในความคาดเดาอยู่แล้ว เพราะมันคือการแสดงละครโรงใหญ่โรงหนึ่งเพื่อเสริมภาพพจน์ของนายอภิสิทธิ์เท่านั้นเอง

10 ในเมื่อ แทน เทือกสุบรรณ ยอมรับว่า ประเทศไทยยังมีการปกครองในระบบประชาธิปไตย ก็ควรยอมรับว่าในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ที่ผ่านมา ประชาชนได้พิพากษาแล้ว ควรนำกลับไปย้อนคิดถึงเหตุ และผลอย่างสุภาพบุรุษ อย่าพยายามตะแบงโดยไม่ลืมหูลืมตา และอย่าพยายามสร้างความบิดเบือนจากเจตนารมณ์ของประชาชนด้วยวาทะ เช่นที่เคยปฏิบัติเป็นอาจิณ หากทำอย่างนี้ได้ ก็เชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังมีโอกาสในการเลือกตั้งครั้งต่อ ๆ ไป

จากคุณ : อรุณวลัย
เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 14:48:27 A:110.49.251.5 X:



ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com