เรียน คุณโป๊งเหน่ง
ตามที่คุณอ้างหนังสือพิมพ์ไทยรัฐมาสนับสนุนความเห็นคุณว่านักลงทุนหนีไม่ยอมมาลงทุนในไทย เพราะค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทของว่าที่รัฐบาลใหม่นั้น ผมไม่เห็นด้วยกับความเห็นของคุณและการให้ข่าวของกรมโรงงานอุตสาหกรรม
1.จากข่าวของไทยรัฐที่แปะมาในกระทู้ เป็นการใส่ความในเรื่องค่าแรงขั้นต่ำเพียงด้านเดียว ทั้งที่ปัจจัยในการลงทุนของนักลงทุนมีมากมายทั้งเรื่องสภาวเศรษฐกิจโลกอย่างเช่นพี่เบิ้มสหรัฐเป็นหนี้สูงติดเพดาน(คล้ายๆนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลไทยที่ผ่านมาที่อ้างว่าเพดานหนี้ไทยยังไม่สูงติดเพดาน), สภาวภูมิอากาศที่ไทยกำลังถูกถล่มอย่างหนัก, ปัจจัยพื้นฐานประเทศอื่นดีกว่าหรือมีการปรับปรุงพัฒนาดีกว่าประเทศไทย เช่น มาเลเซีย เป็นต้น ในขณะที่ประเทศไทย 3G ยังไม่รู้จะดำเนินการอย่างไร
2.นักลงทุนที่ไม่มาลงทุนเป็นนักลงทุนในด้านใดไม่ได้บอกไว้ แต่ผมมีข้อสังเกตุว่านักลงทุนที่มองแต่ค่าแรงขั้นต่ำ จ่ายต่ำเท่าไหร่ได้ยิ่งดี ไม่เคยมองการกระจายรายได้ให้กับผู้ร่วมงาน ถ้าคุณเป็นผู้รับค่าแรงขั้นต่ำหรือคนไทยที่รู้ทันนักลงทุนคนนี้คุณคิดว่านักลงทุนนี้ "น่าคบหามาลงทุนในไทยหรือไม่"
3.ค่าแรงขั้นต่ำได้มีการแก้ไขในส่วนของผู้ประกอบการให้มีกำไรเพิ่มขึ้นจากการลดอัตราภาษีของกำไรประจำปีแล้ว ผู้ที่ไม่ได้รับประโยชน์จากการลดอัตราภาษีมี 2 คน คือคนที่ทำบัญชีโกงภาษีทุกปีอยู่แล้วกับคนที่ไม่เคยชำระภาษี หากแม้ว่านักลงทุนได้บีโอไอก็ต้องไปดูว่าเขาอยู่ในภาคอุตสาหกรรมใด ไม่ใช่ไปเหมาเข่งสรุปเอาดื้อๆ
4.ธุรกิจมันมีการปรับเปลี่ยนไปตามสภาพเศรษฐกิจ การที่อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคืออุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานแบบเข้มข้นคือค่าแรงเป็นต้นทุนสำคัญ คุณว่ามันอยู่ในภาคอุตสาหกรรมใดบ้าง แล้วคุณคิดว่าปัจจุบันแรงงานไทยเพียงพอสำหรับอุตสาหกรรมทุกประเภทหรือเปล่า ทำไมอุตสาหกรรมบางประเภทจึงใช้แต่แรงงานต่างด้าว อุตสาหกรรมเหล่านี้ก่อให้เกิดปัญหาทางสังคมมากมายแล้วเคยทำอะไรที่เป็นการรับผิดชอบต่อสังคมไทยหรือไม่ หากอุตสาหกรรมที่เอารัดเอาเปรียบแรงงานอยู่ไม่ได้ก็ไปเอารัดเอาเปรียบและไปสร้างปัญหาที่ประเทศด้อยอื่นๆ อุตสาหกรรมในบ้านเราก็จะพัฒนาไปสู่อุตสาหกรรมการสร้างมูลค่าเพิ่ม ไม่เอาเปรียบแรงงาน ไม่สร้างปัญหากับสังคม
5.ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่ทำให้ได้เพียงอย่างเดียวไม่มีเสีย ผู้ได้รับผลกระทบจริงๆคงต้องมี เช่น เอสเอ็มอีบางประเภท ซึ่งรัฐบาลบอกแล้วว่าจะมีการพิจารณาช่วยเหลือสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจริงๆ แต่ผู้ใช้แรงงานเป็นฐานปิรามิดของประเทศไทย การขับเคลื่อนที่ฐานย่อมทำให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงกว่าให้เศรษฐีที่ยอดปิรามิดไทยได้ ประเทศไทยได้มากกว่าเสีย ส่วนตัวผมเห็นว่า "เราเดินมาถูกทางแล้ว"
ขอบคุณครับ