ย้อนอดีต : อนาถใจ .. " กรรมการสิทธิฯออกใบอนุญาตปราบฆ่าประชาชน"
|
 |
4 เมษายน 2553 1 ในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติให้สัมภาษณ์โทรทัศน์ช่อง NBTในช่วงเวลา ราว13.30น. วันนี้ เปิดทางให้รัฐบาลดำเนินการสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดงได้ โดยให้เหตุผลว่าฝ่ายเสื้อแดงละเมิดสิทธิของผู้อื่นก่อน ส่วนรัฐบาลก็ถือว่าได้ปฏิบัติตามขั้นตอนแล้ว ขณะที่คนไทยในต่างแดนทั่วโลกออกแถลงการณ์ฉบับหนึ่งคัดค้านการใช้ความรุนแรง ต่อผู้ชุมนุม และสนับสนุนข้อเรียกร้องให้ยุบสภา นายแพทย์แท้จริง ศิริพาณิช 1ในกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับวรวีร์ วูวณิช ผู้ดำเนินรายการสถานีโทรทัศน์NBTในช่วงเวลาราว13.30น.วันนี้
ระบุในตอนหนึ่งว่า เท่าที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติติดตามสถานการณ์อยู่ในเวลานี้ เห็นว่าผู้ชุมนุมเสื้อแดงที่ย้ายมาชุมนุมอยู่ย่านราชประสงค์เป็นการกระทำที่ ละเมิดสิทธิของผู้อื่นแล้ว เนื่องจากเป็นย่านศูนย์การค้าสำคัญ ย่อมแตกต่างจากการชุมนุมที่สะพานผ่านฟ้า
ส่วนฝ่ายรัฐบาลนั้นมีการดำเนินการด้วยความอลุ้มอล่วย โดยเริ่มต้นจากการเจรจาก่อน แต่เมื่อเจรจาไม่สำเร็จก็ดำเนินการตามขั้นตอน เช่น การแจ้งเตือนผู้ชุมนุม การนำประกาศศอ.รส.ไปแจ้งผู้ชุมนุมให้ย้ายออกจากย่านราชประสงค์ และการดำเนินตามขั้นตอนต่อไป หากจะมีการสลายการชุมนุมก็ต้องมีการประกาศแจ้งเตือนก่อน ทัศนะของ กรรมการสิทธิฯคนนี้นับว่าสอดคล้องกับท่าทีของฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะศอ.รส.และเมื่อไวๆนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเพิ่งไปแถลงข่าวร่วมกับนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในค่ายทหาร รอ.11 โดยระบุว่าฝ่ายเสื้อแดงมีการละเมิดสิทธิของนายกรัฐมนตรี แต่ก็พร้อมจะเป็นกรรมการกลางในการเจรจาระหว่าง 2 ฝ่าย อย่างไรก็ตาม ฝ่ายเสื้อแดงปฏิเสธข้อเสนอที่คณะกรรมการสิทธิฯจะเป็นกรรมการกลางในการเจรจา เพราะเห็นว่าขาดความเป็นกลาง ขณะเดียวกันคนไทยในต่างประเทศออก แถลงการณ์ฉบับหนึ่งสนับสนุนข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม และคัดค้านการใช้ความรุนแรงโดยรัฐต่อผู้ชุมนุม โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ แถลงการณ์เรียกร้องรัฐบาลและกองทัพไทยให้คืนอำนาจอธิปไตยแก่ประชาชน ไทย ( joint communique from "Overseas Thai for Democracy Against Dictatorship in Thailand") ตามที่แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ หรือ นปช. พร้อมกับมวลชนไทยจำนวนหลายแสนคน ได้ร่วมกันแสดงเจตนารมย์เรียกร้องให้รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชน และให้ประชาชนได้มีสิทธิ์ใช้เสียงของตัวเองในการเลือกตั้งกำหนดทิศทางเดิน ของประเทศต่อไป อันจะเป็นการแก้ปัญหาความขัดแย้งของคนในชาติโดยวิถีทางประชาธิปไตยเพียงวิถี เดียวนั้น มวลชนไทยจำนวนหลายแสนคนได้ร่วมกันนัดชุมนุมครั้งล่าสุด ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม ศกนี้จนถึงบัดนี้นับเป็นเวลากว่าสามสัปดาห์แล้ว แต่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ยังคงเพิกเฉย และตั้งเงื่อนไขในการยุบสภาทำให้ความพยายามในการเจรจาเพื่อหาทางออกของ ประเทศอย่างสงบและสันติยุ่งยากยิ่งขึ้นไปอีก พี่น้องชาวไทยในต่าง แดนจากหลายประเทศรู้สึกห่วงใยในสถานการณ์ทางการเมือง ของประเทศไทยในปัจจุบันเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ประกาศใช้กฎหมายจะเข้าจับกุมสลายการชุมนุมในวันที่ 3 เมษายนศกนี้ อันจะเป็นการเปิดโอกาสให้รัฐบาลสามารถใช้กองกำลังทหารและตำรวจ เข้ามาปราบปรามแยกสลายการชุมนุม ของพี่น้องประชาชนที่กำลังชุมนุมกันอยู่อย่างสงบ สันติและปราศจากอาวุธได้ พวกเราจึงเห็นพ้องต้องกันที่จะประนามการ ประกาศดังกล่าวของนายอภิสิทธิ์ว่า เป็นการกระทำทำที่ขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญที่ให้ประชาชนชุมนุมกันได้โดยสันติ และขอเรียกร้องให้นายทหารทุกระดับ โดยเฉพาะระดับล่างที่ถูกสั่งการให้ปราบปรามประชาชน โปรดฝ่าฝืนคำสั่งในการฆ่าประชาชนคนไทยด้วยกันครั้งนี้้เสีย การ ประกาศดังกล่าวของนายอภิสิทธิ์ในครั้งนี้ ยิ่งแสดงให้ประจักษ์อีกครั้งหนึ่งว่า นายอภิสิทธิ์หมดความชอบธรรมจากจิตใจของ ประชาชนคนไทยทั่วโลกโดยสิ้นเชิง นอกเหนือจากการหมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ ด้วยเหตุผลสำคัญ ต่างๆ ดังนี้ 1.นายอภิสิทธิ์ได้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยความ เห็นชอบจากกองทัพ และฝ่ายอนุรักษ์นิยม และปราศจากความเห็นชอบจากประชาชนส่วนใหญ่ 2.นายอภิสิทธิ์ เป็นเพียงตัวแทนของฝ่ายอนุรักษ์นิยม และเป็นบุคคลซึ่งไร้จิตวิญญาณ เพื่อประชาธิปไตย และ เพื่อมวลชนคนส่วนใหญ่ของประเทศที่ตกทุกข์ได้ยาก พฤติกรรม ”อภิสิทธิ์ชน”ผ่านการหนีทหาร การแทรกแซงสื่อวิทยุโทรทัศน์และสื่อสิ่งพิมพ์ ห้ามไม่ให้สื่อรายงานข่าวของฝ่ายประชาธิปไตย การออกประกาศเพื่อปราบปรามมวลชนคนเสื้อแดงเมื่อเดือนเมษายน 2552 และการบิดเบือนข่าวสารว่าไม่มีการใช้ความรุนแรงต่อมวลชนในเหตุการณ์ดังกล่าว 3.รัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ มีพฤติกรรมบริหารประเทศโดยการทุจริตคอรัปชั่น นับตั้งแต่บริหารประเทศเป็นระยะกว่าหนึ่งปีที่ผ่านมา มีรัฐมนตรีจากพรรคประชาธิปัตย์ถึงสามคนจากกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและมนุษย์ และอดีต รองนายกรัฐมนตรีที่จำต้องลาออกจากตำแหน่งเพราะถูกเปิดโปงการคอรัปชั่น 4.นาย อภิสิทธิ์ ไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสร้างความสมานฉันทน์ ภายในประเทศได้ นายอภิสิทธิ์ใช้มาตรการกู้เงิน เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจในวงเงินกู้ ที่สูงสุดกว่าสมัยรัฐบาลชุดก่อน จากเดิมวงเงินกู้ที่ 10% กลายเป็น 20 % ของงบ ประมาณรายจ่าย หรือคิดเป็นวงเงินกู้กว่าสี่แสนล้านบาท ส่วน ปัญหาความแตกแยก ของคนไทยในสังคมนั้นก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข นายอภิสิทธิ์ไม่เคยมีความพยายาม อย่างเป็นรูปธรรมในอันที่จะสร้างความสมัครสมานสามัคคี ีระหว่างคนไทยด้วยกัน เลย ดังนั้นพี่น้องชาวไทยในต่างแดนจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกทั้ง อเมริกา คานาดา ออสเตรเลีย อังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ ญี่ปุ่น ไต้หวัน จีน รัสเซีย ซาอุดิอาระเบีย และ อิสราเอล เห็นพ้องต้องกันว่าทางออกของประเทศไทยจากวิกฤติการณ์ครั้งนี้มีเพียง ทางเดียวคือ การที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะจะได้ ประกาศยุบสภาโดยทันทีเท่านั้น. ลงนามโดย องค์กรแนวร่วมชาว ไทยในต่างประเทศเพื่อประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการ 4 เมษายน 2553 -กลุ่ม คนไทยในสหรัฐอเมริกา -คนไทยในเยอรมนนี -ชาวไทยในเนเธอร์แลนด์ -ชาว ไทยในสหราชอาณาจักร -ชาวไทยในออสเตรเลีย -ชาวไทยในฝรั่งเศส -ชาว ไทยในญี่ปุ่น -ชาวไทยในไต้หวัน ขชาวไทยในจีน -ชาวไทยในรัสเซีย -ชาว ไทยในต่างประเทศอื่นๆทั่วโลก
...!!!!!! ------------------------------
น่าอนาจ...กรรมการสิทธิมนุษยชน ละเมิดสิทธิมุนษย์ประชาชนในชาติเดียวกันเอง นี่คือเมืองไทย เมืองฆาตรกร
กินเงินเดือนประชาชน แต่หนุนหลังให้ฆาตกรรมประชาชน
แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 54 23:34:48
จากคุณ |
:
spindle
|
เขียนเมื่อ |
:
28 ก.ค. 54 23:34:00
A:110.77.250.45 X:
|
|
|
|