ตามที่นายอภิสิทธิ์ออกมาพูดว่าการที่พรรคเพื่อไทยไม่สามารถทำตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชนนั้น...จะถูกฟ้องยุบพรรค....ผมจะไม่ขอพูดถึงว่ามันถึงเวลาตรงนั้นแล้วหรือ..เค้าได้เป็นรัฐบาลหรือยัง..ไม่แปลกที่ท่านรีบเร่งทำหน้าที่ฝ่ายค้าน..และไม่แปลกที่ท่านทำไมไม่มีความรู้สึกในประสบการณ์ตรงนั้น..หลังหาเสียง
ก็เพราะพรรคประชาธิปัตย์ที่มีนายอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าพรรคไม่เคยได้เป็นรัฐบาลที่มาจากการชนะการเลือกตั้ง..ไม่เคยได้เป็นรัฐบาลที่มาจากการหาเสียงด้วยนโยบาย..ไม่เคยได้เป็นรัฐบาลที่มาจากความไว้วางใจจากประชาชน..และไม่เคยได้ลองบริหารนโยบายที่เคยสัญญาไว้กับประชาชนก่อนการเลือกตั้ง..เพราะฉะนั้นนายอภิสิทธิ์ย่อมไม่มีความรู้สึกแห่งการกดดัน..หรืออารมณ์ร่วมในการที่จะทำอะไรตามฝัน..ตามเส้นทางที่ให้ไว้ในขณะหาเสียงกับประชาชน..เหมือนคุณยิ่งลักษณ์ที่กำลังมีความรู้สึกตรงนั้นในขณะนี้....
จริงอยู่นายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ตอนก่อนเป็นรัฐบาลก็มีนโยบายที่เคยแถลงไว้..นั้นเป็นช่วงที่ท่านได้เป็นรัฐบาลมาในค่ายทหาร..ได้มาจากมือที่มองไม่เห็น..ได้มาจากพลังที่มิอาจปฏิเสธ..หรือพลังแห่งเทพประทาน..อะไรก็แล้วท่านจะพูด..แต่ที่แน่ๆ..ไม่ได้มาจากการชนะการเลือกตั้งโดยนโยบายที่ให้ไว้จากประชาชน..และประชาชนส่วนมากก็ไม่ได้เลือกท่าน..
นโยบายที่เคยแถลงในช่วงนั้นย่อมมิได้รับแรงกดดันจากหลายฝ่าย..ฝ่ายค้านเอง..ก็งงเอาตัวแทบไม่รอด..ประชาชนส่วนใหญ่ก็กำลังสับสนในการเมือง..ยิ่งนักวิชาการด้วยแล้วไม่ต้องพูดถึง..เพิ่งจะออกมาก็ตอนจะได้รัฐบาลที่มาจากการชนะการเลือกตั้งนี่แหละ..อะไรก็แล้วแต่..นโยบายก็คือนโยบาย..แต่มันต่างกันใครจะทำให้มันดร่ามา..หรือใครจะหยิบมาเป็นการเมืองเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบตามวิทยายุทธที่ตัวเองถนัด..ถามว่าการที่พรรคเพื่อไทยไม่สามารถทำตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชนนั้นจะถูกฟ้องยุบพรรค....แต่นโยบายรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้แถลงไว้หลังพรรคพลังประชาชนถูกยุบ จะถูกฟ้องยุบพรรคได้หรือไม่....โปรดอ่านครับ
นโยบายรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ที่แถลงไว้เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม พศ. 2551ที่กระทรวงการต่างประเทศ จำนวน8 นโยบายดังนี้
นโยบายที่ ๑: นโยบายเร่งด่วนที่จะเริ่มดำเนินการในปีแรก จะเสริมสร้างความสมานฉันท์และความสามัคคีของคนในชาติให้เกิดขึ้นโดยเร็วโดยใช้แนวทางสันติรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย และหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในชาติในทุกกรณีรวมทั้งฟื้นฟูระเบียบสังคมและบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายฯลฯ
นโยบายที่ ๒: นโยบายความมั่นคงของรัฐ จะเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพการป้องกันประเทศให้มีความพร้อมในการรักษาเอกราชอธิปไตยคุ้มครองผลประโยชน์ของชาติโดยการเตรียมความพร้อมของกองทัพจัดงบประมาณให้สอดคล้องกับภารกิจของแต่ละเหล่าทัพฯลฯจะเสริมสร้างสันติภาพของการอยู่ร่วมกันกับประเทศเพื่อนบ้านมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งด้วยการเจรจาโดยสันติวิธีฯลฯ
นโยบายที่ ๓:นโยบายสังคมและคุณภาพชีวิต
จะทำให้ทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาฟรี๑๕ปี การปรับโครงสร้างหนี้ภาคประชาชนเพื่อนำไปสู่การลดหนี้หรือยืดเวลาชำระหนี้หรือลดอัตราดอกเบี้ยหรือพักชำระดอกเบี้ยเร่งรัดปรับปรุงแก้ไขปัญหาคุณภาพการอยู่อาศัยคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมชุมชนโดยเฉพาะชุมชนผู้มีรายได้น้อยให้ดียิ่งขึ้น,เร่งรัดการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเป็นระบบครบวงจรทั้งด้านการป้องกันการปราบปรามการบำบัดรักษาการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด และให้มีการบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด ฯลฯ
นโยบายที่ ๔ :นโยบายเศรษฐกิจ
จะสนับสนุนให้เศรษฐกิจมีการเจริญเติบโตอย่างมีเสถียรภาพโดยประสานนโยบายการเงินและนโยบายการคลังเพื่อให้มีความสมดุลระหว่างอัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจเสถียรภาพของระดับราคา และการจ้างงาน ฯลฯ ,ปรับปรุงโครงสร้างภาษีและการจัดเก็บภาษี เพื่อให้มีความเป็นธรรม โปร่งใส ฯลฯ จะขยายฐานภาคการท่องเที่ยวและบริการ พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทั้งของรัฐและเอกชน
นโยบายที่๕:นโยบายที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
จะคุ้มครองและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทุกชนิดจะจัดให้มีระบบการป้องกันรวมทั้งเตือนภัยและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยธรรมชาติโดยนำระบบข้อมูลภูมิสารสนเทศมาใช้กำหนดพื้นที่เสี่ยงภัยหรือเตือนภัยพิบัติ ฯลฯ
นโยบายที่ ๖ : นโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัย และนวัตกรรม
จะส่งเสริมและสนับสนุนโครงการวิจัยตามแนวพระราชดำริ การวิจัยและพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์และพัฒนาอุตสาหกรรมรวมทั้งเร่งรัดการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตและพัฒนา ฯลฯ
นโยบายที่ ๗: นโยบายการต่างประเทศและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
จะพัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านในทุกมิติและทุกระดับเพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีและการเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อให้เกิดเสถียรภาพความมั่นคง และความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันของภูมิภาค โดยส่งเสริมความร่วมมือในทุกสาขากับประเทศเพื่อนบ้านภายใต้กรอบความร่วมมืออนุภูมิภาคต่างๆและเร่งแก้ไขปัญหากับประเทศเพื่อนบ้านโดยสันติวิธีบนพื้นฐานของสนธิสัญญาและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ
นโยบายที่ ๘: นโยบายการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
จะสนับสนุนการกระจายอำนาจทางการคลังสู่ท้องถิ่นฯลฯ,ปรับบทบาทและภารกิจการบริหารราชการระหว่างราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่นให้ชัดเจน ไม่ซ้ำซ้อน , ในด้านกฎหมายและความยุติธรรม จะปรับปรุงแก้ไขกฎหมายและกฎระเบียบที่ล้าสมัยและเปิดช่องให้เกิดการทุจริตประพฤติมิชอบหรือทำให้เกิดประโยชน์ทับซ้อน ปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบในทุกระดับอย่างจริงจังและสนับสนุนให้ประชาชนมีโอกาสตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐมากขึ้น ส่งเสริมคุณธรรมคู่ความรู้ทั้งในและนอกสถานศึกษาเพื่อปลูกฝังค่านิยม คนไทยต้องไม่โกง
การร่างนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ที่ร่างนโยบายแบบกว้างๆกินใจ..และไม่รัดคอหรือผูกมันตัวเอง...แต่ในทางกลับกันมันหาอะไรที่สามารถจับต้องได้ยาก..ดูหลวมๆ..แน่นอนครับ..นี่เป็นนโยบายที่ไม่ได้ร่างเพื่อใช้ในการหาเสียงในการเลือกตั้ง..แต่เป็นนโยบายที่ร่างเพื่อใช้ประกอบการเป็นรัฐบาลเท่านั้นจริงๆ.. ..8 นโยบายดังกล่าวถึงแม้ว่าจะป้องกันตัวเองสุดๆ..ขอเชิญทุกท่านลองอ่านให้ครบอีกครั้ง..(ไม่ต้องชี้นำเลย)แล้วมองดูเหตุการณ์ที่ผ่านมา..พรรคการเมืองพรรคไหนกันแน่ที่ควรถูกยุบพรรค
แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 54 20:12:50
แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 54 17:21:58