
ขอคัดมาเพียงบางส่วน
.........
การสนทนาแกล้มอาหารมื้อนั้นในระยะแรกๆก็ยังเป็นเรื่องสัพเพเหระ หนักเข้าก็เป็นเรื่องการบ้านการเมือง ผมได้ปรารภจุดแข็ง จุดอ่อนของนายกฯ ทักษิณให้คุณบรรณพจน์ฟังตามประสาคนรู้จักกัน และวิตกว่าคุณทักษิณหลังคดีซุกหุ้นไม่เหมือนกับเมื่อก่อน เพราะท่านมีความเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น เหมือนคนไม่มีอะไรมายื้อยุดฉุดยั้งอีกแล้วจึงอาจระมัดระวังน้อยลง ฟังคนน้อยลงเหมือนอั้นมานาน และให้ความสำคัญแก่เป้าหมายปลายทางมากกว่าวิธีการจนอาจพลาดได้ง่าย
เช่น มักคิดว่าถ้าเจตนาดีจะช่วยคนจน จะปราบยาเสพติด จะทำให้ประเทศเจริญแล้ว วิธีการอะไรก็ช่างมัน ไหนจะมีเงิน ไหนจะมีสติปัญญา ไหนจะมีพวกพ้องเสียงเชียร์มาก ไหนจะมีเสียงในสภาท่วมท้น ไหนจะหมดชนักปักหลัง
คนอย่างนี้ผมเห็นมามากแล้วว่าจะคึกคะนองดุจอินทรชิตที่ได้ฤทธิ์จากพระเป็นเจ้าจนบิดเบือนกายินทร์เหมือนองค์อมรินทร์ทรงคชเอราวัณได้
ข้อสำคัญคือเกรงว่ารูปโฉมประเทศไทยจากนี้ไปจะเป็นรัฐตำรวจมากกว่านิติรัฐ
สาเหตุหนึ่งคือนายกฯ ฟังคนอื่นน้อยลง อีกสาเหตุคือ คนจะทักท้วงที่พอมีอยู่บ้างดูจะระอาหรือเกียจคร้านกันไปหมดแล้วเช่น คุณปุระชัย คุณสมคิด บางทีเป็นคนร่วมตั้งพรรคด้วยกัน เป็นมิตรกันมา รัฐบาลก็เห็นเขาเป็นศัตรู
และข้อสำคัญคือรัฐบาลขาดมือกฎหมาย ผมไม่ได้แนะให้ตั้งใครมาเป็นมือกฎหมาย แต่แนะไปว่ารัฐบาลควรพึ่งพาคณะกรรมการกฤษฎีกาให้มาก ขยันหารือเข้าไว้ขณะนั้นรัฐธรรมนูญใหม่ฉบับ พ.ศ. 2540 เพิ่งมีผลใช้บังคับเต็มอัตรากับรัฐบาลชุดนี้เป็นชุดแรก จึงควรระวังอิทธิฤทธิ์ ซึ่งผมเชื่อว่าจะพลาดเข้าสักวัน
..........
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมักแปรพระราชฐานมาประทับที่นี่ในหน้าร้อนและปลายปี ว่ากันว่าพอถึงเที่ยงคืน วันที่ 31 ธันวาคมต่อกับรุ่งสางวันที่ 1 มกราคม ก็จะทรงดนตรีส่งท้ายปีเก่ารับปีใหม่ พอย่ำรุ่งพระอาทิตย์ขึ้น แสงเงินแสงทองจับขอบฟ้า จะทรงเป่าแซก-โซโฟนนำข้าราชบริพารจากศาลาเริงซึ่งเป็นท้องพระโรงใหญ่ ทรงพระดำเนินบ่ายพระพักตร์ลงไปลุยน้ำทะเลเป็นประจำ!
ระยะหลังมานี้ เมื่อไม่ทรงพระสำราญนัก ได้แปรพระราชฐานไปประทับที่วังไกลกังวลเกือบเป็นการถาวรซึ่งก็เป็นการดีต่อพระอนามัยการเข้าเฝ้าฯ ทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการจึงกระทำที่นี่เสมอ
ที่จริงนายกฯ ทักษิณได้พยายามจะทำอะไรอยู่มากเพื่อให้เป็นที่ทรงพระสำราญ เช่น ให้กระทรวงคมนาคมปรับปรุงถนนหนทางจากกรุงเทพฯ ไปหัวหินเพื่อย่นเวลาเดินทาง และลดอุบัติเหตุ คงจำกันได้ว่าหมอรุ่งธรรม ลัดพลี หนึ่งในคณะแพทย์ถวายพระอาการก็ประสบอุบัติเหตุรถชนเสียชีวิตบนเส้นทางสายนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุขปรับปรุงโรงพยาบาลหัวหินเพื่อให้ข้าราชบริพารได้ใช้และจะพลอยเป็นประโยชน์แก่ประชาชนทั่วไปด้วย
รวมทั้งให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์กวดขันการรักษาความสะอาดบริเวณชายหาดและในท้องทะเลตามพระราชดำริสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เป็นเรื่องแปลกว่าอำเภอหัวหินอยู่ใกล้ตัวจังหวัดเพชรบุรี แต่ในทางปกครองขึ้นอยู่กับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ซึ่งไกลออกไปนับร้อยกิโลเมตร
นายกฯ ทักษิณเคยกราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาตให้สำนักพระราชวังดำเนินการปรับปรุงวังไกลกังวลให้กว้างใหญ่และมีอุปกรณ์ทรงงานและการถวายพระอาการครบครันเพื่อให้ทรงพระสำราญ จะได้เหมาะแก่การเป็นที่ประทับระยะยาวจนถึงขั้นเตรียมออกแบบแล้ว
แต่ไม่โปรดด้วยเหตุว่าจะเป็นการสิ้นเปลือง รับสั่งว่าอย่างนี้ก็พออยู่ พอเพียงแล้ว ส่วนการปรับปรุงถนนหนทางและโรงพยาบาลหัวหินถ้ามีงบก็ควรทำ เพราะเป็นไปเพื่อประชาชนไม่ใช่ของฉัน
ข้อนี้ผมนึกถึงครั้งหนึ่งนายกฯ ชวน กราบบังคมทูลว่าเวลานั้นตกเย็นที่หน้าทำเนียบฯ จะมีคนมาจุดประทัดแก้บนกรมหลวงชุมพรฯ เป็นประจำ บ่อยครั้งเสียงดังรัวเป็นคั่วข้าวตอกจนน่าตกใจ ไม่ทราบเกล้าฯ ว่าเสียงดังเข้ามาถึงในสวนจิตรฯ บ้างหรือไม่ จะได้ปรามไปทางตำรวจ
รับสั่งว่า อยู่ที่ว่าการจุดประทัดเป็นการผิดกฎหมายหรือไม่หรือเป็นเสรีภาพ
ถ้าถูกกฎหมายและเป็นเสรีภาพ จะดังอย่างไรทุกคนก็ต้องทน ฉันก็ต้องทน คุณชวนก็ต้องทน อย่าห่วงสวนจิตรฯ มากกว่าสิทธิเสรีภาพของประชาชน แต่ถ้าไม่ใช่เสรีภาพและผิดกฎหมาย แม้ดังมาไม่ถึงสวนจิตรฯ ก็ต้องห้ามหรือปราม อย่าใช้ตัวฉันหรือสวนจิตรฯ เป็นเครื่องวัด
.............
อ่านมากกว่านี้ได้ที่ http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1311766307&grpid=01&catid=&subcatid=
มีเรื่องราวน่าสนใจให้อ่านอีกเยอะครับ และถ้าได้อ่านทั้งเล่มจะยิ่งดี

ถึง ณ ขณะนี้
กลุ่มคนที่ชอบแอบอ้างจะสำนึกอะไรสักนิดบ้างไหมหนอ
โดยเฉพาะกับพระราชกระแสรับสั่งที่ว่า "อย่าใช้ตัวฉันหรือสวนจิตรฯ เป็นเครื่องวัด"

แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 54 15:38:13