Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
[รักคนเสื้อแดง] กำลังรอกระทู้คุณคนชายตั้งอยู่พอดี ประเด็นเรื่องมั่ว ติดต่อทีมงาน

ประเด็นที่ 1
กระทู้ผมไม่ได้ถูกลบนะครับ แค่ link ที่ผม copy มา paste จาก rict text editor ของพันทิปมันใส่ url ผิด คุณคนชายลองเช็ค link ผมอีกที ผมแก้ให้แล้ว

ประเด็นที่ 2
แล้วจากเนื้อหาข่าวที่คุณคนชายเอามาลงในกระทู้ P10856604 นั้น ผมว่าเนื้อหาที่คุณคนชายนำมาลงนั้นไม่สมบูรณ์และนำมาใช้แสดงแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผม ดังนั้นผมขอนำเนื้อหาสำคัญของข่าวนั้นมาแสดงดังนี้


วันนี้ (22 ก.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนแจ้งวัฒนะ นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด แถลงความคืบหน้าการถอนอายัดเครื่องบินพระราชพาหนะ โบอิ้ง 737 จากประเทศเยอรมนีว่า ข้อมูลหลักฐานที่อัยการเสนอต่อศาลเยอรมนียืนยันว่าเครื่องบินเป็นทรัพย์สิน ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ไม่ใช่ของกองทัพไทย จะมายัดเยียดว่าเป็นของกองทัพอากาศได้อย่างไร ซึ่งในบัญชีรายชื่อเครื่องบินของกองทัพอากาศก็ไม่มีเครื่องบินลำนี้อยู่ในบัญชีตั้งแต่เดือน ส.ค. ปี 2007 จึงมั่นใจว่าจะสามารถนำเครื่องบินกลับมาได้โดยไม่ต้องเสียเงินค่ามัดจำแม้แต่บาทเดียว อย่างไรก็ดีสำหรังเงินประกันที่ศาลเยอรมนีมีคำสั่งอายัดเครื่องบินตามข้อกฎหมายแพ่งประเทศเยอรมนีนั้น ทรัพย์ที่ถูกอายัดและไม่มีคำสั่งเพิกถอน เราสามารถใช้หนังสือค้ำประกันจากธนาคารไปค้ำประกันโดยไม่ต้องวางเงินสด 20 ล้านยูโร เสียค่าธรรมเนียมเพียง 1-2 เปอร์เซ็นต์ของวงเงิน
       
       นายจุลสิงห์กล่าวต่อไปว่า เหตุผลที่ศาลเยอรมนีสั่งอายัดเครื่องบินไว้ชั่วคราว เพราะมีข้อมูลจากเว็ปไซต์เอกชนที่ไหนก็ไม่รู้ ระบุว่ากองทัพอากาศยังมีเครื่องบินลำนี้อยู่ แต่เรามีเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของไทยที่ยืนยันข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ดังนั้น วันนี้หากพูดถึงพยานหลักฐานที่มีอยู่ ยืนยันว่าเครื่องบินเป็นของสมเด็จพระบรมฯ 100 เปอร์เซ็นต์ เพียงแต่ต้องรอกระบวนการพิจารณาของศาลเยอรมนี ส่วนการพิจารณาคดีนั้นอัยการร้องขอให้ศาลเร่งพิจารณาคดีเร็วขึ้นให้เสร็จสิ้นภายในเดือนสิงหาคมนี้
       
       ส่วนขั้นตอนการพิจารณาไต่สวนพยานทั้งสองฝ่ายจะทำภายใน 1 วัน ซึ่งฝ่ายไทยได้เสนอบัญชีพยานต่อศาลเยอรมนีไปแล้วจำนวน 3 คน เช่น เจ้าหน้าที่กองทัพอากาศ ซึ่งเป็นผู้รู้เห็นเหตุการณ์การถวายเครื่องบินโบอิ้ง 737 เป็นพระราชพาหนะ และเจ้าหน้าที่กรมการบินพลเรือนที่รู้เรื่องการจดกรรมสิทธิ์ นอกจานนี้ยังมีหลักฐานเป็นภาพถ่ายเครื่องบินเมื่อครั้งที่ยังอยู่ในบัญชีกอง ทัพอากาศ พร้อมทั้งใบทะเบียนแสดงกรรมสิทธิ์ ซึ่งหลังจากนี้จะต้องรอฟังว่าศาลจะกำหนดฟังคดีเมื่อใด โดยฝ่ายอัยการได้ประสานขอให้เร่งรัดพิจารณาคดีให้เสร็จภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้
       
       นายจุลสิงห์กล่าวอีกว่า อัยการพิจารณาแล้วจะต้องตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูแลโดยเฉพาะ เนื่องจากเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญเฉพาะหน้าของสำนักงานอัยการสูงสุด โดยตนเป็นผู้ดูแลเอง
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่าอัยการเตรียมดำเนินการฟ้องกลับใครบ้างหรือไม่ นายจุลสิงห์กล่าวว่า มีแน่นอน 2 ประเด็น โดยเฉพาะเรื่องการยึดอายัดเครื่องบินผิดลำ และเรื่องเนื้อหาในคดี ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุดตั้งทีมงานขึ้นมาทำเรื่องนี้โดยเฉพาะ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา ส่วนจะดำเนินการฟ้องร้องใครบ้างคงจะเปิดเผยให้ทราบอีกครั้ง แต่ในส่วนของบริษัทวอลเตอร์บาวฟ้องให้รัฐบาลไทยชำระเงินตามคำวินิจฉัยอนุญาโตตุลาการนั้น ยืนยันว่าคดียังไม่จบ โดยจะมาบอกว่ารัฐบาลไทยดื้อแพ่งไม่จ่ายเงินไม่ได้ ซึ่งในเรื่องนี้ได้เตรียมยื่นอุทธรณ์ในช่วงปลายเดือนนี้ ถ้าถึงที่สุดแล้วหากจะแพ้คดีหลักเราก็ต้องยอมจ่าย ซึ่งเราเป็นประเทศไทย มีอยู่ในแผนที่ ไม่สามารถหนีออกไปนอกโลกได้
       
       “สมเด็จพระบรมฯ ทรงรับรู้ความรู้สึกของคนไทย และอยากให้คนไทยเข้าใจว่าพระองค์ท่านไม่ได้ทำอะไรผิดกฎการบิน ทรงทำถูกต้องทุกอย่าง ซึ่งท่านไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลยกับคดีที่รัฐบาลไทยกับบริษัท วอลเตอร์บาว มีคดีความต่อกัน โดยอัยการได้ถวายรายงานคดีความให้พระองค์ท่านทราบแล้ว ซึ่งคดียังไม่จบ รอยื่นอุทธรณ์อยู่ ส่วนเครื่องบินระหว่างนี้ยังจอดอยู่ที่ประเทศเยอรมนี ซึ่งพระองค์ท่านมีพระราชวินิจฉัยว่าไม่ต้องวางเงินประกัน แต่รัฐบาลไทยก็พร้อมที่จะเอาเงินวางเพื่อจะนำเครื่องบินออกมาเพื่อถวายให้ท่านทรงใช้งาน แต่พระองค์ท่านไม่ประสงค์ให้นำเงินของรัฐบาลไทยไปวาง” อัยการสูงสุดกล่าว

อ้างอิงและเนื้อหาข่าวเพิ่มเติม ผู้จัดการออนไลน์ เดลินิวส์ออนไลน์

จากเนื้อหาที่สำคัญ จะทำให้เห็นว่าการให้สัมภาษณ์ของอัยการสูงสุดนั้น มีแนวทางที่จะใช้หนังสือค้ำประกันจากธนาคารไปค้ำประกันแทนกาวางเงินสด 20 ล้านยูโร ซึ่งผมมองแล้วมันเป็นเรื่องของเทคนิคการค้ำประกัน และเรื่องที่รัฐบาลไทยพร้อมที่จะเอาเงินวางเพื่อที่จะนำเครื่องออกมาเพื่อถวายให้ทรงใช้งาน ก็เป็นแนวคิดที่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกจากทางการไทยเองที่พร้อมจะปฏิบัติ

ดังนั้นเงื่อนไขที่สำคัญคือกรอบระยะเวลาของการสู้คดีที่ไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อใดเป็นตัวแปรสำคัญ ถ้าคดีไม่จบลงง่ายๆ และศาลไม่มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงการอายัดเครื่องบิน ผมว่าเมื่อถึงเวลานั้นไม่ว่าจะใครเป็นรัฐบาลก็คงจะต้องนำเงินไปวางเพื่อที่จะนำเครื่องออกมาเพื่อถวายให้ทรงใช้งานอยู่ดี การจะปล่อยให้เรื่องคาราคาซังทอดเวลาไปจนกว่าคดีความจะจบ คงไม่ใช่ทางเลือกสุดท้ายที่ดีที่ทุกฝ่ายต้องการแน่นอน

สุดท้าย ผมก็ไม่รู้ว่าเจตนาคุณคนชายแสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนคืออะไร หาเรื่อง? ครั้นจะชวนผมไปแสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนในประเด็นอื่นๆ ที่ผมไม่ใคร่อยากจะแสดงความเห็น เพราะผมเห็นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ผมก็คงต้องขอบายครับ

จากคุณ : สิงห์สนามหลวง
เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 15:09:37 A:115.87.195.141 X:



ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com