ปชป.ซัด "แม้ว-นพดล" ต้นตอแตกแยกไทย-เขมร

ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ รักษาการโฆษกพรรค ปชป. กล่าวกรณีนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศโจมตีพรรค ปชป.เป็นผู้ก่อให้เกิดปัญหาไทย-กัมพูชาว่า หากนายนพดลไม่เคยเป็นรัฐมนตรี ประเทศไทยก็คงไม่มีประเด็นใดต้องเสียเปรียบต่อประเทศเพื่อนบ้านเช่นนี้ เพราะระหว่างที่นายนพดลดำรงตำแหน่ง ได้มีการดำเนินนโยบายเอาประโยชน์ประเทศไปแลกเปลี่ยน ทำประเทศเสียผลประโยชน์ และก่อให้เกิดประเด็นปัญหาตามมา เป็นเพราะนายนพดลในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในขณะนั้น ออกแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชามากกว่า อีกทั้งยังเป็นที่น่าสังเกตว่าสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการกระทบกระทั่งระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชานั้น เป็นฝ่ายไทยที่เริ่มก่อน ซึ่งคำให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตรงกับคำกล่าวอ้างของประเทศกัมพูชา

http://matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1311582640&grpid=03&catid=&subcatid=

"มาร์ค" ซัด "นพดล" ต้นเหตุปัญหาเขมรขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการที่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะอดีต รมว.การต่างประเทศ ออกมาวิจารณ์รัฐบาลปัจจุบันว่าทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบกัมพูชาในเรื่องคำสั่งของศาลโลกว่า ตนอยากย้ำว่าเรื่องทั้งหมดเป็นปัญหาเพราะนายนพดลไปลงนามในแถลงการณ์ร่วมกับกัมพูชาจนเป็นเหตุให้กัมพูชาสามารถขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกได้เพียงฝ่ายเดียว และรุกคืบในการเข้ามาบริหารจัดการในพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร ทำให้ฝ่ายต่างๆ ต้องไปหาทางต่อสู้เพื่อรักษาอธิปไตย ดังนั้น นายนพดลน่าจะคิดย้อนกลับไปมากกว่าเรื่องทั้งหมดมาจากอะไร ส่วนเรื่องของศาลโลกนั้น รัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ กับกระทรวงกลาโหมหารือกันในวันนี้ (25 กรกฎาคม) ว่าจะพูดคุยกับกัมพูชาอย่างไร เพราะตอนนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในพื้นที่                

..........

http://matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1311582711&grpid=03&catid=&subcatid=

อ่านข่าวแล้วก็ได้แต่เฮ้ออออ..............

เฮ้อกับพวกแหลลงตับ   โกหกอย่างไม่อายนี่  ไม่รู้พวกมันทำได้ไง

เรื่องแม้วให้สัมภาษณ์นั้น  แม้วพูดทำนองว่า ไทยเราเป็นผู้ใหญ่กว่า มีอะไรก็ค่อยพูดค่อยจา อย่าไปทะเลาะกัน

มันก็มาแปลงสารว่า  แม้วว่าไทยเริ่มโจมตีเขมรก่อน

เรื่องขึ้นทะเบียนมรดกโลก    ไอ้ "ดีแต่พูด" โกหกพกลมมานาน  โกหกมาตั้งแต่เป็นฝ่ายค้านยันเป็นนายกฯ

ก็พระวิหารมันเป็นของเขมร  เขาก็ไปขึ้นเป็นมรดกโลก  ไทยจะไปยุ่งอะไรกับเขา  จะไปร่วมกับเขาได้ไง มันไม่ใช่ของไทย

สิ่งที่นพดลเขาทำคือ  สนับสนุนให้เขมรเอาพระวิหารขึ้นเป็นมรดกโลก  แต่พื้นที่ 4.6 นั้น ร่วมกันจัดการบริหาร

ถ้าไม่เล่นการเมืองเกินไป  ป่านนี้รับทรัพย์สบายแฮไปแล้ว  รับเละ

คนตะวันตก  เขานิยมศิลปะ  อย่างหอศิลป์ประเทศเรานี่ คนชมหลักพันหลักร้อย  แต่ของฝรั่งน่ะ คนเข้าชมหอศิลป์หลักล้าน

คิดดูสิ  ปีหนึ่ง ๆ  ฝรั่งจะมาชมมรดกโลกมากแค่ไหน  พักไหน กินไหน นอนไหน เที่ยวต่อที่ไหน

ยังมีหน้ามาแหลนั่นแหลนี่   อายบ้างสักนิดไม่มี

พอศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่า แถลงการณ์ไทย-เขมรที่นพดลทำเป็นโมฆะ  มันก็จบเรื่องแล้ว แถลงการณ์ไม่เกี่ยวแล้ว

ที่เขมรมันรุกเข้ามาในพื้นที่ 4.6 น่ะ  ก็เพราะ MOU 2543  ต่างหาก   MOU ที่ทำขึ้นสมัยนายชวนเป็นนายกฯ

เฮ้อ...   มันจะโกหกไปถึงไหนว่ะเนี่ย    อายสักนิดไม่เคยมี

เหมือนวันที่ศาลโลกตัดสินออกมาว่าให้ไทยและเขมรถอนทหาร   พูดเชียวว่าเป็นผลดีต่อไทย  พูดยังงั้นยังงี้ 

โธ่ ไอ้แหล    ไม่ข้ามวัน  ไอ้ที่ว่าดี ๆ น่ะ  กลับหน้าเคร่งเชียว   เลยไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดีแน่  แล้วก็เสียงอ่อย ๆ ว่า

ฝากรัฐบาลใหม่จัดการนะ     พูดเอาดีใส่ตัว  คือการทำงานของมัน   นี่คือสไตล์ไอ้แหลลงตับ

เหมือนไอ้สุวิทย์นั่นแหละ   ทำท่าลาออกจากมรดกโลก   สร้างเรื่อง เล่นละครหวังผลทางการเมือง

สมน้ำหน้าไม่ได้เป็น ส.ส.  ได้แค่แปดหมื่นกว่าคะแนนจาก 35 ล้าน   สมน้ำหน้าจริง ๆ

จากการกระทำของไอ้สุวิทย์   อีก 12 เดือนจึงจะมีผล  ระหว่างนี้ก็ขึ้นกับว่าไทยจะยืนยันการกระทำของสุวิทย์ไหม

ถ้าไม่  มันก็ไม่มีผลอะไร   ไทยก็เป็นสมาชิกดังเดิม   

คอยดูเถอะ พวกเล่นการเมืองด้วยกระแสคลั่งชาติ  มันก็จะเอาประเด็นนี้แหละมาเป็นเหตุปิดถนนขอบริจาคอีกรอบ

พระวิหาร  เรื่องไม่เป็นเรื่อง  ก็ทำให้เป็นเรื่อง  ทำให้เป็นเรื่องแล้วยังมีหน้าว่าคนอื่นทำให้มีเรื่อง

เฮ้อ...  ขำปนคันบาทา