Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
...300 บาทต่อวัน ว่าทำไม่ได้ แต่เอ๊ะๆ เสียงชักแผ่ว... ติดต่อทีมงาน

เคยอ่านนิทานเรื่องหนึ่ง ..เต่ากับปลา !

“เต่า”สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ วันไหนลงไปในน้ำก็เอาเรื่องบนบกไปเล่าให้ปลาฟัง บอกว่าบนบกนั้นมีสัตว์อื่นๆอีกมากมาย มีมนุษย์ มีบ้านช่องใหญ่โต มีรถรา มีทีวี มีเครื่องบิน พัดลมตู้เย็น มีโทรศัพท์มือถือ ที่สำคัญมีประเทศไทยด้วย..มีนายกฯชื่ออภิสิทธิ์ด้วย

ปลาได้ฟัง ก็ขำก๊าก จับกลุ่มกันนินทาเต่าอย่างเมามันส์และออกรส พูดกันเป็นเสียงเดียวว่า “ตั้งแต่เราเกิดมาจนว่ายน้ำเป็นแล้วนี่ ยังไม่เคยเห็นที่ไอ้เต่ามันพูดสักทีเลย แม่มมั่ว จินตนาการ แหกตา มีที่ไหนวะ” จากนั้นจึงสรุปกันเป็นมติเอกฉันท์ ..เต่าบ้า !

เต่าเมื่อขึ้นมาบนบก ก็เอาเรื่องในน้ำมาเล่าให้สัตว์บกอย่าง “กระต่าย”ฟังว่า “รู้มั๊ย ในน้ำนะ มีสัตว์หลายชนิด มีปลาสวยงาม หลากสี และสัตว์น้ำหน้าตาแปล๊กแปลกเหมือนอีตาสุเทพเทือกด้วยนะ แถมมีปลาชะโดหน้าเหมือนอ้ายเทพไท ปลากระสงหน้าแหลมๆเหมือน น.ต.ประสงค์ฟันดำด้วยนะ ..เชื่อมั๊ยละ”

กระต่าย ส่ายหัวมองเต่าด้วยความแค้นชนิดฝังหุ่นที่ครั้งหนึ่งเคยวิ่งแพ้เต่า จนชาวบ้านจำไปเล่าเป็นนิทานสอนเด็กเรื่องกระต่ายกับเต่า แต่พูดอย่างเย้ยหยันว่า “อิมพอสสิเบิ้ล ที่เอ็งพูดมาน่ะ มันไม่มีหรอก ก็มีแต่สัตว์บกอย่างเอ็งอย่างข้านี้แหละ ข้าจะไม่เชื่อเอ็ง จนกว่าวันหนึ่งข้าจะได้ใส่ชุดมนุษย์กบดำน้ำไปดูให้เห็นด้วยตา จึงจะเชื่อ” ...มันว่างั้น !

มีคนอยู่ 2 กลุ่ม ที่ออกมาต่อต้านนโยบายพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะนโยบายค่าแรง 300 บาทต่อวัน..ทำไม่ได้

กลุ่มแรก คือกลุ่มรู้ว่าทำได้..แต่ไม่อยากให้ทำ !


กลุ่มนี้ รู้ดีว่ายี่ห้อพรรคเพื่อไทยทำได้แน่ๆ แต่ไม่อยากให้ทำได้ จึงออกมาต่อต้านเพื่อสร้างความสับสนให้กับสังคม สร้างความหวาดกลัวให้กับนักธุรกิจ หวังชักจูงให้ออกมาร่วมแรงต่อต้านนโยบายนี้ ไม่ให้เกิดขึ้น เป็นการปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง เพราะตนเองจะได้รับผลประโยชน์น้อยลงไป .. “ขาดทุนกำไร”

แต่ตอนพรรคเพื่อไทยเสนอนโยบายใหม่ๆ ไม่ได้ออกมาค้านอะไร เพราะคิดว่าอย่างไรเสีย ประชาธิปัตย์ก็ต้องกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง ด้วยเชื่อในอิทธิฤทธิ์ของทหารไทย เชื่อในเวทมนต์ของมือมืด ..อานุภาพอันเกรียงไกรในการโกงการเลือกตั้ง

คนเหล่านี้ หมกตัวอยู่ในสอท.บ้าง หอการค้าบ้าง มหาลัยบ้าง ซึ่งได้พยายามกุข่าว สร้างเรื่อง ประดิษฐ์ถ้อยคำทำให้ผู้คนทั่วไปตื่นกลัว รวมถึงอาจหวังผลให้นักธุรกิจต่างชาติที่จะมาลงทุนในประเทศ ชะลอการลงทุนในระยะนี้ไปก่อน ..ตบหน้ารัฐบาลใหม่ !

ในกลุ่มคน “ผู้สูงส่ง”เหล่านี้ ก็แตกตัวไปอีกหลายประเภท เช่น นักวิชาการหัวโบราณที่เกลียดทักษิณอย่างหมอประเวศ,พวกแฟนพันธุ์แท้ ปชป., แฟนพันธุ์แท้ พธม., ฯลฯ เพราะกลัวนักกลัวหนาว่าถ้าเป็นจริงขึ้นมา จะทำให้ “คนที่รัก พรรคที่ชอบ”ของตน จะไม่มีวันได้ผุดได้เกิดอีกต่อไป กลายเป็น “ผีฝ่ายค้านอมตะ” เร่ร่อนไร้จุดหมาย สัมภเวสี..ชั่วกัปชั่วกัลป์

เคยได้ยินคนประเภทนี้ คุยกันว่า ที่ไม่อยากให้ได้ค่าแรง 300 บาทนั้น เพราะว่าคนชั้นแรงงาน ไม่ได้รับการฝึกอบรมให้รู้จัก “ค่าของเงิน”พอได้เงินมาก ก็จะพากันใช้แบบสุรุ่ยสุร่าย ไม่ประหยัดหรืออดออม..โห เหตุผลแบบคลาสสิค

กลุ่มที่สอง มีความคิดใสๆว่าทำไม่ได้...และไม่มีทางทำได้ !

กลุ่มนี้ คิดว่าอย่างไรเสียก็ทำไม่ได้เด็ดขาด ไม่มีทางทำได้ ชัวร์ล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะมองซ้ายมองขวาแล้วก็คิดเองเออเอง จากนั้นสรุปออกมาว่า “วันละตั้ง 300” ..ใครจะจ้าง

คนกลุ่มนี้ เชื่อว่า ถ้าประเทศไทยทำอย่างนี้จริง จะทำให้ภาวะเศรษฐกิจของไทยต้องถึงกาลพินาศและล่มสลายเหมือนอาร์เจนติน่า ภายใน 3 วัน 7 วันทีเดียว ซึ่งคำพูดคำนี้ เคยพูดไว้ตั้งแต่สมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทยทำโครงการประชานิยมมาแล้ว แต่ปรากฏว่าประเทศกลับเจริญขึ้นๆ..ไม่ล่มสักที

โดยข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ขนาดประชาธิปัตย์เข้ามาบริหารประเทศ ทำโครงการ “อภิมหาประชานิยม” ยิ่งกว่าพรรคไทยรักไทยตั้งหลายเท่า กู้เงินสารพัด บริหารแบบห่วยแตก เละเทะจนดูไม่ได้อยู่ทุกวันนี้ ประเทศก็ยังไม่ยอมล่มสลายสักที..แหม๊ ! สงสัยจะมีพระรอด

หลักๆ กลุ่มนี้ เอามาตรฐานของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งไม่เคยทำอะไรได้สำเร็จตามนโยบายที่เคยให้ไว้กับประชาชนก่อนวันเลือกตั้ง ไปเทียบกับพรรคเพื่อไทย เมื่อเห็นพรรคประชาธิปัตย์ยังทำไม่ได้ ก็คิดตัดสินว่าเพื่อไทยก็ไม่มีทางเหมือนกัน ..เทียบคุณภาพด้านมันสมอง

การเปรียบเทียบ “โง่เท่ากัน”นั้น ก็ไม่ได้ย้อนคิดไปถึงอดีตของพรรคเพื่อไทยที่ฝากผลงานไว้กับประชาชนจนเป็นที่รักใคร่ เชื่อใจ มั่นใจใน “ศักยภาพด้านมันสมอง” กับผลงานต่างๆได้รับการดูถูกเหยียดหยาม และต่อต้านจากคนกลุ่มนี้ในยุคนั้นว่าทำไม่ได้เหมือนกัน ..เหมือนกับตอนนี้

หรืออาจเป็นไปได้ว่า ภาพเลวร้ายของพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นรัฐบาล ยังฝังแน่นอยู่ในความทรงจำ คอยหลอกหลอนให้นอนสะดุ้งผวา พอมาเห็นพรรคเพื่อไทยคิดนโยบายในสิ่งที่ตนเองไม่รู้จักขึ้นมา ก็ทักทึกเหมารวมเอาว่าทำไม่ได้..ปัญญาอ่อนเหมือน ปชป.

ครับ..นี่คือคนสองกลุ่ม !

แต่ตอนนี้ เอกชนหลายราย ได้ออกมาสนองนโยบายของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยการ “นำร่อง” ให้เห็น ขึ้นค่าแรงให้ลูกจ้างไปแล้ว 300 ร้อยบาทต่อวัน แถมซีพีและบริษัทฯในเครือของเสี่ยเจริญก็ออกมาขานรับอีก ..เอากันใหญ่

จึงทำให้ระยะหลังๆมานี่ เสียงคัดค้านว่าทำไม่ได้ชักเริ่มแผ่วลงไป สุ้มเสียงฟังไม่ชัดเจนเหมือนตอนแรกๆ นี่แค่เจอเข้าไปดอกสองดอกเท่านั้นนะ ..เริ่มเป๋

จึงบอกให้รู้ว่า บางที การเอาเรื่องบางเรื่องไปพูดให้คนที่มีโลกทัศน์เพียงด้านเดียวฟัง ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา เพราะเขามีความรู้แค่นั้น หรืออคติบังตา พูดไปก็ป่วยการ...ต้องทำให้เห็นคาตา

สงสัยอีกสิ่งหนึ่งที่พรรคเพื่อไทยต้องเร่งทำโดยด่วน คืออัดงบประมาณด้านการศึกษาให้มากที่สุด เพื่อคนไทยจะได้ฉลาดขึ้นกว่านี้ เมืองไทยจะได้เจริญซะที ..ว่าม๊ะ !!!

จากคุณ : ปลายอ้อกอแขม
เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 54 14:37:48 A:61.90.125.144 X:



ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com