
อ่านข้อเขียนของ "หนุ่มเมืองจันท์" ชิ้นนี้แล้ว .........
.......
แด่ "ปชป." ด้วยรัก
โดย สรกล อดุลยานนท์
ในฐานะคนรักประชาธิปไตยคนหนึ่ง ผมหวังอย่างยิ่งว่าพรรคประชาธิปัตย์จะปรับตัวครั้งใหญ่
นำความพ่ายแพ้อย่างยับเยินในครั้งนี้มาเป็น "บทเรียน"
เพราะในระบอบประชาธิปไตย ไม่มีใครต้องการให้มีพรรคการเมืองใดผูกขาดชัยชนะในการเลือกตั้ง
เราต้องการ "การแข่งขัน" ที่มีคู่แข่งที่ไม่ห่างไกลกันมากนัก
ไม่ใช่ขาดลอยระดับ 265 ต่อ 159
เพราะถ้าเมืองไทยมีพรรคการเมืองใหญ่เพียงพรรคเดียวที่เหนือกว่า "คู่แข่ง" มากเกินไป
ไม่มีหลักประกันใดที่ "เพื่อไทย" จะไม่หลงลำพอง
อย่าลืมว่า "อำนาจ" นั้นไม่เข้าใครออกใคร
ใครที่มี "อำนาจ" นานๆ มักเกิดอาการ "หลงอำนาจ" อยู่เป็นประจำโดยไม่รู้ตัว
ดังนั้น เมื่อการเมืองไทยเข้าสู่ระบบ "2 พรรคใหญ่" อย่างชัดเจน เราต้องตั้งความหวังและเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ปรับตัวครั้งใหญ่ เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่สมบูรณ์
กรณีของ "ประชาธิปัตย์" นั้นทำให้นึกถึงบทเรียนทางธุรกิจเรื่องหนึ่ง
นั่นคือ การแข่งขันระหว่าง "เบียร์สิงห์" กับ "เบียร์ช้าง"
"เบียร์สิงห์" เป็นเจ้าตลาดเบียร์มานาน ครองส่วนแบ่งการตลาด 80%
แต่เพียงแค่ 3 ปีที่ "เบียร์ช้าง" ออกสู่ตลาด "เบียร์สิงห์" ก็สูญเสียตำแหน่ง "แชมป์" ไป
ครั้งนั้น "สันติ ภิรมย์ภักดี" เรียกประชุมผู้บริหารทั้งหมด
และประกาศว่า "เราแพ้แล้ว"
เป็นการยอมรับความพ่ายแพ้อย่างจริงใจ ไม่ใช่การยอมรับความพ่ายแพ้ด้วยสำนวนแบบเท่ๆ เพื่อปกป้องตัวเอง
"ผมยอมรับว่าเราแพ้ แต่เราไม่ยอมแพ้"
เป็น "คีย์เวิร์ด" สำคัญของ "สันติ" ที่ประกาศในที่ประชุม และนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จนทำให้ค่ายสิงห์กลับมาเป็นแชมป์อีกครั้งหนึ่ง
เขานำ "ความพ่ายแพ้" มาเป็น "บทเรียน"
การยอมรับ "ความพ่ายแพ้" อย่างจริงใจ จะทำให้เราอ่อนน้อมถ่อมตนมากขึ้น
กล้ายอมรับ "ความเก่ง" ของ "คู่แข่ง"
และยอมรับ "ความผิดพลาด" ของตนเอง
เพราะถ้าปราศจากการยอมรับอย่างจริงใจ "ปัญหา" ที่ดำรงอยู่ก็จะไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง
จุดเริ่มต้นของการกลับสู่ความเป็น "ผู้ชนะ" อีกครั้งของ "เบียร์สิงห์" คือการยอมรับความพ่ายแพ้
ความพ่ายแพ้นั้นเหมือนกับการตกลงไปในหุบเหว
เราไม่มีทางขึ้นจากเหวได้เลยถ้ายังแหวกว่ายอยู่ในอากาศ
การยอมรับความพ่ายแพ้ก็เหมือนกับการยอมรับการลงสู่ก้นเหว
เพื่อที่เท้าจะได้แตะพื้น
จากนั้น จึงย่อตัวและกระโดดใหม่อีกครั้ง
วันนี้ ถ้าจะให้แนะนำ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" และ "สุเทพ เทือกสุบรรณ"
ผมอยากให้ 2 คนนี้บอก "จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี" ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ให้ช่วยนัด "สันติ" ให้ เพื่อเข้าไปซึมซับบทเรียนแห่งความพ่ายแพ้ และแนวทางการพลิกเกมสู่ "ชัยชนะ"
เพื่อที่ "ประชาธิปัตย์" จะได้กลับมาเหมือน "เบียร์สิงห์"
ขอเอาใจช่วยอย่างจริงใจ
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1312012098&grpid=&catid=02&subcatid=0207
อยากบอกคุณ "หนุ่มเมืองจันท์" ว่า
ปชป. น่ะ แหวกว่ายอยู่กลางอากาศมาหกสิบกว่าปีแล้วครับ
แหวกว่ายอากาศไป นิ้วก็ชี้ ปากก็พูด ว่า "เพราะคนอื่น"
คิดดูสิครับ คนอายุหกสิบห้าปีที่มีนิสัยแย่ ๆ เอาแต่ชี้โทษคนอื่นอยู่ตลอดเวลา
ถึงวันนี้ จะปรับตัว เปลี่ยนนิสัยได้หรอครับ
เห็นไหมครับ ประกาศลาออกอย่างเอาเท่ว่า การเป็นหัวหน้าพรรคที่ดีต้องแสดงความรับผิดชอบ
พูดเอาเท่เสร็จ ก็จะกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคอีก
คุณหนุ่มเเมืองจันท์คงลืมนึกไป
ว่าคนที่แหวกว่ายอยู่กลางอากาศน่ะ หูอื้อครับ
สีซอดังแค่ไหนก็ไม่มีทางได้ยิน
เชื่อคนที่หล่อกว่าคุณเถอะครับ
