
ความจริง
1. กลางปี 2552 คณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศได้ตัดสินว่า รัฐบาลไทยต้องจ่ายค่าเสียหายชดเชยให้บริษัท วอลเตอร์ บาว ซึ่งคำตัดสินถือเป็นสิ้นสุด
2. หลังคำตัดสิน จนถึงวันที่เยอรมันอายัดโบอิ้ง 737 ทางวอลเตอร์ บาว ได้ทวงหนี้มาโดยตลอด แต่ไทยเฉย
3. ไทยเรารู้ดีว่าอาจถูกอายัดทรัพย์สิน
ความเท็จ
1. รัฐบาลไทยให้ข่าวว่า คดียังไม่สิ้นสุด ไทยกำลังจะยื่นเรื่องอุทธรณ์
2. โบอิ้ง 737 ไม่ใช่ทรัพย์สินของรัฐบาลไทย เยอรมันไม่สามารถอายัดได้ (ความเท็จข้อนี้ หมายถึงดึงเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องมาอ้าง)
..................
มันน่าแปลกใจ และไม่เข้าใจก็คือว่า
หากคดียังไม่สิ้นสุด เจ้าหนี้จะบังคับคดีได้อย่างไร ?
หากคดียังไม่สิ้นสุด ทำไมไม่ต่อสู้ว่าเจ้าหนี้ไม่สามารถบังคับคดีได้ แต่ทำไมต่อสู้ในเรื่องโบอิ้งว่าไม่ใช่ของรัฐ ?
มันเหมือนต่อสู้ในเรื่องหนึ่ง แต่กลับอ้างเหตุผลในการต่อสู้ในอีกเรื่องหนึ่ง มันคนละเรื่องเดียวกันจริง ๆ
การต่อสู้ว่าโบอิ้งไม่ใช่ทรัพย์สินของรัฐ มันขัดกับการบอกว่าคดียังไม่สิ้นสุด
เมื่อคดียังไม่สิ้นสุด ก็ต้องแย้งว่าคดียังไม่สิ้นสุดจะมาบังคับคดีได้อย่างไร แต่กลับแย้งในเรื่องตัวทรัพย์สิน
มันเหมือนเป็นการยอมรับว่า อายัดทรัพย์สินได้แต่ต้องไม่ใช่โบอิ้งลำนี้
คือฟังการให้ข่าวของรัฐบาลเผิน ๆ แล้ว อาจจะคล้อยตาม แต่ถ้าพิจารณาดูดี ๆ แล้วจะเห็นว่ามันขัดกันจริง ๆ
พอศาลเยอรมันบอกว่า จะถอนอายัดเครื่องบินแต่ไทยต้องวางเงินประกัน 20 ล้านยูโร
เรื่องนี้ยิ่งเห็นความแปลกแปร่งของรัฐบาลมากขึ้นไปอีก
ถ้าอุทธรณ์ได้ ถ้ามั่นใจว่าจะชนะคดี แคร์อะไรกับเงิน 20 ล้าน เพราะมันไม่ใช่ให้เขา แค่วางประกัน
ถ้าแพ้คดี เขาก็เอาไป แต่ถ้าชนะคดี ก็ได้คืนมา ไม่ซับซ้อนอะไร แต่ทำไมไม่กล้าวาง
ไม่กล้าวางเพราะรู้ดีว่าคดีมันจบแล้วใช่ไหม วางเงินประกันเมื่อไรก็โดนยึดเรียบใช่ไหม
แถมยังเอาเบื้องบนมาอ้างซะอีกว่า ไม่ประสงค์จะให้วางเงินประกัน เฮ้อ...
วางเงินประกัน แล้วได้เครื่องบินกลับมาไม่ดีกว่าหรือ ดีกว่าเครื่องบินโดนอายัดอยู่อย่างนั้น
ฉะนั้น เรื่องนี้มันจึงชัดเจนว่า คดีสิ้นสุดแล้ว ไทยเราต้องจ่าย
ส่วนเรื่องเครื่องบิน ก็พิสูจน์กันต่อไปว่าเป็นทรัพย์สินของรัฐบาลไทยหรือไม่
จะเห็นว่า เรื่องคดี กับเรื่องทรัพย์สิน มันคนละเรื่อง
ถ้าพิสูจน์ได้ว่าเครื่องบินไม่ใช่ของรัฐ เยอรมันก็ต้องถอนอายัด แต่เรื่องคดีเหมือนเดิม คือไทยต้องจ่าย
ไม่เข้าใจ แปลกใจกับวิธีคิด ไม่รู้คิดอะไร เพราะคดีสิ้นสุดมาตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2252 โน่น
ไม่เข้าใจวิธีทำ คือเมื่อคำตัดสินว่าไทยต้องจ่าย แต่ไทยเราเฉย ทำไมไม่มีการพูดุคุยกับเจ้าหนี้ แถมข่าวเงียบกริบ
แปลกใจกับวิธีพูด คือแทนที่จะบอกความจริงกับประชาชน กลับพูดหลอกล่อประชาชนไปวัน ๆ
รัฐบาลทำอย่างนี้เพื่อและเพราะอะไร ? ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ
เรื่องนี้เป็นข่าวไปทั่วโลก ภาพลักษณ์ประเทศไทยในสายตาโลกจะเป็นอย่างไร
เรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์ นายกษิต กระทรวงการต่างประเทศ
คิดอะไร คิดยังไง เพื่ออะไร เพราะอะไร ทำไม ???????
ใครพอจะมองออกบ้างครับ
